ร่วมด้วยช่วยกันขอบคุณหลายๆท่านที่ให้ความรู้ครับ (จริงๆแอบเข้ามาเนียน) 0:)

ถ้าเป็นปกติ ไฟล์ที่เพิ่มมาจากการติดตั้ง จะถูกลบออกไป เมื่อเรากด uninstall ครับ ยกเว้นข้อมูลบางอย่างที่อาจจะยังหลงเหลือ ตกค้างไว้ในเครื่อง จำพวก data ต่างๆของแอพที่เพิ่มมาหลังจากการใช้งาน

แนะนำก่อนที่จะ uninstall แอพอะไรก็ตาม เข้าไป clear cache, clear data ให้หมดก่อน แล้วค่อยกด uninstall แอพนั้นๆครับ จะช่วยให้ลบแอพต่างๆได้สะอาดหมดจดมากขึ้น

แต่ก็อาจจะยังมีเหลือไฟล์ตกค้างบางอย่าง อย่างเช่นโฟลเดอร์ที่ซ่อนไว้ของแอพนั้นๆ อันนี้คงต้องตามไปลบเองครับ ถ้าความจุของสิ่งตกค้างมันเยอะเกินความจำเป็น

ถ้าอยากใช้งาน S3 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ของ Jelly bean 4.1.1 แนะนำให้ใช้เมนูภาษาอังกฤษนะครับ

หากแต่ว่า ถ้าไม่คิดอะไรมาก เมนูภาษาไทยก็ใช้ได้ในระดับนึง

ที่บอกแนะนำให้ใช้เมนูภาษาอังกฤษก็เพราะว่า บางแอพ บางฟังก์ชั่น ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ถ้าใช้กับเมนูภาษาไทยครับ (แต่ก็ยังสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้)

จะเห็นได้จากบางปัญหา ที่เปลี่ยนเป็นเมนูภาษาอังกฤษปุ๊บ แก้ปัญหาได้ปั๊บ (บางปัญหานะครับ)

ถ้ารูทเครื่องใช้งานอยู่ ก็หา luck patcher มาลงในเครื่อง
[color=red](ลงเพื่อแก้ปัญหา ไม่ได้แนะนำให้ลงเพื่อใช้งานอย่างอื่น)[/color]

เปิดแอพ กดเมนู เลือก Troubleshooting แล้วเลือก Remove fixes and backups (insufficent storage available)

เสร็จแล้วก็ uninstall lucky patcher ออกไปซะ แล้วรีเครื่อง1รอบ ก็น่าที่จะแก้ปัญหาได้ในระดับนึงครับ

—————–

หรืออาจเป็นปัญหาที่ Dalvik cache ตกค้างอยู่ในเครื่องก็เป็นได้ วิธีแก้ บูทเข้า cwm แล้ว wipe dalvik cache ก็อาจที่จะช่วยได้ในระดังนึงครับ หรือถ้าใช้งาน Titanium backup อยู่ ที่เมนูจะมี Clean up the Dalvik cache… อยู่เหมือนกัน

ก็อาจจะช่วยได้ในระดับนึงครับ

—————

2 วิธีข้างต้น ทำแล้วไม่มีผลกับ ข้อมูลในเครื่อง กล่าวคือ ไม่ใช่การ factory reset ไม่ต้องเป็นกังวลว่าข้อมูลจะหาย

—————-

หากแต่ว่า ถ้าลองแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้ Factory Reset คือคำตอบสุดท้ายของการแก้ปัญหาครับ!!

หลัง Factory reset ตัวรูทไม่หายครับ (ถ้าแฟลชรอมใหม่ ถึงจะหาย)
เมนูภาษาไทย ถ้าเป็นรอมศูนย์ไทยปกติ ก็ไม่หายครับ (เพราะมันติดอยู่กับรอมที่ใช้)

ได้ลองเทสกับ stock browser แล้วใช่ไหมครับ? ที่บอกว่าเล่นแฟลชไม่ไดั?

คงบอกอาการได้ยาก เพราะส่วนตัวยังไม่เคยโดนไวรัสมือถือเล่นงาน แต่ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องคุณโดนไวรัสประเภทไหน แบบไหน ชนิดไหน เล่นงานครับ…

โดยปกติ (เทียบกับไวรัสคอมพิวเตอร์) ถ้าเป็นโทรจัน ก็จะทำให้การใช้งานเน็ท ช้าลง เครื่องทำงานหนัก และช้าผิดปกติ อุณภูมิเครื่องสูงกว่าปกติ ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

แต่ถ้าเป็นไวรัสชนิดอื่น ก็คงเป็นไปตาม การทำงานของไวรัสนั้นๆครับ

ตามที่คุณ baiporuvc บอกเลยครับ

ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนครับว่า มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนกับการที่จะเจอไวรัส บนการใช้งานมือถือ กล่าวคือ ถ้าใช้งานแบบปกติทั่วไป โอกาสเจอจะค่อนข้างน้อย (ในความคิดผมนะ) แต่ถ้าเป็นการใช้งานแบบไม่ปกติ โอกาสเจอก็จะเยอะขึ้นครับ

ส่วนตัวเคยลองใช้งานอยู่พักนึง (ประมาณ 30 วันแรกของการลงแอพสแกนไวรัส ตอนนั้นลง Lookout) ก็ไม่เคยเจอว่า Lookout จะฟ้องเตือนว่าเจอไวรัสอะไร ตลอดเวลาที่ลง Lookout หลังจากนั้นก็ uninstall ออกเลยครับ เพราะการใช้งานเครื่องของผม คิดว่าคงมีโอกาสเจอไวรัสได้น้อย (จะลงแอพลงไปเพิ่มให้ดึงเครื่องไว้ทำไม)

จนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่เคยเจอปัญหาไวรัสเข้ามือถือครับ

แต่อย่างที่บอกไปครับว่า
[color=red]”ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน ว่ามีความเสี่ยงที่จะเจอไวรัสมากน้อยแค่ไหน”[/color]
ของแบบนี้ แนะนำให้ ทดลองทดสอบ ด้วยตัวเองแบบผมครับ ^^

เป็นทางเลือกที่ดีในระดับนึงครับ กับการการใช้งานแอพที่เกี่ยวกับ Gesture หรือการ swpie หน้าจอ แทนการกดปุ่ม

หรืออาจจะใช้ Launcher ที่มีฟังก์ชั่น Gesture แทนก็เป็นอีก1ทางเลือกครับ ^^

เข้าไปในหน้า settings -> battery มีรายละเอียดตามด้านล่างคะ
93% – Discharging
1h10m31s on battery -> สงสัยคะว่า ทำไมเพิ่งชาร์ตแบตเหลือ 93% ถึงขึ้นว่า 1h 10m 31s ละคะ ผิดปกติมั้ยคะ
[color=blue]อาจจะปกติครับ ขึ้นอยู่กับว่า เครื่องคุณมีการใช้งานแอพอะไรอยู่บ้าง (ทั้งที่มองเห็น และมองไม่เห็น)[/color]

Cell standby 54% -> ทำไมใช้เยอะจังคะ ของ true คะ จะสามารถทำให้กินน้อยกว่านี้มั้ยคะ จะต้องทำยังงัยคะ
[color=blue]Cell standby เป็นการบอกสถานะการใช้งานเครื่อง เมื่อเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย คือไม่ได้มีการใช้งานใดๆ เยอะหรือน้อย คือเป็นการบอกถึงการใช้งาานเครื่องครับว่า ใช้บ่อยแค่ไหน หรือ ปล่อยเครื่องเข้าสู่โหมดสแตนด์บายมากน้อยแค่ไหน[/color]

สอบถามอีกข้อคะ พนักงานที่ขายและในวีดีโอรีวิวการใช้งานของ s3 (official) ใช้วิธีการปิดโปรแกรมที่ค้างด้วยการกดปุ่ม home ค้างไว้
ขอถามว่า 1. ถ้าใช้งานบ่อยๆด้วยวิธีนี้มันจะทำให้ปุ่ม home เสียง่ายขึ้นมั้ยคะ
[color=blue]การกดปุ่ม home บ่อยๆ มันก็ อาจที่จะ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง แต่ก็ขึ้นอยู่กับการกดของแต่ละคนครับ นึกถึงการคลิ๊กเม้าส์ละกันครับ กดแรงๆ ก็อาจที่จะพังเร็วกว่าปกติถ้าเทียบกับการที่กดเบาๆ ประมาณนั้น[/color]

และ 2.ถ้าใช้วิธีปิดโปรแกรมด้วย advance task killer และใช้ application monitor ในการ clear memory และend applications เป็นการปิดโปรแกรมที่ถูกต้องหรือไม่คะ ถ้าไม่ถูกต้องควรจะทำอย่างไร
[color=blue]การปิดแอพด้วยวิธีดังกล่าว (advance task killer และ application monitor) เป็นการ บังคับปิด ซึ่งไม่ว่าแอพจะทำงานอยู่ หรือไม่ได้ทำงานอยู่ก็ตาม อาจมีผลกระทบต่อการทำงานของแอพเหล่านั้นได้ครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นการ ปิดแอพแบบผิดวิธีแต่อย่างใด วิธีปิดแอพที่ถูกต้องแบบง่ายๆก็คือ กดปุ่ม ย้อนกลับไปเรื่อยๆจนกว่าแอพจะปิดตัว หรือบางแอพอาจจะมีเมนู exit แทรกอยู่ในเมนูของแอพ ก็เป็นการปิดแอพอีกวิธีครับ[/color]

[color=blue]ไม่ต้องเป็นกังวลมากไปก็ได้นะครับ เดี่ยวจะไม่สนุกกับการใช้งานเครื่อง 0:)[/color]

เปิดเข้าไปที่ google play store แล้วกดเมนู แล้วเลือก my apps แล้ว swipe หน้าจอไปททางซ้าย จะเป็นลิสของแอพต่างๆที่เคยโหลดมา (ถ้าไม่เคยลบ)

ไล่หาเอาจากในนั้นดูครับ น่าจะง่ายที่สุดแล้วครับ

การกดปุ่มโฮม หรือ ปุ่มพาวเวอร์ เพื่อเปิดหน้าจอ ถ้ามองถึงอายุการใช้งาน ก็คงตามที่คุณ Mlang บอกไป

แต่เราสามารถยืดอายุการใช้งานของปุ่มเหล่านั้นได้ง่ายๆ ด้วยการ กดเบาๆครับ ^^ ไม่จำเป็นต้องกดให้ลึก หรือแรงเกินความจำเป็น (คิดถึงการคลิ๊กปุ่มเม้าส์ ครับไม่ต่างกันมาก)

ส่วน proximity sensor เรื่องอายุการใช้งาน นานแค่ไหนผมไม่ทราบครับ แต่รู้แค่ว่า ถ้าใช้งานตามที่บอกคือ ใช้เปิดปิดหน้าจอ จะทำให้ proximity sensor ทำงานหนัก(เพราะทำงานอยู่ตลอดเวลา และถี่ขึ้น) อาจทำให้อายุการใช้งานสั้นลงเร็วกว่าปกติ และราคาค่าซ่อม(เปลี่ยนอะไหล่) มันแพงกว่าปุ่มโฮมหรือพาวเวอร์อยู่พอสมควรเลย

เข้าไปตั้งค่าการโหลดแฟลช (ประมาณว่า ตั้งค่า plug-in) จาก Auto ให้เป็น Always ครับ

แอบช่วยแปะคลิปยูทูป 0:)

[youtube]_70-W9JjVjg[/youtube]

รวมในนี้ดีกว่ามั้ยครับ http://droidsans.com/node/81698 จะได้ไม่เยอะ