Replies from oh2004
ผมอ่านเรื่อง 3G มาพอสมควร จับใจความได้ประมาณหนึ่ง ค้นไปจนเจอบทความนี้เข้า อ่านแล้วเข้าใจง่ายดีครับ และเนื้อความโดยสรุปก็คล้ายๆกันกับบทความอื่นๆ พอจะอ้างอิงได้ว่าน่าจะมีความถูกต้องพอสมควร ขออนุญาตแปะลิงค์ให้อ่านกันเล่นเพลินๆครับ ^^
http://webcache.googleusercontent.com/search?q=cache:H6cRpED-5ssJ:www.macgazine.net/archives/818+3G+2100+%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99&cd=3&hl=th&ct=clnk&gl=th&client=firefox-a
ล่าสุด dtac ก็ได้รับอนุญาตให้ใช้คลื่น 850 ทำเป็น 3G แล้วนะครับ
ปล. ลิงค์ผิดนะครับ หาบทความอันนั้นไม่เจอซะแล้ว.. ^^
โอ้ว.. เข้าใจแล้วครับ คุณ Drlionman
เบื้องต้นผมเข้าใจว่า mini สามารถกระจายสัญญาณให้ Nexus S ใช้อินเตอร์เนตได้นะครับ เพราะผมทดสอบกับ Galaxy Tab แล้ว ปรากฏว่าใช้ได้ แต่ในกรณีของ Nexus S ซึ่งเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่นใหม่กว่า คงต้องลองไปทดสอบดูอีกครั้งครับ (ก็น่าจะได้แหละนะ)
และเท่าที่ทราบมา คือเจ้าเครื่อง mini นี่ มีสองรุ่น รองรับ 3G ไม่เหมือนกัน
ท่าน Drlionman ต้องเลือกซื้อ mini รุ่นที่รองรับ 3g ของทรูด้วยนะครับ
เรื่องนี้ ลองศึกษาเพิ่มเติมให้ดีครับ เพราะคนขายบางคนที่ผมเคยคุยด้วย ยังไม่ทราบถึงเรื่องนี้เลย เรื่องใส่ซิมเพื่อโทร กับ ซิมเพื่ิอ 3G มันไม่เหมือนกันอ่ะครับ
และเท่าที่ทราบมา(อีกแล้ว ทำใจหน่อยนะครับ ผมก็ค้นเอาจากในกูเกิ้ลนี่แหละ) ตอนนี้ 3G ในบ้านเรายังไม่เป็นมาตรฐานเหมือนกัน ค่ายโทรศัพท์ต่างๆ ได้นำเอาเครือข่ายเดิมของตนมาปรับปรุงเพื่อให้บริการ 3G ได้ ดังนั้น 3G บ้านเรา จึงยังต้องอิงอยู่กับความถี่เดิมของผู้ให้บริการโทรศัพท์ไปก่อน
อีกไม่นาน (หรือนานก็ไม่รู้) เมื่อการประมูลคลื่น 2100 ลงตัว พวกเราถึงจะได้ใช้ 3G กันแบบถ้วนหน้า เป็นมาตรฐานเหมือนๆกันครับ
น่าจะได้นะครับ มันเป็น Android เหมือนกัน แถมยังยี่ห้อเดียวกันอีก แล้วเจ้า mini ก็มีความสามารถในการกระจายสัญญาณไวไฟอยู่แล้ว
ถ้าจะให้ชัวร์ ก่อนจ่ายเงินซื้อ ก็เอาเครื่องไปลองให้ชัดเจนครับ ผมก็ตอบชัดๆลงไปไม่ได้เหมือนกัน ต้องขออภัยด้วยนะครับ ^^
เอ๋อ.. ขออภัยครับ เพิ่งไปเสิร์ชดูเจ้า Nexus S มา
เจ้านี่มันใส่ซิมได้นี่ครับ คงไม่ต้องพึ่งพา WiFi จากโทรศัพท์เครื่องอื่นนี่ครับ ^^!
ส่วนเรื่องโทรศัพท์ยี่ห้อ Spring นั้น จริงๆแล้ว ผมจะไปซื้อเจ้ายี่ห้อนี่แหละครับ เพราะเพื่อนเอามาให้ดู บอกว่ากระจายสัญญาณไวไฟได้ เขาได้ทดสอบกับ ipad แล้ว ราคา 2900+ เท่านั้นเอง แต่ตอนนั้น สปริงของเพื่อนแบตหมด ผมจึงไม่ได้ทดสอบกับ Galaxy Tab (Froyo2.2.1) ของผมครับ
ถามเพื่อนว่าซื้อมาจากไหน เพื่อนบอกว่า ซื้อมาจากโลตัส ผมจึงขับรถไปโลตัสทันที ไปถึงก็เจอตัวจริงๆ ก็จึงให้พนักงานขายช่วยเปิดเครื่องเพื่อทดสอบกับ Galaxy Tab (Froyo2.2.1) ของผม ปรากฏว่า ได้ผลเหมือนกับ PPC เลยครับ คือ Wi-Fi analyzer เห็นเป็นเส้นประ และ Galaxy Tab (Froyo2.2.1) ไม่สามารถเชื่อมต่อ WiFi ได้
ตอนนั้นยังไม่ทราบยี่ห้อเลยครับ จำได้แต่รูปร่างหน้าตา ยิ่งพอทดสอบแล้ว ไม่เวิร์กกับ Galaxy Tab (Froyo2.2.1) ของผม ก็เลยไม่ได้สนใจต่อ เพิ่งมาทราบว่า ยี่ห้อ สปริง ก็จากคุณ taro350 ในคห.นี้แหละ ลองเอาชื่อยี่ห้อไปเสิร์ชดู ถึงได้แน่ใจว่าเป็นตัวเดียวกันครับ http://www.thaimobilecenter.com/spec/SPRiiiNG_Smile_Smartphone.asp
เป็น แอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.1 นะครับ
ย้ำว่า เจ้าตัวนี้ ใช้กับ Galaxy Tab (Froyo2.2.1) ไม่ได้นะครับ ใครใช้รุ่นอื่นอยู่ ควรเอาเครื่องไปทดสอบก่อนซื้อด้วยนะครับ ส่วนเพื่อนผมบอกว่า ใช้กับ ipad ได้ ผมก็ไม่มีเครื่อง ipad ทดสอบ ข้อนี้จึงไม่ยืนยันนะครับ (แต่ก็คิดว่าได้แหละ) เอาเป็นว่า ใครจะซื้อเจ้าสปริงมาใช้งานเป็นเครื่องกระจายสัญญาณไวไฟ ก็ควรเอาเครื่องแท็บเล็ตของท่านไปทดสอบก่อนนะครับ ^^
ส่วนเจ้า LG-P350 ผมก็ซื้อมาจากร้านเดียวกันในโลตัสนั่นแหละครับ ^^ ที่จริงอยากหาของมือ2 อยู่เหมือนกัน แต่หาไม่ได้ครับ ฮี่ๆๆๆ
ค้นหาข้อมูลล่าสุด ไปเจอเจ้า I-Mobile รุ่น i680
สเป็คคล้ายกันกับ LG-P350 เลยครับ ราคา 2990 บาท ถูกกว่าอีกหน่อย แต่ได้หน้าจอที่เล็กลง กับ คีย์บอร์ดแบบปุ่มกดเพิ่มขึ้นมา เจ้าตัวหลังนี่ น่าจะกระจาย Wifi ให้แอนดรอยด์ได้เหมือนกันครับ
http://www.techxcite.com/topic/7030/Mobile%20Expo:%20%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%96%E0%B8%B7%E0%B8%AD%20Android%20%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%A1%20%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%202,990%20%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97%20%E0%B8%A1%E0%B8%B5%203G,%20%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%20Wi-Fi%20Router,%20GPS,%20TV%20%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%20i-Mobile%20i680!!
ตอบคุณ Drlionman ครับ ^^ ออกตัวไว้ก่อนว่า ผมก็แค่ User ทั่วไปเท่านั้นครับ หาความรู้เอาตามกูเกิ้ล และการทดสอบจริง ดังนั้น หากมีข้อผิดพลาดประการใด หรือไม่สามารถอธิบายลงลึกในรายละเอียดได้ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
ผมทดลองมาแล้วครับ ครั้งแรกด้วยความไม่รู้ ผมเอาพ๊อกเก็ตพีซี (PPC) ลงโปรแกรม WMWifiRouter 2.0 เพื่อกระจายไวไฟครับ (เพราะผมมี PPC ตัวเก่าๆจอเพี้ยนๆจนแทบจะเลิกใช้อยู่แล้ว 1 ตัว) ผลก็คือ มันสามารถกระจายไวไฟได้ ผมทดสอบด้วยโน๊ตบุ๊ค(วินโดวส์) ก็ปรากฏว่า โน๊ตบุ๊คสามารถรับสัญญาณและเชื่อมต่ออินเตอร์เนทได้ปกติดี แต่สำหรับ Galaxy Tab มันรับสัญญาณได้ครับ แต่มันเชื่อมต่อเน็ทไม่ได้
ที่ผมบอกว่า มันรับสัญญาณได้ ก็เพราะผมลงโปรแกรมชื่อ Wi-Fi analyzer (หาได้ในมาร์เก็ต) ลงไปใน Galaxy Tab มันจะแสดงสัญญาณ ไวไฟ ทั้งหมดที่ Galaxy Tab ตรวจพบ ถ้าเป็นสัญญาณที่แอนดรอยด์ใช้งานได้ มันจะแสดงเป็นเส้นทึบ ถ้าเป็น ad-hoc มันจะเป็นเส้นประ สัญญาณจากเครื่อง PPC ของผม และเจ้าเครื่องสปริงที่โลตัส มันขึ้นเป็นเส้นประเหมือนกันเลย
ส่วนที่ Galaxy Tab ในการตั้งค่าการเชื่อมต่อ ถ้าเป็นสัญญาณแบบ Ad-hoc มันจะตรวจไม่พบเลยด้วยซ้ำครับ (ไม่ขึ้นชื่อมาให้เราจิ้มเพื่อคอนเน็ค)
จึงทำให้ผมทราบว่า Galaxy Tab 2.2.1 ของผม จริงๆแล้ว มันมองเห็น Ad-hoc นะครับ แต่มันเอา Ad-hoc ไปใช้งานไม่ได้
อัพเดทครับ ผมเอาเจ้าสายชาร์จ IC7805 ติดซิงค์ ไปใช้ในรถจริงๆแล้วครับ ใช้จริง ไม่ใช่ทดลองแล้วนะเออ เหอๆๆๆ ขนาดซิงค์ก็ราวๆ ยาว 4 นิ้ว สูง1.5นิ้ว ลึก 2 นิ้ว พอดีว่า คอนโซลหน้ารถผม มีช่องว่างๆใต้เครื่องเสียงเหลืออยู่ 1 ช่อง ก็เลยยัดเจ้านี่ลงไปได้แบบดูดีไม่เกะกะ
ล่าสุด แบตเหลือ 17% ก็ชาร์จเข้าครับ ซิงค์จะร้อนพอสมควร แต่ก็ไม่ร้อนมากเกินที่จะหยิบจับได้ และความร้อนจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อปริมาณแบตใน Galaxy มีมากขึ้นครับ ซึ่งถ้าแบตเต็มเมื่อไหร่ ก็แทบจะไม่เกิดความร้อนเลย
ตกลง เจ้าสายชาร์จติดซิงค์ IC7805 สิริรวมราคาค่าตัว ก็ยังไม่เกิน 100 บาทครับ
ยิ่งกรณีของผม ซึ่งแงะเอาซิงค์ R และ C มาจากร้านซ่อมทีวีข้างบ้าน ราคายิ่งประหยัดลงไปได้อีกหน่อย
ปล. ยังรออัพเดทจากคุณ totonx เรื่องสายชาร์จราคา 81 บาทอยู่นะครับ ^^
รู้สึกว่าผมก็เห็นนะครับ เจ้าสปริงอ่ะ (เพราะผมซื้อ LG มาจากโลตัสเหมือนกัน) ที่มีแป้นพิมพ์ด้วยใช่ไหมหว่า แต่มันปล่อยสัญญาณ WiFi แบบ Ad-hoc นะครับ แอนดรอยด์เห็นสัญญาณประเภทนี้ก็จริง แต่ไม่สามารถรับสัญญาณมาใช้งานได้ครับ หากจะให้แอนดรอยด์ต่อเนทจาก Ad-hoc ได้ จำเป็นต้องรูทเครื่อง เพื่อเข้าไปแก้อะไรบางอย่างก่อน (ทำไมกูเกิ้ลจึงไม่ใส่มาให้เลยซะทีเดียวก็ไม่ทราบ)
แต่ถ้าเป็นพวกเครื่องโน้ตบุ๊ค หรือ แท๊บเลตแอปเปิ้ลอย่างไอแพด จะใช้งานได้ทันทีครับ
ส่วน LG เครื่องนี้ ปล่อยสัญญาณคนละอย่างกันครับ (เรียกว่าอะไรก็ไม่รู้อีก) ซึ่งแอนดรอยด์สามารถรับสัญญาณมาใช้งานได้ครับ
ส่วนเรื่องแบต มันก็หมดเร็วขึ้นแหละครับ แต่เท่าที่ทดสอบ มันก็พอใช้ เพราะเราไม่ได้ใช้เป็น WiFi หลักอยู่แล้ว ผมพกพาเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นที่ขาดแคลน WiFi จริงๆเท่านั้นอ่ะครับ
อ้อ สเปคเจ้า LG-350 คือ
GSM 850 900 1800 1900
WCDMA 900 2100
ผมไม่ทราบว่า มันจะรับ 3G ในปัจจุบันของค่ายไหนได้บ้าง ทราบแต่ว่า ถ้าอนาคต 3G บ้านเราเป็น 2100 มาตรฐานเดียวกันหมด เจ้านี่ก็ใช้ได้ครับ ตอนนี้ผมใส่ซิมดีแทคอยู่ สุพรรณใช้ได้แค่ เอดจ์ ก็เร็วพอที่จะเปิดหน้าไทยรัฐมาอ่านข่าวได้แบบไม่เสียอารมณ์ แต่ถ้าเป็นพวกมัลติมีเดีย ก็คงต้องรอ 3G เท่านั้นครับ
แต่ผมอยู่ต่างจังหวัดอ่ะครับ (สุพรรณบุรี) เรื่อง 3G ยังห่างอยู่พอสมควร
อีกอย่างหนึ่ง ผมมีโทรศัพท์หลักอยู่อีกเครื่องหนึ่งแล้วครับ คือ Nokia5233 ใช้ซิมดีแทครายเดือน
ซื้อมือสองมาไม่กี่ตังค์ เสถียรดีมากๆ คุ้มค่าราคาครับ แค่เปิดเฟสบุ๊คเช็คสถานะเฉยๆ เจ้าตัวเก่าของผมนี่ก็สามารถอยู่แล้ว ดังนั้น การตัดสินใจซื้อ LG-350 แทนการซื้อ MiFi สำหรับผมจึงคิดไม่ยากนัก เพราะผมอาศัยใช้ WiFi จากเจ้าเครื่อง LG แค่บางครั้งบางคราวเท่านั้น จากการใช้งาน ก็ยิ่งรู้สึกว่า ถ้าไปซื้อ MiFi มา แล้วใช้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวแบบนี้ คงยิ่งเสียดายเงินมากกว่านี้อ่ะครับ แต่การซื้อแอนดรอยด์2.2.2 มาอีกเครื่อง มี WiFi มี GPS และเข็มทิศ เล็กๆพกง่ายๆ ในราคาเท่านี้ ผมค่อนข้างพอใจครับ ^^
รอคุณ totonx ทดลองใช้ก่อนครับ เอิ๊กๆ
วันนี้ ลองเอาสาย DIY กับสาย Data/charger ของแท้ ไปใช้คู่กันดู ผลปรากฏว่า ถ้าแบตน้อย ยังชาร์จไม่เข้าเหมือนเดิม เดี๋ยวถ้ามีโอกาส จะลองหา R640k กับ 240k มาลองดูใหม่ครับ แต่ตอนนี้ก็พอโอเคละ 65% ก็ชาร์จเข้า อย่างน้อยๆ GPS แบตไม่หมดระหว่างทางเป็นอันใช้ได้
ขอบคุณทุกท่านในกระทู้นี้มากๆเลยนะครับ ได้ประโยชน์มากทีเดียว และผมรอคุณ totonx มาทดสอบเจ้าตัวราคา 81 บาทอยู่ด้วยนะครับ ได้ผลยังไงแล้ว แจ้งข่าวด้วยจะขอบคุณยิ่งครับ ^^
ตามที่คุณ nisit กล่าวไว้ทุกประการครับ เจ้า 7805 ต้องติดซิงค์ ซึ่งผมก็ไปแงะมาจากเครื่องเสียงเก่าๆมาทดลองดู ปรากฏว่า ใช้งานได้ครับ แบตเหลือ 35% ก็ยังชาร์จเข้า และไม่ตัดแล้ว แต่หน้าตามันเทอะทะน่าดู คงไม่ได้เอาไปใช้งานจริงครับ แค่ทดลองเพื่อให้ได้ความรู้เท่านั้น
ตอบคุณ totonx ครับ ผมใช้สายเทียบครับ เดี๋ยววันนี้จะลองเอาสายแท้ไปชาร์จดูครับ
อีกประการหนึ่ง เกี่ยวกับ Switching LM2575 (ซึ่งไม่มีปัญหาเรื่องความร้อน) ผมได้ลองแงะที่ชาร์จ USB ซึ่งระบุว่าจ่ายไฟ 700mA ออกมาดู ก็พบอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันมากกับวงจรของ Switching LM2575 แต่คงจะใช้ IC คนละตัวกัน ดูจากจำนวนของอุปกรณ์แล้ว เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเอาลงแผ่นปริ๊นท์เท่านั้น ซึ่งถ้าเป็นดังนั้น ไปซื้อสายเทียบเส้นละ 350 ดูจะเป็นทางออกที่คุ้มค่ากว่า (ตอนนี้ก็เริ่มมีขายเยอะแล้วครับ) ตามสเป็คระบุว่า จ่ายไฟถึง 2100mA ซึ่งผมคาดว่า คงจะใช้อุปกรณ์ภายในที่คล้ายกับวงจรของ LM2575 นั่นละกระมังครับ กับอาจจะเพิ่มทรานซิสเตอร์ขยายพ่วงเข้าไปด้วย ถึงได้แอมป์สูงขนาดนั้น ^^
จากคอมเม้นท์ด้านบน ผมทดลองทำแล้วครับ โดยใช้ IC7805K เพิ่มเข้าไปในวงจร เข้าใจว่า รหัสนี้สามารถให้กระแสไฟถึง 1500mA
ขณะที่ทดลอง เหลือแบตใน Tab 49% ปรากฏว่า สามารถชาร์จเข้าครับ
(สาย DIY ของเดิม ที่มีเพียง R สองตัว แบตเหลือ 55% ก็ไม่ชาร์จแล้ว)
แต่ IC ตัวดังกล่าวร้อนมาก ร้อนเป็นเตารีดเลย (ร้อนที่วงจรแปลงไฟนะครับ ไม่ใช่ร้อนที่ Tab) เหอๆ หาความรู้ไป หาความรู้มา ไปเจอ Switching LM2575 เข้า เขาว่าตัวนี้ไม่ร้อน แต่ดูวงจรแล้ว คงต้องลงลายปริ๊นท์กันเลยทีเดียว เฮ้อ.. เซ็งเลย ^^
(เพิ่มเติมครับ) หลังจากที่ IC ตัวนี้ร้อนมากๆ คาดว่าทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าไม่คงที่ จนไฟไม่เท่ากับที่ Tab กำหนดไว้ (ไม่แน่ใจว่า มากขึ้นหรือน้อยลง) ทำให้ Tab ตัดการชาร์จ (แป่ววววว)
เอาเป็นว่า ถ้าจะเอา Tab พกไปไหนมาไหนในรถ กับเจ้าสาย DIY แบบนี้ (แบบแรก R สองตัว) ก็อย่าปล่อยให้ Tab มีไฟน้อยกว่า 65% ละกันนะครับ ^^
โอ้ว มันจะเกี่ยวกับสายชาร์จในรถไหมครับ กระผมโมสายชาร์จในรถใช้เอง ยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับ
เสียวนิดๆซะแล้ว ^^!
มาอัพเดทครับ หลังจากใช้งานมาระยะหนึ่ง ก็พบว่า สายชาร์จของผมมี bug อยู่นิดหน่อย คือ กรณีชาร์จในรถ ถ้าแบตของกาแลคซี่แท็บเหลือน้อย มันจะไม่ชาร์จครับ ตอนนี้ที่พบคือ แบตเหลือ 55% มันจะไม่ชาร์จ หรือชาร์จบ้าง ไม่ชาร์จบ้าง แต่ถ้าแบตเหลือมากกว่า 65% มันจะสามารถชาร์จได้ตามข้อมูลข้างต้น ขณะนี้กำลังตรวจสอบให้แน่ชัดว่า แบตต้องมีน้อยสุดที่กี่% มันจึงจะไม่ชาร์จ
คาดว่าน่าจะเป็นเพราะที่ชาร์จ usb 700 mA ของรถยนต์ ที่ผมใช้คู่กันอยู่ น่าจะชาร์จแบตที่เหลือน้อยๆไม่ไหว
กรณีที่แบตเหลือน้อยกว่า 55% (ข้อมูลเบื้องต้น ตัวเลขยังไม่นิ่ง) มันจะขึ้นเป็นรูปสายฟ้า เหมือนไม่ได้ชาร์จ ซึ่งจริงๆมันชาร์จเหมือนกันนะครับ แต่ชาร์จช้ามากๆ และถ้าเปิด GPS ขึ้นมาใช้งานด้วย แบตจะค่อยๆลดลงครับ (แต่ก็ลดลงช้ากว่าการไม่ได้เสียบสายชาร์จ DIY นี้)
ไม่ทราบว่า ท่านอื่นๆ พบปัญหาแบบเดียวกับผมบ้างหรือเปล่า
ที่จริงมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตนัก เพียงแค่ชาร์จเครื่องกาแล็คซี่ของเราให้มีไฟมากกว่า 65% ก่อนออกจากบ้าน ก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าจะแก้ปัญหานี้ให้เด็ดขาด คงต้องหาไฟ 5V 1-2 A มาใช้
ที่ชาร์จ USB ในรถแบบสำเร็จรูปที่ให้กระแสไฟมากขนาดนั้น มีขายครับ แต่ราคาก็พอกับสายชาร์จแบบเทียบของ Galaxy Tab เหมือนกัน แถมไม่มีสาย data/charger อีกต่างหาก
หากจะทำที่แปลงไฟ 12V ในรถ ให้เป็น 5V 1-2A เพื่อใช้ร่วมกับสาย DIY ของเรานี้ แบบประหยัดๆตามเจตนาของการ DIY เท่าที่ผมลองค้นดู ก็คงต้องศึกษาเรื่อง IC 7805 กันต่อไปครับ ^^
จากลิงค์นี้ http://www.eleccircuit.com/regulator-5v6v9v12v-1a-by-ic-7805780678097812/ ถ้าตัดส่วนแปลงไฟ AC ออกไป (เพราะไฟในรถเราเป็น DC 12V อยู่แล้ว) ก็น่าจะเหลือแค่ IC7805 ตัวหนึ่ง กับคอนเดนเซอร์ตัวหนึ่งเท่านั้น ใครพอมีความรู้ช่วยกรุณาวิเคราะห์ต่อให้หน่อยนะครับ
อยู่ต่างจังหวัดแถวไหนครับ ผมคนสุพรรณ ใช้ 1010 อยู่ (ใส่ซิมไม่ได้) ถ้าใกล้ๆเดี๋ยวลองไปดูครับ ถ้าอาการน่าเสี่ยงคุ้มกับราคา แล้วคุณคิดจะขายจริงๆ ผมรับซื้อเอง พอดีศึกษาเรื่อง root เครื่องมาพักหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่เคยทำสักที ของคุณนี่ อาจไม่ต้องรูทนะครับ แต่เอา rom ตัวของไทยยัดลงไปแทน น่าจะใช้ได้ ในเน็ทก็มีวิธีแก้ไขค่อนข้างละเอียดเลยครับ เพียงแต่ต้องค่อยๆดูไล่ไปทีละตัวแล้วค่อยเลือกวิธีที่เหมาะสมครับ แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น มันใช้วิธีไม่เหมือนกันครับ
แต่ถ้าอยู่ไกลมาก คงขอผ่านครับ
เห็นประกาศไว้ที่อื่นด้วย แต่ไม่ได้ให้เบอร์มือถือไว้บ้างเลย ให้แต่ BB
เอาเป็นว่า ถ้าอยู่ใกล้ๆสุพรรณก็โทรมาละกันนะครับ 087-5126486 โอ ครับ
ทำสำเร็จแล้วครับ ^^ แต่ทีแรกผมให้เพื่อนที่เปิดร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ช่วยแงะ R 33k กับ 10k ของเก่าๆมาให้ลองใช้ ปรากฏว่าไม่ได้ผลแฮะ
ไปเจออีกกระทู้ไหนจำไม่ได้ขออภัย ท่านใช้ 240k กับ 640k ผมก็ไปหาซื้อร้านอิเลคทรอนิคแถวๆบ้าน (สุพรรณ) ก็ไม่มีเป๊ะๆ ก็เลยได้แต่เบอร์ใกล้เคียงมาแทนครับ 220k กับ 680k แต่ใช้งานได้ครับ
ปล. แต่ของผมต่อกับคอมแล้ว มันไม่ค่อยเสถียรเท่าไหร่ ชาร์จๆ หยุดๆ
แต่ต่อกับที่ชาร์จในรถ 700mA ใช้ได้เสถียรดีครับ
ถ้าเปิดโปรแกรมไปด้วยจะชาร์จช้าหน่อย ผมทดสอบเปิดทั้ง BT GPS WiFi แต่ก็ยังมีไฟเหลือไปชาร์จทัน แต่ชาร์จช้า หวังผลได้เพียงแบตไม่หมดระหว่างทางแน่นอน เท่านั้น
ถ้าเปิดแค่ GPS อย่างเดียว(สำหรับนำทางในรถ) ชาร์จเร็วขึ้นมากครับ หวังผลไปถึงชาร์จให้เต็มเพื่อเอาลงจากรถมาใช้งานได้เลยครับ ^^