ปกติครับ คือ อันเดียวกัน

ไม่เป็นด้วยคนครับ
ทดสอบเอาหูแนบหน้าเลนส์กล้องเลย อิอิ
– เปิดโหมดกล้องและวีดีโอ
– ลองให้มันออโต้โฟกัส ก็ไม่มีเสียงครับ(มีแต่เสียง กริ๊กๆ ตอน ล๊อกโฟกัส ไม่ได้)

ขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อนะครับ ลองศึกษาข้อดีข้อด้อยของแต่ล่ะค่ายดูทั้ง ip4(ตอนนี้มี s ห้อยท้ายแล้วนะ) กับ SII หรืออาจจะไป S note แล้ว ก่อนตัดสินใจซื้อไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรมันก็คือเงินเราและความคุ้มค่าที่เราได้จ่ายไป + ความรู้สึกที่เราต้องการ อันนี้มากกว่าครับ
ผมไม่ได้เข้าข้างฝั่งไหน เอาเคสตัวอย่างตัวผมเองนี่ล่ะ ทำไมผมถึงเลือก SII ทั้งที่ IP4 ก็น่าใช้เช่นกัน

1. อันดับแรกเลยครับ เรื่องปัจจัยในการไปถอยออกมา (เงินนั่นล่ะ อิอิ ) ไม่ไหวครับสำหรับ IP4 ด้วยวัสดุที่หรูกว่า SII + ดีไซด์ที่ออกจะโดนใจใครหลายคนทำให้ราคาเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมถึง… แต่สำหรับ SII ถือได้ว่าพอได้สำหรับคนหาเช้ากินค่ำอย่างผมน่ะ – -”
2. มีอะไรหลายอย่างของ IP4 ที่ผมอยากได้ทั้งแอ๊บเอย ซัพพอด ต่างๆ เอย แต่เนื่องจากข้อ 1 ทำให้ได้แต่ชะเง้อมอง T_T
3. SII ตอบโจทย์การใช้งานของผมได้ค่อนข้างหมด ซึ่งผมหาข้อมูลมาว่าแต่ล่ะตัวมีคุณสมบัติที่ใช้ตรงโดนใจผมหรือไม่ เช่น มี wifi, bluetooth, หรืออะไรพื้นฐานที่มี ซึ่ง ทั้งคู่ก็มี (ถึง wifi ของ SII จะไม่ค่อยดีเหมือน IP4 ก็เหอะแต่ก็มีล่ะยอมรับได้ต่อได้ ok แล้ว) มาถึงสิ่งที่มีและไม่มีของแต่ล่ะตัวบ้าง อันนี้จากที่ผมขอเปรียบเทียบกับของน้องผมนะ (น้องใช้ IP4)
3.1 อันแรกเลยที่ผมชอบ SII มีโปรแกรม GPS (SpeedNavi) มาให้เป็นโปรแกรมนำทางที่ไม่ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย internet (A-gps) ก็ใช้สัญญาณ GPS จากตัวเครื่องได้เลย แต่ IP4 ไม่มีโปรแกรมให้ต้องหาโหลดเอง หรือไม่ก็ใช้ google map ซึ่งต้องต่อ internet ตลอดเวลา ( SII ก็มีด้วย google map) อิอิ
3.2 SII สามารถทำงานได้เร็วกว่า IP4 ค่อนข้างมาก
3.3 SII เวลาใช้งาน ร้อนกว่า IP4 (ต้องทำใจยอมรับมัน)
3.4 ลองเปิดดู file หนังเรื่องเดียวกัน เปิดเวลาพร้อมกัน แบ็ตของ SII หมดก่อน – -”
3.5 SII ค่อนข้างจะดัดแปลงเรื่อง rom ได้เยอะกว่า IP4 (ประมาณว่า ง่ายกว่า)
3.6 เรื่องฮาร์ดแวร์บางอย่าง SII มีปัญหา แต่ในทางกลับกัน IP4 ไม่มี แต่ก็ยังยอมรับได้หากมีการแก้ไขได้ถูกต้องถูกทาง
3.7 IP4 น้องผมตั้งแต่ซื้อมายังไม่เคยเข้าศูนย์เลย แต่ผม ซื้อทีหลัง เข้าศูนย์ไปแล้ว 3-4 รอบ 5555+

แต่ก็เอาเถอะครับอย่างที่ผมบอก ความพอใจคือตัวเราเอง (อยากได้ซ๊ะอย่างใครจะทำไม) เงินก็เงินเรา
ใครก็ไม่ได้มาช่วยเราออก ส่วนเรื่องเพื่อนมี IP4 แล้วเราเป็น SII จะใช้ app ของ IP4 กันไม่ได้ เดี๋ยวนี้ SII ก็พัฒนาแล้วครับ มี app หลายตัวที่สามารถทำงานเชื่อมกันได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพวก what app, msn, tango ฯลฯ ขืนเราไปฟังเพื่อนหรือคนอื่นมาก ว่าไอ้โน่นไม่ดีนะ ไอ้นี่มีปัญหานะ ก็ไม่ต้องซื้อกันพอดีครับ เอาสบายใจเราว่าดีกว่านะ อิอิ

อธิบายง่ายๆ ครับ เช่นใช้โปรแกรม Google Latitude อย่างที่ ท่าน#3 ว่าไว้
วิธีการคือ ต่างคนต่างสมัครสมาชิก google mail แล้วลงทะเบียนใน google latitude มันก็คล้ายๆ โปรแกรม MSN น่ะครับ มีเมลใครเมลมันแล้ว add กันเป็นเพื่อนทีนี้ชื่อเพื่อนเราก็อยู่ใน list เวลาเปิดโปรแกรม Google Latitude มันจะมีแผนที่บอกตำแหน่งของเพื่อนเราครับหรือแม้กระทั่งเราเองมันก็จะบอกตำแหน่งเช่นกันครับ (เราเห็นเพื่อน ถ้าเพื่อนออนเพื่อนก็เห็นเราเช่นกันครับ) ใช้ได้ทั้ง มือถือด้วยกันเอง หรือแม้กระทั่ง มือถือกับคอมพิวเตอร์ (คอมฯ ที่เชื่อมต่อ wifi ลองค้นหาตำแหน่งตัวเองบนแผนที่ google หรือใน Google Latitude ดูครับมันจะเจอตำแหน่งเราด้วย)

อีกประการอย่างที่ท่าน #1 บอกไว้ หากเพื่อนเราหรือแม้กระทั่งเราเองไม่ต้องการให้เห็นตำแหน่งบนแผนที่ก็เพียงแค่ปิดการเข้าถึงตำแหน่งบนแผนที่ก็ยกเลิกการมองเห็นตำแหน่งจากบุคคลอื่นได้แล้วครับ
จะเห็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ที่อยากให้เห็นตำแหน่งเองครับ – -”

ปล. เครื่องที่จะมองเห็นตำแหน่งได้ต้องเชื่อมต่อเครือข่าย เช่น wifi gprs 3G ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งตลอดเวลาด้วยครับ ถ้าเครื่องที่เราไปมองตำแหน่งตัดการเชื่อมต่อเครือข่ายแล้ว ก็ไม่สามารถมองเห็นได้แล้วครับ ถ้าอยากเห็นกรณีไม่เชื่อมต่อ คงต้องสอบถามผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ใช้คนนั้นๆ แทนแล้วครับ – -“

ขอบคุณ คุณBirdzaaa ครับสงสัยคงต้องลองบ้างแล้วครับ – -“

ของผมซื้อจากร้านตามห้างทั่วไปครับ ที่สำคัญคือ
1. อุปกรณ์ต้องครบ กล่อง, หูฟัง, สายชาร์จ, คู่มือ, สายดาต้า (USB)
2. เครื่องต้องมีซีลพลาสติกกันหน้าจอจากโรงงาน ไม่มีการอ้างว่าแกะออก
3. ควรมี speednavi แถมมาด้วย (โปรแกรมนำทาง)
4. เปิดหลังเครื่องตรงที่เสียบแบ๊ตฯ ควรมี บาร์โค๊ด, imei และ S/N เครื่อง
5. จดเลข imei เครื่องจากที่เห็นด้านหลังไว้ แล้วทำการเปิดเครื่อง กดหน้าจอปุ่มโทรขึ้นแล้วกด *#06# ถ้าถูกต้องจะขึ้นเลข imei ตรงกับที่เราจดไว้
6. ดูทั่วไปเกี่ยวกับรอยขีดข่วนถ้ามีก็ขอเปลี่ยนตัวใหม่ ต้องไม่มี

เรื่องการรับประกันถ้าอยากรู้เลย ให้เอาเลข imei กับ S/N โทรถามที่ call center samsung ได้เลย

เครื่องจากร้านทั่วไปจะถูกกว่า ศูนย์ฯ ประมาณ 1500-2000 บาท ครับ

ปล.. ร้านทั่วไปอาจจะมีของแถมหลายอย่างเช่น ฟิล์มกันรอย, เคส, ซอง ฯลฯ แล้วแต่ จะจีบแม่ค้าร้านได้แค่ไหน – -“

เออ..คือ.. ถ้าถึงกับขั้นเอาไปปาหัวสุนัข… เออ… ผมว่าเอามาปาหัวผมดีกว่าไหมครับ (ยอมหัวแตก อิอิ แต่ต้องให้เครื่องผมเลยนะ อิอิ ) เสียดายของ

คือจริงแล้วก็คงมีทั้งดีและไม่ดีน่ะครับ อย่างผมเอามาตอนแรกก็คาดหวังเรื่อง wifi จะรับสัญญาณดีขึ้นกว่า S I (เพราะน่าจะพัฒนาแล้ว II แล้วนี่) แต่ก็ผิดหวังกลับไปครับในทางกลับกันบอกตรงๆ นะครับบางอย่าง SI ยังดีกว่า SII เสียอีก ทุกวันนี้ผมยังเสียดายเลยที่ขาย SI ทิ้งมาซื้อ SII แต่ก็เอาเถอะครับ
ในเมื่อเราซื้อมาแล้วก็ต้องทำให้มันคุ้มค่าเงินที่เราจ่ายไปที่สุดจริงไหมครับ อย่างเครื่องผมถ้านับตอนนี้ก็ไปเที่ยวศูนย์ 4 รอบแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ผมคิดแค่ว่ามันไม่ดีก็เข้ามันไปเรื่อยๆ ล่ะเอาจนมันดีให้ได้ หรือไม่ก็จนกว่าจะหมดประกัน ปีนึ่งนั่นล่ะ อิอิ จะเปลี่ยนมันไปเรื่อยๆ ไม่ดีก็เข้าไปเปลี่ยน ฟรีตลอดงาน อิอิ

ถ้ามันไม่สบอารมณ์ท่านจริงๆ ผมก็แนะนำให้เอาออกศูนย์มาเช็คให้เรียบร้อยเปิดเครื่องให้ได้เอาออกมาขายเลยครับ จะขายแพงขายถูกๆ หรือจะเอามาปาหัวสุนัข (หัวผมก็ได้ ต้องให้เครื่องผมนะ) ก็ได้เลยครับ สินค้าไม่ดีก็ส่วนหนึ่งแต่ก็อย่าพาลไปทุกเครื่องเลยครับ มันก็คงมีเครื่องที่ไม่มีปัญหาบ้างล่ะเพียงแต่เราไม่ได้โชคดีเจอมันเอง – -”

ขอบคุณครับผมเมล์ไปถามแล้ว เค้าไม่ตอบกลับเลยครับ นานแล้ว – –
เลยมาประกาศหาอ่ะครับ

ยินดีด้วยครับ

ขอบคุณมากครับ ลองดูแล้ว มีแต่แบบเป็นหุ่นเวลาโทรเข้าถึงจะมีแสงแว๊บๆ อ่ะครับ ที่อยากได้อยากได้เป็นแบบเรืองแสงอ่ะครับ (เหมือนตัวที่แถมในงาน โมบาย) – -”

ขอบคุณอีกรอบครับไงเดี๋ยวลองหาละเอียดๆ อีกที

ลองเช็คจากง่ายไปก่อนนะครับ

อันดับแรกลองว่าเครื่อง S2 เรา รับ IP จาก wifi ตอนต่อ wifi ติดครั้งแรกมาหรือยังครับบางทีสัญลักษณ์ wifi ที่เครื่องเราเขียวแต่เรายังไม่ได้รับ IP ก็มีครับประมาณว่ากำลังรอรับ IP อัตโนมัติ
จาก server หรือ router ที่จ่าย IP อยู่อ่ะครับ ลองเช็คตัวนี้ก่อน – -”

หากได้รับ IP แล้วก็ลอง Config IP เองเลย เอา IP ที่ได้รับนั่นล่ะ แต่ใส่ค่า เกทเวย์ มาสก์ ดีเอนเอส1 เองครับ

3 ค่าหลังสอบถาม IT ประจำหน่วยงานได้เลยครับ เขาต้องมีแน่ๆ

แล้วค่อยลองเปิด เวบ ใส่ URL Login อีกรอบครับ

1. เสียบซิมอีกเบอร์เข้า S2
2. ส่งข้อความจากโนเกีย เข้าอีกเบอร์ที่ S2
3. จัดเก็บไว้ในตัวเครื่อง

อิอิ น่าจะง่ายสุด

แอพพิลเคชั่น…การตั้งค่า…รายการส่วนตัว…. ตั้งค่าข้อมูลจากโรงงาน

(เมนูภาษาไทยครับ)

สอบถาม IT ที่หน่วยงานคุณว่า เวลา login นี่ใช้ pass ของ wifi ปกติ หรือว่าต้องเข้าหน้า web login ด้วยหรือยังครับ?

ะลองไปถามที่หน่วยงานครับว่า proxy กับ port อะไรแล้วลองเอาไปใส่ครับ
proxy ก็คล้ายๆ เลขชุด IP ครับ
การทำงานก็ประมาณว่า เวลาเราเชื่อมต่อ wifi ได้แล้วพอเปิดหน้าแรกมันจะสั่งไปหา proxy ที่เรากำหนดก่อนครับ ที่หน่วยงานคุณอาจจะทำระบบ internet เป็นแบบ web login น่ะครับ (ระบบคล้ายๆ true wifi ) คือเชื่อมต่อเน็ตได้ ขึ้นสถานะ connect แต่จะไม่สามารถใช้งานได้จนกว่าจะเข้าไปที่หน้า login page (web login) แล้วกรอก user password ก่อนถึงจะเข้าใช้งานหน้าอื่นๆ ได้ครับ

เครื่องบางเครื่องเวลาต่อได้แล้วก็เด้งไปหน้านั้นเลย แต่บางเครื่องก็ไม่ไป

หรือไม่ลองอีกวิธีครับ เข้าเครื่อง pc ที่มันเด้งหน้า login ได้ แล้วจด url หน้านั้นไว้และกลับมาที่ S2 connect ให้ติดปกติ เปิด internet ขึ้นมามันจะขึ้น page can’t be display ให้ลองเอา url ที่จดกรอกใส่ไปแล้วเปิดดูครับ

ปล.. ส่วนมากหน่วยงานจะมี proxy กับ port น่ะครับ ลอง 2 ตัวนี้ก่อน