Replies from bluetaks
อ่าโทษทีผมไปเจอในกระทู้ official แล้วถ้าอดใจไม่ไหวจะจัดด้วย odin
ไม่ได้ใช้ odin มานานและครับ มีกระทู้บอกวิธีหน่อยมั้ยครับ
เหมือนกันครับ น่าจะมาจากไฟล์มีปัญหา ผมลองหมดแล้ววิปเครื่องล้างรีเซ็ทต่อคีก้แล้ว สรุปไม่เกิด ลงทุนล้างเครื่องเลยนะเนี่ย
ลองเปิดดูในตั้งค่า หมวดแบตเตอรี่ครับจะมีโชว์ว่าใช้แบตเตอรี่ไปกับอะไร ปกติจะใช้กับจอไปมากที่สุด
มันมีประกันเคลมได้นะครับที่ชาร์ต สายด้วย
s3 mini พึ่งออกเลยครับ น่าสนใจมาก เพิ่มอีกพัน 11000
พวก 3bb ไม่มีหรอครับเพราะมันเกาะระบบ tot ไปอยู่แล้วไม่ต้องใช้คู่สายลองหาถามดูก่อนครับ
ลอง Go keyboard มั้ยครับ
ดีใจด้วยนะครับสามสัปดาห์นี่น่าจะมาจากเบิกของและเทสเครื่องด้วยนะครับ เดี๋ยวนี้การซ่อมถ้าชิฟพังจะไม่ถอดเปลี่ยนนะครับก็เคลมบอดใหม่ไปเลยก็ไม่มีไรได้บอดมาก็ประกอบส่วนควบเข้าหา ผมเอาไปเคลมกรอบก็ทำ 3 ชั่วโมงจะช้าก็สั่งของวันเดียว ถ้าพวกเคลมบอดน่าจะมีการส่งของเก่าให้ศูนย์ใหญ่ตรวจสอบด้วย บริการไม่ขี้เหร่ครับผมไปศูนย์สีลมเพียงแต่คนเยอะมากนั่งรอกันแทบจะเอาเตียงไปนอน
เอาไปใช้เองรึเปล่าครับ คือจะบอกว่าหาซื้อของคุณภาพในท้องตลาดใช้ก็ได้นะครับผมดูตามพวก banan it หรือที่ที่ขายอุปกรณ์พวกนี้อ่ะครับ เพราะที่ใช้มาสายแท้ติดเครื่องมันไม่ค่อยดีครับมีปัญหา ตอนนี้ก็เอาสายตัวเครื่องอื่นมาใช้พอดีผมมีหลายอัน เพราะมันก็คือสายแปลงจาก USB เป็นไมโคร usb อ่ะครับ
ช่องเสียบชื้นแล้วเขาจัดการให้ยังไงครับ ตรงนี้ผมว่ามันเครมได้คุยดีๆ ชื้นก็น่าจะมีสนิมที่คอนแทค อาจจะลองดูที่หัวสายสักหน่อยว่ามีคราบสกปรกมากมั้ย
ส่วนเรื่องไฟชาตที่ด้านบนบอก เอาตามที่เขาให้มาดีแล้วครับอแดปเตอร์ไฟแรงก็ไม่ได้ชาตได้เร็วเท่าไหร่ครับอาจจะได้ไฟที่เต็มมากกว่าที่อแดปเตอร์ที่แถมมาระบุ เช่น 2 แอมอาจจะใช้งานที่ 80% จากไฟที่ออกมา เราไปใช้ 4 แอมชาตก็จะได้ สัก 85-90% ของที่ชาต 4 แอม แต่ก็ถือว่าได้ไฟที่เต็มเปี่ยมกว่า 2 แอม ส่วนการชาตนั้นวงจรจะมีการกำหนดไฟชาตเข้าอยู่แล้วครับเพื่อไม่ให้เซลแบตเตอรรี่ร้อนมากเกินไป อัดเท่าไหร่ก็เข้าเท่าที่มันกำหนดไว้แต่จะได้ประสิทธิภาพในการชาตเต็มที่กว่า
การชาตจากโน๊ตบุ๊กผ่าน usb นั้นออกแค่ประมาณ 500 มิลลิแอม/ 0.5 แอม ครับ usb 3.0 ประมาณ 0.9-1.0 แอม ครับ
เรื่องของไฟนั้นมีผลมาจากอแดปเตอร์โดยตรงของซัมซุงเองลองใช้เทียบ iphone ที่ตัวใหญ่ไฟออก 1 แอม ดูของไอโฟนจะได้ไฟที่เสถียรกว่า
แบตมีวงจรตัดครับแต่ถ้าลดลงถึงจุดนึงก็จะชาร์ตอีกไงครับ คิดเหมือนถังน้ำรั่วอ่ะครับเราเติมเต็มก็รั่วออกแล้วถ้าเรามีระบบลุกลอยวาล์วคอยเติมให้ ถึงน้ำรั่วลดลงไป ณ. จุดนึงมันก็จะปล่อยน้ำให้เต็มอีก วงจรนี้ก็ทำงานคล้ายๆกัน อยู่ที่ว่าการออกแบบวงจรมาดีแค่ไหนของมือถือแต่ละเครื่อง อย่างรุ่นเก่าๆพวกแบตเสื่อมๆแบตจะลดลงไวตอนที่เราชาตมันก็จะเต็มแล้วก็ชาตอีกหลายรอบจนแบตร้อนเกินทำให้เสื่อมได้ไวเข้าไปอีก
ส่วนตัวว่าแบตลิเที่ยมตอนนี้ ไม่น่าห่วงเรื่องการชาร์ตให้วุ่นวายแบบ Ni-mh แบบรุ่นเก่าแล้วคือในการทดสอบเชื่อว่าเขาจะทดลองมาจนรับประกันได้ว่าแบตอาจจะไม่เสียในเวลา สมมุติว่า 1 ปี อาจจะเสื่อมเฉลียแล้ว 60-70% ไม่ว่าจะใช้การชาร์ตแบบไหน(พูดถึงใช้ 1 แอมป์ชาร์ตมาตราฐานนะ) ซึ่งมันก็คือมาตราฐานการผลิตที่ทดลองมาแล้ว รอบไซเคิลต่างๆการชาร์ตที่ระดับไฟหมดแบบต่างๆ ถ้าจะมีข้อผิดพลาดก็แบบที่ใช้กันสุดโต่ง ใช้เยอะสุดๆกับวางสแตนบายไว้สุดๆ ผมก็ยังเชื่อว่ามันผิดพลาดกันไม่เกิน 6 เดือนอย่างมาก อารมมันเหมือนอายุคนถึงเวลา 60 ยังไงก็ต้องเหี่ยว แบตเองตั้งแต่เสร็จสิ้นกระบวนการผลิตมาก็เริ่มเสื่อมแล้ว ยกตัวอย่างแบตอัลคาไลน์หรือแบตแบบอื่นๆจะระบุ best before ไว้ เพราะพวกนี้มันก็คือกรด ซึ่งหมายถึงกัดกร่อนได้นั่นเอง
ถ้าย้อนไปในแบตแบบ Ni-mh Ni-cd ในสมัยนั้นเทคโนโลยีมันไม่เท่าลิเที่ยม ทำให้ปัจจัยการชาต อุณหภูมิ สภาพแวดล้อมอื่นๆ มีผลในการเสื่อมของมันมาก
ในแบตลิเที่ยมเองจิงๆที่ได้ตามข่าวสารถ้าชาร์ตกันแบบเกินๆอัดไฟเข้าให้เต็มๆ อย่างพวกรถบังคับ มันก็เหมือนระเบิดนี่เองลุกไหม้ทีก็ต้นเพลิงง่ายๆได้เลยครับ การชาร์ตลิเที่ยมจึงต้องมีการวัดอุณหภูมิ การปรับระดับไฟที่เข้าแต่ละเซลอีกด้วยครับ
ลองไปหาอ่านเรื่องของแบตลิเที่ยมจะได้เข้าใจเพิ่มนะครับ จะได้ใส่ใจมันน้อยลงหน่อยจะได้ไม่ซีเรียส ส่วนตัวทุกวันนี้คือ ชาร์ตจะไม่เล่นเพราะทุกอย่างจะร้อนมากรวมถึงอะแดปเตอร์รอไปทำนู่นนี่กลับมาก็เกือบร้อยแล้ว ถ้าเครื่องอยู่ในสภาวะ sleep จิงจะเข้าไวมาก
เขาเสียบไว้โดยไม่สนว่ามันจะพังเพราะมันคือเครื่องโชว์ครับ และต้องให้ลูกค้าได้ลองใช้งาน ลองผ่านไปเดือนแล้วกลับไปดูอาจจะดับไปแล้วก็ได้ มีหลายรุ่นที่ไปดูเรื่อยๆหลังๆคือเล่นไม่ได้แล้วแบตดับไม่ก็ที่ชาร์ตพัง