หลายๆคนน่าจะรู้จักหรือเคยได้ยินแบรนด์มือถือสุดหรู ที่หรูหราและมีราคาที่สุดแสนจะแพงอย่างที่ไม่มีแบรนด์ไหนเทียบได้ นั่นก็คือแบรนด์มือถือสัญชาติอังกฤษ Vertu (เวอร์ทู) ซึ่งตอนนี้กำลังประสบปัญหาใหญ่ถึงขั้นต้องปิดตัวธุรกิจมือถือลงเนื่องจากปัญหาการชำระหนี้ และยังส่งผลกระทบต่อพนักงานอีกกว่า 200 คน

แบรนด์ Vertu เป็นแบรนด์ที่โดดเด่นในด้านมือถือสุดหรูแนว Luxury Phone ในช่วงหลังๆ เริ่มมาผลิตสมาร์ทโฟน Android ที่ไม่เหมือนใคร และไม่มีใครกล้าเหมือน เพราะจะผลิตแต่มือถือที่มีรูปลักษณ์สุดหรูเป็นเอกลักษณ์ มีการดีไซน์และการประกอบตัวเครื่องด้วยมือ และมักจะตกแต่งด้วยเพชรนิลจินดาต่างๆ จนทำให้มือถือของ Vertu แต่ละเครื่องมีราคาไม่ต่ำกว่าแสนบาท พร้อมกับบริการผู้ช่วยส่วนตัว 24 ชั่วโมง

และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่า Vertu กำลังประสบปัญหาใหญ่ทางการเงิน หลังจากก่อตั้งมายาวนานตั้งแต่ปี 1998 เนื่องจากบริษัท Vertu มีหนี้สินจำนวนมหาศาลกว่า 128 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,959,624,303 บาท) แต่ทางเจ้าของบริษัทสามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้แค่ 1.9 ล้านปอนด์เท่านั้น ทำให้ Vertu จำใจต้องยอมปิดตัว และอาจต้องลอยแพพนักงานอีกกว่า 200 คน

ซึ่งการที่ Vertu มีหนี้สินจำนวนมหาศาลขนาดนั้นอาจไม่ใช่เรื่องแปลก จากผลสำรวจการเลือกซื้อมือถือของกลุ่มมหาเศรษฐี ส่วนมากก็จะใช้ iPhone และ Samsung ซีรี่ย์ Galaxy S กันมากกว่า ด้วยความที่ตัวแบรนด์นั้นถดถอยลงในไปเรื่องของความนิยม ซึ่งต้นทุนนั้นนอกจากวัสดุที่จะพิเศษแล้ว ยังเป็นงานประกอบมือหรือ Hand Made ทั้งหมด ซึ่งความพิเศษของตัวแบรนด์หรูๆ นั้นต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ให้ได้ แต่พอความนิยมเสื่อมลง ทำให้ยอดขายของ Vertu ไม่เคยเป็นที่น่าพอใจเลย และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้หนี้สินของ Vertu สะสมขึ้นไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ไม่สามารถจ่ายได้หมด

ต่อไปนี้แบรนด์มือถือสุดหรูสุดแพงอย่าง Vertu ก็จะกลายเป็นแค่ตำนานไปแล้ว เพราะด้วยหนี้สินจำนวนมหาศาลขนาดนั้น แถมด้วยยอดขายของแต่ละรุ่นที่ไม่สามารถทำกำไรเทียบได้กับรายจ่ายต่างๆ ที่มี ก็คงไม่มีใครกล้าสานต่อแบรนด์ในตำนานนี้อีก

 

ที่มา :  9to5google, Androidcentral