เแบรนด์สมาร์ทโฟนในฝั่งจีนตอนนี้เริ่มมีเทรนด์การพัฒนาระบบปฎิบัติการด้วยตัวเอง เพื่อมาใช้ในหลาย ๆ อุปกรณ์เพื่อเสริม Ecosystem ของตัวเองให้แข็งแรง โดยมีผู้นำอย่าง HUAWEI ที่มาพร้อมกับ HarmonyOS ตามมาด้วย Xiaomi ที่เพิ่งเปิดตัว HyperOS ไปหมาด ๆ และล่าสุด vivo ขอร่วมเทรนด์ด้วยอีกแบรนด์กับ BlueOS

ในงาน vivo Developer Conference 2023 ทางแบรนด์ได้มีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเองอย่าง BlueOS ซึ่งออกแบบมาเพื่อกลบจุดด้อยด้าน Ecosystem จากฝั่ง Android และเป็น OS ที่ใช้ภาษา Rust ในการเขียนชุดคำสั่งสำหรับพัฒนาระบบ (System Framework)

โดย BlueOS มาพร้อมจุดเด่น 3 อย่าง การทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด, ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหล และมอบความปลอดภัยให้กับข้อมูลของผู้ใช้งาน และถูกออกแบบมาให้รองรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และรองรับการตอบสนองหลายรูปแบบ (Multimodal interaction) ซึ่งหมายความว่าตัวระบบสามารถเข้าใจผู้ใช้งาน และตอบสนองได้ผ่านการป้อนข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ทั้งเสียงพูด, ข้อความ, ท่าทางการเคลื่อนไหวของร่างกาย รวมถึงคลื่นสมองด้วย

BlueOS รองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อ BlueXlink ที่ช่วยให้การรับส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์มีความอิสระ และปลอดภัยมากขึ้น รองรับทั้งกับระบบบ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และอุปกรณ์ทั้งสมาร์ทวอทช์ หรือหูฟังไร้สาย ซึ่งด้านความปลอดภัย BlueOS ได้ใช้ประโยชน์จากภาษา Rust โดยสามารถป้องกันช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่ผิดปกติได้

นอกจากนี้ตัวระบบยังกินทรัพยากรต่ำ สามารถติดตั้งได้ในอุปกรณ์ที่มี RAM เพียง 32MB ได้ แถมตัว OS ยังลดการใช้หน่วยความจำได้ถึง 67% เรนเดอร์ได้มีประสิทธิภาพขึ้นถึง 48% และตอบสนองได้รวดเร็วขึ้นถึง 18% โดยตอนนี้มีอุปกรณ์ที่จะได้ใช้เป็นรุ่นแรกคือ vivo WATCH 3 ที่จะเปิดตัวพร้อมกับ vivo X100 Series วันที่ 13 พฤศจิกายน 2023

ส่วนในมือถือนั้นตอนนี้ยังไม่มีแผนเปลี่ยนมาใช้ BlueOS อย่างเป็นทางการ ดังนั้นมือถือรุ่นใหม่ ๆ จะยังคงใช้ Origin OS และ Funtouch OS เหมือนเดิม

ที่มา: GizmoChina