vivo ยืนยันแล้วครับว่าจะเปิดตัวสมาร์ทโฟน vivo X200 Series ในวันที่ 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยคาดว่าจะมีหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น vivo X200, X200+, X200 Pro และ X200 Pro Mini ส่วน vivo X200 Ultra รุ่นใหญ่ จะเปิดตัวแยกต่างหากในปีหน้า และล่าสุด แหล่งข่าวที่ให้ข่าวแม่นๆ อย่าง Digital Chat Station ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยอ้างว่าได้มาจากแหล่งข่าววงในว่า vivo X200 Pro และ X200 Pro Mini จะเป็นรุ่นแรกที่จะติดตั้งเซนเซอร์กล้องหลัก Sony LYT-818 ที่เพิ่งประกาศเปิดตัวไป โดยเซนเซอร์นี้จะมาพร้อมความละเอียด 50MP และขนาดที่ใหญ่ถึง 1/1.28″ ซึ่งน่าจะให้ภาพที่สว่างและมีรายละเอียดสมบูรณ์มากขึ้น

Vivo X200 Pro และ Pro Mini จะได้เป็นรุ่นแรกที่ได้เซนเซอร์ 1/1.28″ ใหม่จาก Sony

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังเปิดเผยอีกว่ากล้องหลักจะมีรูรับแสง f/1.57 ซึ่งกว้างกว่า f/1.8 ของรุ่นปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด โดยรูรับแสงที่กว้างขึ้นนี้จะช่วยให้กล้องสามารถเก็บแสงได้ดีขึ้น ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและเอฟเฟกต์โบเก้ (ชัดตื้น หรือเบลอฉากหลังนั่นล่ะครับ) ก็จะดีขึ้น

เซนเซอร์ Sony LYT-818 ยังรองรับการแสดงตัวอย่าง HDR แบบเรียลไทม์ มีช่วงไดนามิก HDR 86dB ต่อเฟรม และอัตราส่วนสัญญาณต่อสัญญาณรบกวน 0.95e ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพโดยรวมของโทรศัพท์ทั้งสองรุ่น นอกจากนี้ Sony ยังระบุ ว่าเซนเซอร์สามารถลดสัญญาณรบกวนในสถานการณ์แสงน้อยได้อย่างมาก ซึ่งหมายความว่าภาพจะคลีนขึ้นนั่นเอง

ทางด้านสเปคที่หลุดมาแล้ว vivo X200 Pro คาดว่าจะมีหน้าจอ LTPO โค้งขนาด 6.7 หรือ 6.8 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นพร้อมความละเอียด 1.5K ขับเคลื่อนด้วยชิปเซต Dimensity 9400 ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกได้อย่างมาก นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 6,000 mAh ซึ่งช่วยให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้นอีกด้วย

รองประธานของ vivo นาย Jia Jingdong ได้ยืนยันว่า Vivo X200 Pro Mini ก็จะมาเช่นกัน โดยจะมีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.3 นิ้วที่กะทัดรัด ใช้ชิปเซต Dimensity 9400 (จึงเป็นไปได้ว่า vivo X200 Series ทุกรุ่นยกเว้น X200 Ultra จะใช้ชิปเซตนี้ร่วมกัน)

สุดท้าย ยังมีข่าวลือว่า vivo X200 Pro จะมาพร้อมกล้องหลังเลนส์อัลตราไวด์ 50MP และเลนส์เทเลโฟโต้ซูมปริทรรศน์ 200MP นอกจากนี้ ยังมีกล้องหลักตัวใหม่ด้วย คาดว่าซีรีส์นี้จะเปิดตัวพร้อมกับระบบปฏิบัติการ OriginOS 5 ซึ่งจะผสานรวม AI ที่ได้รับการปรับปรุงการแสดงผลและอินเทอร์เฟซให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ที่มา : Gizmochina