vivo ประเทศไทย ได้เปิดตัว vivo X200 Series ในไทยอย่างเป็นทางการ หลังจากที่เปิดตัวในจีน และระดับโลกที่มาเลเซียไป โดยประกอบไปด้วย vivo X200 และ vivo X200 Pro สมาร์ทโฟนเรือธงที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพที่ร่วมมือกับ ZEISS เหมือนเดิม แถมรุ่น Pro ยังมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพซูม 200 ล้านพิกเซล ที่ระยะ 85mm พร้อมฟีเจอร์การถ่ายภาพเวทีที่ทำมาเพื่อถ่ายคอนเสิร์ทโดยเฉพาะอีกด้วย

โดย vivo X200 และ X200 Pro มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่ผ่านการร่วมมือกับ ZEISS เหมือนเดิม โดยได้ให้กล้องความละเอียด 50MP ทุกเลนส์บน X200 Series ตั้งแต่กล้องหลัก ZEISS VCS Ture Color, กล้อง ZEISS Telephoto, ไปจนถึงกล้อง Ultra-Wide Angle มุมมองกว้าง 119 องศา โดยจะมี X200 Pro ที่มาพร้อมกล้องถ่ายภาพซูม ZEISS APO Telephoto ความละเอียดสูง 200MP ที่สามารถซูมได้ไกลถึง 50x โดยไม่เสียรายละเอียดภาพ และยังมีฟีเจอร์ High-Quality Imaging ที่ใช้ AI เข้ามาช่วยในการจับภาพการเคลื่อนไหวบนเวที แถมตัวช่วยสลับไปโหมด Telephoto Super Stage อัตโนมัติ และฟังก์ชัน Zero-Shutter-Lag Motion Snapshot และยังมีฟีเจอร์ ZEISS Multifocal Portrait พร้อมตัวเลือกระยะโฟกัส 85 มม. และ 135 มม. และการเคลือบเลนส์แบบ ZEISS T* Coating ที่ช่วยลดการสะท้อนลงมากกว่าเดิมอีกด้วย

vivo X200 Series มาพร้อมกับชิปเซตเรือธง MediaTek Dimensity 9400 ผสานการทำงานกับ vivo BlueChip และชิปประมวลผลภาพที่ปรับแต่งมาใหม่ โดย vivo X200 ได้ให้ชิปเซต vivo V2 และ X200 Pro ให้ชิปเซต vivo V3+ เพื่อให้ถ่ายภาพได้ดีมากกว่าเดิม

vivo X200 Series ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมหน้าจอมาตรฐาน ZEISS Master Color รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 4500nits โดยได้ให้สีธรรมชาติในแบบ ZEISS และยังได้ให้ฟีเจอร์ถนอมสายตาด้วย Full Range Luminance PWM Dimming 2160Hz ที่ลดการกะพริบของหน้าจอซึ่งช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา และมองหน้าจอได้นานมากยิ่งขึ้น

ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมแบตเตอรี่เทคโนโลยี vivo BlueVolt ซึ่งเป็นแบต Silicon Anode รุ่นที่ 3 ครั้งแรกในอุตสาหกรรม พร้อมกับเทคโนโลยี Semi-Solid เพื่อให้แบตเตอรี่หนาแน่น และมีปริมาณที่มากกว่าเดิม และใช้ได้ในอุณหภูมิที่เย็นสุด -20 องศา โดย X200 มีแบตเตอรี่ 5800mAh ในขณะที่ X200 Pro มีแบตเตอรี่ 6000mAh พร้อมชาร์จไว 90W และชาร์จไร้สาย 30W (ไร้สายจะได้เฉพาะ X200 Pro เท่านั้น) และตัวเครื่องยังรองรับมาตรฐานการทนน้ำทนฝุ่น IP68 และ IP69 อีกด้วย

vivo X200 Series มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Funtouch OS 15 ที่ทำงานบน Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง โดยมีฟีเจอร์ AI ที่พร้อมใช้ ประกอบไปด้วย Circle to Search, AI Note Assist, AI Transcript Assist, และ AI Erase เพื่อให้เหมาะกับการทำงานทุกรูปแบบอีกด้วย

สเปค vivo X200 ที่ขายในไทย

  • จอภาพ OLED LTPS ขนาด 6.67 นิ้ว
    • ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 120Hz
    • ความสว่างสูงสุด 4500 นิต
    • ความลึกสี 10-bit
    • ขอบเขตสี DCI-P3
    • รองรับ Dolby Vision
  • ชิปเซต MediaTek Dimensity 9400
  • หน่วยความจำ 12GB (LPDDR5x)
  • สตอเรจ 256GB (UFS 4.0)
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัก VCS 50MP (𝑓/1.57), เซนเซอร์ IMX921 ขนาด 1/1.56 นิ้ว, กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 50MP (𝑓/2.0) เซนเซอร์ ISOCELL JN1
    • กล้องเทเล 50MP (𝑓/2.57), เซนเซอร์ IMX822 ขนาด 1/1.95 นิ้ว, ระยะ 70 มม., กันสั่น OIS
    • เคลือบสารกันแสงสะท้อน ZEISS T*
    • ชิปประมวลผลภาพ V2
  • กล้องหน้า 32MP (𝑓/2.0) เซนเซอร์ ISOCELL KD1
  • ลำโพงสเตอรีโอ
  • เครือข่าย 5G
  • การเชื่อมต่อ
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
    • USB Type-C 2.0
  • แบตเตอรี่ 5800mAh
    • ชาร์จไว 90W
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือออปติคัล (ใต้หน้าจอ)
  • ทนน้ำทนฝุ่น IP68 / 69
  • ระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 15 บนพื้นฐาน Android 15

สเปค vivo X200 Pro ที่ขายในไทย

  • จอภาพ OLED LTPO ขนาด 6.78 นิ้ว
    • ความละเอียด 2800 x 1260 พิกเซล
    • อัตรารีเฟรช 0.1 ~ 120Hz
    • ความสว่างสูงสุด 4500 นิต
    • ความลึกสี 10-bit
    • ขอบเขตสี DCI-P3
    • รองรับ Dolby Vision
  • ชิปเซต Dimensity 9400
  • หน่วยความจำ 16GB (LPDDR5x)
  • สตอเรจ 512GB (UFS 4.0)
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.57), เซนเซอร์ LYT-818 ขนาด 1/1.28 นิ้ว, กันสั่น OIS
    • กล้องอัลตราไวด์ 50MP (𝑓/2.0) เซนเซอร์ ISOCELL JN1
    • กล้องเทเลมาโคร 200MP (𝑓/2.57), เซนเซอร์ ISOCELL HP9 ขนาด 1/1.4 นิ้ว, ระยะ 85 มม., กันสั่น OIS
    • เคลือบสารกันแสงสะท้อน ZEISS T*
    • ชิปประมวลผลภาพ V3+
  • กล้องหน้า 32MP (𝑓/2.0) เซนเซอร์ ISOCELL KD1
  • ลำโพงสเตอรีโอ
  • เครือข่าย 5G
  • การเชื่อมต่อ
    • Wi-Fi 7
    • Bluetooth 5.4
    • NFC
    • USB Type-C 3.2 Gen 1
  • แบตเตอรี่ 6000mAh
    • ชาร์จไว 90W
    • ชาร์จไร้สาย 30W
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออัลตราโซนิก (ใต้หน้าจอ)
  • ทนน้ำทนฝุ่น IP68 / 69
  • ระบบปฏิบัติการ FunTouch OS 15 บนพื้นฐาน Android 15

ราคาและการวางจำหน่ายในประเทศไทย

vivo X200 วางจำหน่ายในไทย 3 สี คือสีดำ Midnight Black, สีเขียว Aurora Green, สีน้ำเงิน Ocean Blue ในขณะที่ vivo X200 Pro จะวางขายในไทยอยู่ 2 สี คือ สีดำ Midnight Black และสีเทา Titanium Grey โดย vivo X200 จะวางจำหน่ายแค่ความจุ 12GB / 256GB ในราคา 29,999 บาท และ vivo X200 Pro จะวางจำหน่ายแค่ความจุ 16GB / 512GB ในราคา 39,999 บาท

ซึ่งใครที่ซื้อเครื่องในช่วงเปิดตัว จะได้รับของแถมเป็น vivo Care ประกันตัวเครื่อง 2 ปี และประกันหน้าจอแตก 2 ปี 1 ครั้ง (มูลค่า 10,999 บาท), Premium Case (มูลค่า 890 บาท), โปรเก่าแลกใหม่ รับส่วนลดเพิ่มจากราคาประเมินสูงสุด 8,000 บาท