Vivo X50 Pro 5G ที่เปิดตัวแบบ Global ไปเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยฟีเจอร์เทพๆ ทั้งหน้าจอ AMOLED 90Hz หรือกล้องหลัง 4 ตัว ที่มากับเทคโนโลยีกิมบอล (Gimbal) ทำให้การถ่ายวิดีโอออกมาเนียนจัดๆ แบบไม่ต้องใช้อุปกรณ์พวก Stabilizer ช่วยเลย นอกจากนี้มันยังเป็นมือถือที่รองรับการใช้งาน 5G ในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งตอนนี้มือถือรุ่นดังกล่าวก็ได้ฤกษ์มาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยเคาะราคาออกมาที่ 24,999 บาท
ดีไซน์เรียบหรู
Vivo X50 Pro 5G มีดีไซน์ตัวเครื่องที่เรียบหรูดูแพง ด้วยหน้าจอโค้ง 3D Curved Screen ที่มีขอบบางเฉียบทั้ง 4 ด้าน เพราะใช้จอแบบ Punch hole สำหรับวางกล้องเซลฟี่บริเวณมุมซ้ายบน แถมยังเป็นรูกล้องขนาดเล็กแค่ 3.96 มม. ทำให้ไม่เกะกะสายตาเวลาใช้งาน
หน้าจอ AMOLED ไหลลื่นด้วยรีเฟรชเรท 90Hz
มือถือรุ่นนี้มากับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 90Hz ที่จะทำให้ภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอต่างๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม หรือท่องเว็บ ออกมาเนียนตากว่าเดิม นอกจากนี้ยังมากับ DCI-P3 Color Gamut และคอนทราสท์ 6,000,000:1 อีกด้วย
กล้องหลัง 4 ตัว พร้อมระบบกันสั่นกิมบอล
มากับกล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP + กล้อง Telephoto เลนส์ Periscope ความละเอียด 8MP + กล้อง Portrait ความละเอียด 13MP + กล้อง Ultrawide / Macro ความละเอียด 8MP
ด้วยจุดเด่นสุดเทพไม่เหมือนใคร เพราะกล้องหลักความละเอียด 48MP ของ Vivo X50 Pro 5G ใช้ระบบกันสั่นกิมบอลแบบ 5 แกน ทำให้การถ่ายวิดีโอออกมาแบบเนียน และนิ่งสุดๆ โดย Vivo เคลมว่ากล้องแบบกิมบอลของมือถือรุ่นนี้ มีประสิทธิภาพในการกันสั่นมากกว่าระบบ OIS ของกล้องมือถือทั่วไปกว่า 300% เลยทีเดียว
ถ่ายภาพเคลื่อนไหวชัดเจนด้วย Pro Sports Mode
และไม่ใช่ว่าระบบกันสั่นกิมบอลจะทำให้ถ่ายวิดีโอเจ๋งอย่างเดียวเท่านั้น แต่ใน Pro Sports Mode มันจะทำงานคู่กับเซ็นเซอร์กล้องที่ปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ทำให้ Vivo X50 Pro 5G สามารถถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ ได้แบบเกือบจะไม่มีอาการหน่วงจากการโฟกัสภาพเลย
โฟกัสวัตถุเคลื่อนที่อย่างแม่นยำด้วย Motion AF Tracking
โหมด Motion AF Tracking จะช่วยให้กล้องสามารถโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนที่ไปมาได้อย่างแม่นยำ แม้วัตถุนั้นจะหลุดออกนอกเฟรม และกลับเข้ามาใหม่ก็ตาม แถมยังมีระบบ Autozoom ที่จะปรับระยะโฟกัสของวัตถุให้อยู่ตรงกลางเฟรมได้แบบอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังมีระบบ 3D Sound บันทึกเสียงของวัตถุที่เลือกได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าสิ่งนั้นจะขยับไปทางไหน
ซูมไกลสุดลูกหูลูกตาด้วย 60x Hyper Zoom
กล้อง Telephoto แบบ Periscope ของ Vivo X50 Pro 5G มากับพลังในการซูมแบบ Digital ได้ไกลถึง 60x ซึ่งหากใช้ร่วมกับระบบกันสั่นกิมบอลแล้ว ถาพที่ได้จะออกมาชัดเจน ไม่มีเบลอ
ฟังเพลงคุณภาพสูงด้วยชิปเสียง AK4377A
นอกจากจะมีกล้องเทพๆ แล้ว มือถือรุ่นนี้ยังให้พลังเสียงที่โดดเด่นกว่าใครด้วยชิปเสียง AK4377A และมาตรฐาน Hi-Red Audio ทำให้การฟังเพลง หรือดูคอนเทนท์ต่างๆ ได้รายละเอียดคมชัด และมีคุณภาพที่สูงกว่า
ระบบชาร์จไว 33W
Vivo X50 Pro 5G มีแบตเตอรี่ขนาด 4315 mAh ที่ใช้งานได้สบายๆ ทั้งวัน และยังมีระบบชาร์จไว 33W (Vivo FlashCharge) ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% – 57% ได้ในเวลาแค่ 30 นาที เท่านั้น
สเปค Vivo X50 Pro 5G
- หน้าจอ : AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, รีเฟรชเรท 90Hz
- CPU : Snapdragon 765G
- RAM : 8GB (LPDDR4X)
- ความจุ : 256GB (UFS 2.1)
- กล้องหลัง :
- wide 48 MP (f/1.6), PDAF, gimbal OIS
- Periscope telephoto 8 MP (f/3.4), ความยาวโฟกัส 135 มม., ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0 นิ้ว, PDAF, OIS, ออปติคอลซูม 5 เท่า
- Portrait 13 MP (f/2.5), ความยาวโฟกัส 50mm , ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.8 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 0.8 µm, PDAF, ออปติคอลซูม 2 เท่า
- Ultra-wide + macro 8 MP (f/2.2), ความยาวโฟกัส 16mm, ขนาดเซ็นเซอร์ 1/4.0 นิ้ว, ขนาดพิกเซล 1.12 µm, ระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 ซม.
- กล้องหน้า : 32MP (f/2.45)
- การเชื่อมต่อ :
- 5G N41 / N78
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot
- Bluetooth 5.1, A2DP, LE, aptX HD
- NFC
- USB Type-C
- แบตเตอรี่ : 4315 mAh รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบปฏิบัติการ : Funtouch OS 10.5 บน Android 10
- ขนาด / น้ำหนัก : 158.46 x 72.8 x 8.04 มม. / 181.5 กรัม
- สีที่วางจำหน่าย : Alpha Grey
ราคา และวันวางจำหน่าย
Vivo X50 Pro 5G วางจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวคือ 8GB / 256GB สี Alpha Grey โดยมีราคาอยู่ที่ 24,999 บาท พร้อมรับของแถมเป็นเครื่องดูดฝุ่น มูลค่า 1,999 บาท Gift Voucher 500 บาท สำหรับแลกซื้อหูฟัง Vivo TWS Neo (ภายในวันที่ 8 – 30 ก.ย. 63) และ VIP Card รับประกันหน้าจอแตกพร้อมขยายประกันเครื่องเพิ่มเป็นเวลาอีก 1 ปี
หรือหากซื้อกับผู้ให้บริการโทรศัพท์พร้อมแพ็คเกจที่กำหนด จะเหลือราคาเริ่มต้นเพียง 13,989 บาท เท่านั้น โดยมือถือรุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ (8 กันยายน 2563) เป็นต้นไป ตามร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายครับ
รอสักสองเดือนราคาน่าจะลง ค่อยว่ากันไม่รีบใช้
รอลดสัก 10,000 น่ะ ค่อยว่ากัน
รอมเค้าดีมั้ยค้าบ ไม่เคยใช้เจ้านี้เลย
ราคาแรงไปมั้ยนะ
ราคาแรงไปนะ snap765 นะจ๊ะ
กล้องหน้าดีมาก กล้องหลังดี ถ้าเปิดมาสัก 16,900.- ค่อยหน้าสน
ราคาน่าจะเบากว่านี้หน่อยนะ
เปิดราคามาเพื่อลดหรอครับ
เห็นมีช่องรีวิวเรื่อง vdo ยังเป็นลอง IP กับ SS
แปลว่าถึง HW ดี แต่เรื่องงาน vdo หลายๆค่ายยังตามสองเจ้านี้ไม่ทันซักที
แต่การเทสก็เทส เกินคนปกติใช้ด้วยหล่ะมั๊ง 55
แต่เรื่องอื่น ผมว่าไม่ติดอะไร รอดูราคา oper ก่อน
ราคาไม่ติด oper ค่อยข้างแพง เหงื่อแตกเบย