เดี๋ยวนี้มือถือรุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวมามักมาพร้อมกับ USB Type C เนาะ แต่ว่า เอ๊ะ ทำไมต้องเปลี่ยนด้วยหละ เปลี่ยนแบบนี้จะใช้งานยากว่าเดิมไหม แล้วมันมีข้อดีเพิ่มเติมยังไงเดี๋ยวมาหาคำตอบกันจากคลิปนี้เลย!
ติดตามดูพวกเราแบบสดๆ ได้ทุกวันอาทิตย์ เที่ยงคืนทางช่อง Nation TV 22 นะคะ!
ปรกติแล้วการทำงานของอะแดพเตอร์หรือตัวชาร์จไฟที่มีระบบควิกชาร์จเมื่อเราได้ต่อชา์จกับอุปกรณ์ธรรมดาที่ไม่รองรับระบบควิกชาร์จ ตัวชาร์จจะปล่อยไฟออกมาแค่5โวลท์ครับแต่ปล่อยกระแสประมาณ2แอมป์ ใช้สายอะไรก็ได้แค่5โวลท์
แต่ถ้าเมื่อไหร่เรานำอุปกรณ์ที่รองรับควิกชาร์จมาเสียบ จะต้องใช้สายที่มีใส้ดาต้าหรือสายข้อมูลอีก2ใส้ครบและต้องเป็นสายอย่างดีที่ทนกระแสและแรงดันสูงได้ มิฉนั้นมันจะชาร์จแค่ระบบธรรมดา เหตุผลก็คือตัวเครื่องที่มีระบบควิกชาร์ทมันจะคอยสื่อสารกับเครื่องชาร์จว่าจะให้ปล่อยไฟได้แค่ใหนและเมื่อไหร่ เช่นระหว่างเรากดโทรศัพท์ไปด้วยและชาร์จไปด้วย เครื่องชาร์จจะปล่อยไฟมาแค่5โวลท์เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสะสมกับตัวเครื่องมากไปและเมื่อเราปิดหน้าจอ ตัวโทรศัพท์ถึงจะสั่งให้เครื่องชาร์จเพิ่มแรงดันไฟให้สูง12โวลท์ได้ เข้าสู่โหมดชาร์จเร็ว
สรุปนะครับ ถึงเป็น USB Type C ตัวโทรศัพท์และเครื่องชาร์จก็จะสื่อสารกันแบบเดียวกับ USB ธรรมดานี่แหละ ถึงสายไม่ดีก็ชาร์จได้ไม่ต้องกลัวพังครับ แต่จะชาร์จแบบธรรมดา
ทุกวันนี้ผมใช้เครื่องชาร์จของsamsung galaxy note5 ชาร์จทุกอย่างได้ที่เป็น2แอมป์ในบ้าน ส่วนในรถผมใช้ของ Aukey Dual QuickCharge 3.0 ชาร์จโทรศัพท์ได้ทุกเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น SONY เครื่องน้องชาย Lenovo เครื่องแฟน และ samsung galaxyJ7 ล้วนใช้ได้ทั้งสิ้นไม่มีพัง
ปล. ไม่รู้ผมอธิบายให้หายกังวลเกี่ยวกับการใช้สาย USB Type C ที่จะมาถึงในอนาคตกันได้หรือเปล่านะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ปกติสายไม่มีตัวป้องกันอยู่แล้วครับ ตัวกันไฟเกินมันอยู่ในมือถิอครับ