หลังจากเปิดตัวไปเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา Black Phone 2 สมาร์ทโฟนที่ชูจุดเด่นด้านความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้ ก็ได้ปล่อยคลิปโฆษณา (เรียกว่าหนังสั้นดีกว่า) เตือนใจในการใช้สมาร์ทโฟนของวัยรุ่น (หรือวัยอื่นก็ด้วย)ในยุคปัจจุบันว่าถ้ามือถือของเราดันไปอยู่ในมือคนอื่น มันจะอันตรายแค่ไหน และตัวคลิปช่างทำออกมาได้ดีมว๊ากกกก ใครดูใครเห็นจะเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมขึ้นอีกมากเลยทีเดียว ซึ่งเราก็เห็นประโยชน์อันมากมายนี้แล้ว จึงขอสรุปเอามาแชร์ให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะ ~
สำหรับคนที่ยังไม่เคยดู สามารถรับชมได้จากคลิปด้านล่างนี้เลยนะครับ
เรามา recap สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากโฆษณาชิ้นนี้กันเป็นตอนๆไปเลย นะครับ
ปล. เราไม่ควรว่าน้องเมย์กันนะ น้องเมย์เค้าไม่รู้ และน้องเค้าน่ารัก ดังนั้นน้องเค้าไม่ผิดนะ เราควรต้องสอนเค้าดีๆ ไม่ควรด่าน้องเค้าเสียๆหายๆ โอเคะ? 😛
เริ่มจากตอนแรก น้องเมย์พบว่ามือถือตัวเองหาย ก็รีบไปโพสต์สเตตัสอย่างไว เพื่อแจ้งคนอื่นว่าให้ทักไลน์ไป แต่ก็พบว่าบัญชีของตัวเองถูกคนอื่นเอาไปใช้และขึ้นสเตตัสเสียๆหายๆไป
น้องเมย์ควรต้องรู้ว่า
1. น้องเมย์มือถือหาย แล้วน้องเมย์จะไปให้คนอื่นทัก LINE ได้ยังไงคะ
2. ถ้าน้องเมย์ยังเข้า facebook ได้ตามปกติ สิ่งที่น้องเมย์ควรต้องทำคือรีบเปลี่ยน password ค่ะ
น้องเมย์รู้มั้ยว่าการเปลี่ยน password ของ facebook เมื่อไหร่ มันจะทำให้เครื่องอื่นที่เราเคย login มาทั้งหมด ใช้ไม่ได้ทันทีเลยนะจ๊ะ ทั้งตัว facebook และ facebook messenger เลยล่ะ ซึ่งถ้าน้องเมย์ทำ เราก็จะไม่ต้องกลัวคนร้ายเข้าไปอ้างตัวว่าเป็นเราทำเรื่องเสียๆหายๆอีกต่อไป
และตรงนี้คนร้ายแอบฉลาด หลอกให้คนที่ติดต่อหาน้องเมย์โอนเงินเข้าบัญชีของน้องเมย์ แล้วไปถอนเงินออกจากบัญชีของน้องเมย์เลย จะได้ตามจับไม่ได้ว่าคนร้ายเป็นใคร โดยคนร้ายเค้าไปพบเจอรหัสบัตร ATM จากที่น้องเมย์จดเอาไว้ในโน๊ตนั่นเอง แต่เอ๊ะ สรุปว่าน้องเมย์ทำบัตร ATM หายด้วยเหรอ!?!
น้องเมย์ควรต้องรู้ว่า
3. รหัส ATM อะไรพวกนี้ เราไม่ควรจะจดเอาไว้ในโน๊ต หรือถ้าจะจดก็เอาแบบที่คนอื่นมาอ่านแล้วไม่เข้าใจทันทีนะ อาจจะเข้ารหัสเอาไว้ง่ายๆด้วย เช่น วันเกิดแฟน, เวลาตกฟากของหมาที่บ้าน หรือข้อมูลใดๆที่เราอ่านแล้วเข้าใจคนเดียวน่ะ
4. ถ้าบัตร ATM หนูหาย หนูก็ควรจะโทรอายัติบัตรทันทีนะจ๊ะ ไม่ควรปล่อยเกียร์ว่างแบบนี้น่อ
จากที่ดูรูปพรรณสัณฐานของโทรศัพท์น้องเมย์ รวมถึง UI ก็จะรู้ได้ไม่ยากว่าโทรศัพท์ของน้องเมย์ต้องเป็น iPhone อย่างแน่นอน ตอนแรกเราก็นึกว่าน้องเมย์เค้าไม่ได้ sign-in เครื่องด้วย apple id เอาไว้ ไม่ได้ล็อคเครื่องด้วยรหัสอะไรทั้งสิ้น ทำให้คนร้ายเค้าถึงข้อมูลส่วนตัวในเครื่องได้ทั้งหมด แต่เราถึงกับผงะไปเมื่อเห็นว่าน้องเค้าใช้ Find my iPhone ได้ด้วยเฮ้ยยยยย!!
น้องเมย์ควรต้องรู้ว่า
5. เมื่อเราเข้า Find my iPhone ได้แล้ว นอกเหนือจากว่าเราจะเข้าไประบุตำแหน่งของโทรศัพท์ได้แล้วเนี่ย Find my iPhone มันก็สามารถสั่งล็อคเครื่องได้ด้วยนาจา หรือจะสั่ง Remote Wipe ได้เลยล่ะจ้า ซึ่งความสามารถนี้ Samsung เค้าก็มีเหมือนกัน ถ้าเรา login ด้วย samsung account เอาไว้ก็ทำได้เหมือนกันเลยล่ะ
หน้าตาเว็บ find my phone ของ Samsung
หน้าตาเว็บ iCloud สำหรับตามเครื่องหาย
ถ้า iPhone หายสามารถเข้าไปดูตำแหน่ง ล็อคเครื่อง หรือล้างข้อมูลได้ที่ iCloud
หรือถ้า Samsung Galaxy หายหายสามารถเข้าไปดูตำแหน่ง ล็อคเครื่อง หรือล้างข้อมูลได้ที่ Find my Phone
แต่น้องเมย์เค้าคงสติแตกอยู่ จนไม่ทันเช็คข้อมูลเหล่านี้ และคิดว่าตัวเองเป็น wonder woman สามารถต่อสู้กับเหล่าร้ายได้ เมื่อได้ตำแหน่งแล้วน้องเมย์ก็รีบหุนหันออกไปเตรียมจับโจรด้วยตัวเองทันที
ใส่กางเกงสั้นๆหน่อย จะได้ขยับตัวง่ายๆ ถีบเตะอะไรคนร้ายสะดวกเนอะ
อะหือ โกดังร้าง มืดๆแบบนี้ น้องเมย์ยังกล้าลุย พี่เป็นผู้ชายอกสามศอกยังคิดหนักเลย สวดยวดมาก
โอ้ว คนร้ายใจดีจุง วางมือถือเอาไว้ให้ด้วย
ในโทรศัพท์น้องเมย์มีภาพลับเฉพาะของตัวเองอยู่ด้วย คุณพระช่วย!! แต่โชคดีนะกล้อง iPhone ไม่ดี ถ่ายภาพมาเบลอ #ผิด
แต่เดี๋ยว…น้องเมย์จะลงไปนั่งร้องไห้ทำเพื่อครับ
สิ่งที่น้องเมย์ควรรู้นะคะ
6. ถ้าคนร้ายใจดีขนาดนั้น น้องเมย์ควรรีบใส่ตีนหมาวิ่งค่ะ วิ่งให้สุดชีวิตหนีออกมาจากตรงนั้น ถ้าดวงดีคนร้ายจับไม่ได้ก็รอดตัวไป ไม่ควรลงไปนั่งพับเพียบสวยงาม อ่อยขนาดนั้นค่ะ
7. การหวงของใช้เป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ควรเอาตัวไปเสี่ยงอันตรายนะ คือถ้าไม่ได้อยู่บ้านกับผู้ปกครอง อย่างน้อยน้องเมย์ควรไปสถานีลากตำรวจไปด้วยสัก 1-2 คนค่ะ น่ารักๆอย่างน้องเมย์ ตำรวจเค้าไม่ปล่อยให้ไปคนเดียวอยู่แล้วล่ะ
8. ถ้าน้องเมย์สั่งล็อคเครื่องด้วย Find my iPhone ตั้งแต่แรก น้องเมย์ก็ไม่ต้องเหนื่อยแบบนี้แล้วล่ะ เพราะว่าการแฮค iPhone นี่เป็นเรื่องที่ยากใช้ได้เลย มีข่าวออกมามากมายหลายครั้งที่หน่วยงานรัฐต้องของความร่วมมือกับทาง Apple ให้ช่วยปลดล็อคเครื่องให้บ่อยครั้งอยู่นะ
9. เราไม่ควรถ่ายภาพวาบหวิวอะไรของเราเก็บเอาไว้ในเครื่องนะ ไม่ว่าจะมีเครื่องที่ปลอดภัย ป้องกันข้อมูลได้แน่นหนาขนาดไหนก็ตาม นอกจากว่าเรายินดีจะให้คนอื่นเห็นอยู่แล้ว
สรุปตอนจบ เราไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับน้องเมย์ เพราะโฆษณาชุดนี้มีเรื่องหักมุมหลายเรื่องมากแล้ว จริงๆคนที่ออกมายืนอาจจะเป็นคนร้ายที่โดนตำรวจล็อคคออยู่ก็เป็นได้ เห็นมือแกสั่นๆอยู่อะไรงี้ อิอิ
เห็นมั้ย โฆษณาตัวนี้ทำออกมาดีแค่ไหน สอนให้พวกเรารู้จักป้องกันตัวให้ปลอดภัย และช่วยให้รู้จักฟีเจอร์ของโทรศัพท์อื่นๆขึ้นอีกมากมายเลยล่ะเนอะ ^^
ขอทิ้งท้ายไว้แบบนี้ละกันนะ
“ทุกคนมีความลับ แต่เราพลาดที่ถ้าดันไม่รู้ว่าโทรศัพท์มีฟีเจอร์ป้องกันอยู่ เก็บความลับเอาไว้คุณเอาไว้ให้ดีที่สุด ศึกษาความสามารถของโทรศัพท์คุณให้ดี”
สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนละคร้าบบบบ สวัสดี
เน้นปลอดภัยสุดๆ
ราคานี้มันจะไหวเหรอ
อุตส่าห์ทำมาโชว์ฟีเจอร์ของมือถือระบบอื่น แทนที่จะโชว์ของตัวเองซะงั้น 555+
+1 ถถถ
ตีตลาดด้วยราคา 20,000
คลิปวีดีโอสั้นๆที่แทบไม่มีอะไรบอกเกี่ยวกับมือถือตัวเองเลยว่ามัน Secure ยังไง
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม i-mobile ถึงสาละวันเตี้ยลง
ถ้ากลัวข้อมูลหลุดอย่างเดียว ใส่รหัส ลายนิ้วมือก็ได้ละ
ชอบบทความนี้มากครับ ตรงใจที่สุด
ส่วนโฆษณานั้นดูแล้วขัดใจครับ
อย่างน้อยโฆษณาควรนำเสนอสิ่งที่มือถือตัวเองปลอดภัยเหนือสมาร์ทโฟนอื่น ๆ
นี่ดูจบผมยังไม่มั่นใจว่าถ้าน้องเมย์ยังใช้งานแบบนี้ blackphone2 จะช่วยให้ข้อมูลปลอดภัยขึ้นยังไง?
โฆษณา Black Phone 2 ด้วยไอโฟน เยี่ยม! (ประชด)
*ลบ
ไม่เห็นโชวฟีเจอร์อะไรเลย
แล้วงี้ไม่โดนไอโฟนฟ้องหรอในโฆษณา
ผิดหวังตรงความเบลอ … แหะ ๆ > <
remote wipe บน android น่าจะทำได้ทุกรุ่นนะ โดยผ่าน service ของ google ที่ชื่อ android device manager ครับ
มันมีจุดอ่อนตรงที่เครื่องต้อง online นี่สิ
ถ้าเครื่องหาย ก็ต้องเลือก
– Wipe = โอกาศตามคือแทบไม่มี
– ไม่ Wipe = ยังตามตำแหน่งได้อยู่ แต่เสี่ยงจะถูกเข้าถึงข้อมูล
ฝั่ง Android ถึงจะใส่รหัสไว้ แต่ถ้าไม่ได้เข้ารหัส SD ด้วย (ซึ่งส่วนมากไม่ทำ)
ข้อมูลก็หลุดอยู่ดี
ของผมเองฝากหน่อยครับ
https://www.youtube.com/watch?v=StHO_6rLCbg