ไมโครซอฟท์ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับ Windows 11 ที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรและผู้ดูแลระบบไอที โดยรอบนี้จะเปิดให้สามารถติดตั้ง Quality Updates ได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกที่เปิดเครื่องใหม่ หรือที่เรียกว่า Out-of-the-box Experience (OOBE) เลยทีเดียว

OOBE คืออะไร?
หลายคนน่าจะคุ้น ๆ กันอยู่แล้ว OOBE ก็คือขั้นตอนที่โผล่มาทันทีหลังจากเราติดตั้งระบบเสร็จ หรือเปิดเครื่องใหม่ครั้งแรก โดยมันจะพาเราผ่านการตั้งค่าพื้นฐานต่าง ๆ เช่น การเชื่อมต่อ Wi-Fi, การล็อกอินบัญชี Microsoft, การตั้งค่าความเป็นส่วนตัว, การเปิด/ปิดฟีเจอร์เสริม รวมถึงการเลือกว่าจะสำรองข้อมูลหรือซิงก์ข้อมูลจากระบบเดิมหรือไม่ กว่าที่จะผ่านไปถึงหน้าเดสก์ท็อปจริง ๆ ก็ใช้เวลาไม่น้อย
ที่ผ่านมา ขั้นตอน OOBE ไม่ได้มีการอัปเดตตัวระบบหลักเข้ามา ทำให้หลังจากผู้ใช้เข้าสู่เดสก์ท็อปครั้งแรก มักจะต้องเจอกับการอัปเดตยาว ๆ อีกเป็นสิบ ๆ นาที หรือบางครั้งก็ชั่วโมงเต็ม ๆ โดยเฉพาะในเครื่องใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับแพตช์เลย ฟีเจอร์ใหม่ที่ไมโครซอฟท์เพิ่มเข้ามาจึงเข้ามาแก้ปัญหาจุดนี้

อัปเดตคุณภาพคืออะไร
อัปเดตคุณภาพ (Quality Updates) ไม่ใช่อัปเดตใหญ่ที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามา แต่เป็นอัปเดตที่ช่วยปรับปรุงความเสถียรและประสิทธิภาพของระบบ เช่น การแก้บั๊ก ปิดช่องโหว่เล็ก ๆ หรือปรับปรุงให้การทำงานลื่นไหลขึ้น
การเปิดให้อัปเดตคุณภาพมาตั้งแต่ OOBE จึงทำให้เครื่องใหม่ที่พนักงานหรือผู้ใช้ได้รับมา พร้อมใช้งานได้ทันทีหลังจากล็อกอินครั้งแรก โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งรออัปเดตเพิ่มอีก ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อองค์กรที่ต้องแจกเครื่องหลายร้อยหรือหลายพันเครื่อง เพราะทุกเครื่องจะพร้อมใช้งานตั้งแต่ตอนส่งมอบให้ผู้ใช้เลย

ใช้ได้กับใคร
แต่ฟีเจอร์นี้ยังมีข้อจำกัดและไม่ได้เปิดให้ใช้งานกับทุกคน เงื่อนไขของอุปกรณ์ที่จะใช้ได้ มีดังนี้
- ต้องเป็น Windows 11 เวอร์ชัน 22H2 ขึ้นไป
- รุ่น (SKU) ที่รองรับ ได้แก่ Enterprise, Pro, Education หรือ SE
- เครื่องต้อง เชื่อมกับ Entra-joined หรือ Entra hybrid-joined
- ต้องถูกจัดการผ่าน Microsoft Intune
- ต้องมี Enrollment Status Page (ESP) profile ที่ใช้งานได้
- และสุดท้าย เครื่องต้องเคยได้รับอัปเดต OOBE zero-day เดือนสิงหาคม 2025 หรืออย่างน้อยต้องติดตั้งอิมเมจที่รวม อัปเดตนอกความปลอดภัยของ Windows เดือนมิถุนายน 2025 มาแล้ว
พูดง่าย ๆ คือ มันยังไม่ใช่ฟีเจอร์สำหรับผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป แต่จะเน้นไปที่องค์กรที่มีระบบจัดการเครื่องด้วย Intune หรือ MDM เป็นหลัก

วิธีตั้งค่า
ผู้ดูแลระบบสามารถเปิดฟีเจอร์นี้ได้ไม่ยาก เพียงเข้าไปที่ Intune admin center จากนั้นไปที่เมนู Devices > Enrollment > Enrollment Status Page แล้วเลือกโปรไฟล์ ESP ที่ต้องการ หลังจากนั้นให้ตั้งค่าที่หัวข้อ Install Windows quality updates (might restart the device) เป็น Yes เท่านี้เครื่องที่อยู่ในโปรไฟล์นั้นก็จะทำการติดตั้งอัปเดตคุณภาพตั้งแต่ขั้นตอน OOBE
ไมโครซอฟท์ระบุเพิ่มเติมว่า โปรไฟล์ ESP ที่มีอยู่เดิม (ก่อนอัปเดตนี้) จะถูกตั้งค่าเริ่มต้นเป็น No เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ตั้งใจ ส่วนโปรไฟล์ ESP ที่สร้างขึ้นใหม่จะถูกตั้งค่าเป็น Yes ตั้งแต่แรก
ข้อดีของแนวทางนี้คือ ผู้ใช้จะได้เครื่องที่ติดตั้งอัปเดตล่าสุดเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันแรกที่เริ่มใช้งาน ลดความยุ่งยากและการเสียเวลาหลังจากเปิดเครื่อง นอกจากนี้ยังช่วยให้องค์กรมั่นใจได้ว่าทุกเครื่องที่แจกออกไปมีความปลอดภัยและเสถียรภาพตรงตามมาตรฐานเดียวกัน
แม้คำแนะนำจะมุ่งไปที่ Microsoft Intune เป็นหลัก แต่ไมโครซอฟท์ก็เปิดช่องทางให้ โซลูชัน Mobile Device Management (MDM) อื่น ๆ ที่รองรับ ESP profiles ใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ด้วยเช่นกัน ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นให้กับฝ่ายไอที
ที่มา : Neowin
Comment