หากจะพูดถึง Partition แบบ FAT32 เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว เพราะเป็นรูปแบบหนึ่งของระบบไฟล์ File System ของคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 1977 เลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันระบบไฟล์ FAT32 ไม่ค่อยถูกนำมาใช้งานเท่าไหร่แล้วเพราะว่ามีระบบไฟล์ที่ดีกว่าหลายตัวมีออกมาทดแทน หรือเหตุที่ไม่ถูกใช้เพราะ FAT32 มีข้อจำกัดการสร้างไดรฟ์ที่ 32 GB กันแน่

Windows 11 Insider Preview เวอร์ชันล่าสุดได้มีการปลดล็อกข้อจำกัดของ Partition แบบ FAT32 จากเดิมที่สร้างได้ Partition สูงสุด 32GB ได้มีการขยายเป็น 2TB แล้ว โดยการปลดล็อกข้อจำกัดนี้เฉพาะการทำผ่านการ Format ผ่าน CMD เท่านั้น การทำด้วย GUI วิธีปกติยังจำกัดไว้ที่ 32 GB เหมือนเดิม

ซึ่งถ้าว่ากันตามการออกแบบโครงสร้างของ FAT32 แล้ว จะสามารถขยาย Partition ได้สูงถึง 16TB แต่ที่ผ่านมา FAT32 บน Windows ถูกจำกัดการสร้าง Partition ไว้แค่ 32GB เพราะว่าตอนนั้น Microsoft ต้องการผลักดันให้คนย้ายไปใช้ NTFS มากกว่า

ซึ่งข้อจำกัดนี้ก็ไม่เคยถูกยกขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่เลย ทำให้ยังติดอยู่ที่ 32GB เหมือนเดิม โดยข้อจำกัดนี้มีมาตั้งแต่ Windows 95 หรือราว ๆ 30 ปีที่แล้วเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งที่ไม่มีใครไม่ยุ่งกับ FAT32 เพราะเป็นระบบไฟล์ที่เก่ามากแล้ว และมีข้อจำกัดมากมาย

โดยจนปัจจุบันก็มีระบบไฟล์ใหม่ ๆ ที่ถูกออกแบบมาให้แก้จุดอ่อนของ FAT32 อย่าง exFAT และแบบอื่น ๆ แต่ FAT32 ที่ผ่านมาไม่หายไปไหน ก็เพราะว่า FAT32 เป็นระบบไฟล์ที่เรียกได้ว่าเป็นพื้นฐานที่สุดของคอมพิวเตอร์ทำให้มีบางอุปกรณ์ บางอุปกรณ์ยังพึ่งพาระบบไฟล์นี้อยู่ เช่น เครื่องพิมพ์เครื่อง ถ่ายเอกสาร เครื่องเสียงบ้าน เครื่องเสียงรถยนต์บางรุ่น เครื่องฉาย Projector

การยกเลิกข้อจำกัดนี้น่าจะช่วยให้หลายคนที่ยังต้องวนเวียนกับระบบไฟล์แบบ FAT32 ใช้งานได้สะดวกขึ้น แต่ส่วนตัวคิดว่าข้อจำกัด 32GB ก็เรื่องหนึ่ง แต่เรื่องที่น่าปวดหัวที่สุดของ FAT32 คงเป็นเรื่องของข้อจำกัดการเขียนไฟล์แต่ละครั้งขนาดต้องไม่เกิน 4 GB มากกว่า ถ้าปลดล็อกข้อจำกัดนี้ได้จะเป็นอะไรที่ดีมาก

https://x.com/davepl1968/status/1772042158046146792

ที่มา : pcworld blogs.windows.com