Microsoft ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 เพื่อให้การปิดโปรแกรมหรือแอปที่ค้างทำได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถคลิกขวาที่ไอคอนแอปบน Taskbar แล้วเลือก End Task เพื่อบังคับปิดโปรแกรมที่ไม่ตอบสนองได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลากด Ctrl+Alt+Delete เพื่อเปิด Task Manager และค้นหาโปรแกรมที่ค้างเหมือนในอดีต ช่วยให้จัดการกับแอปที่มีปัญหาได้สะดวกยิ่งขึ้น ฟีเจอร์ใหม่นี้ทำงานเสมือนการสั่ง End Task ผ่าน Task Manager คือปิดการทำงานของโปรแกรมทันทีโดยไม่ผ่านกระบวนการขอปิดแบบปกติ

ความแตกต่างระหว่าง Close Window กับ End Task บน Windows 11

ต่างกับ Close Window ของเดิมที่เป็นการส่งสัญญาณขอให้โปรแกรมปิดตัวเองอย่างสุภาพ ระบบจะบอกให้แอปเริ่มกระบวนการปิด เช่น เซฟข้อมูล หรือแสดงข้อความเตือนก่อนปิด หากแอปตอบสนองตามปกติ โปรแกรมก็จะปิดอย่างเรียบร้อย แต่ถ้าแอปค้างหรือไม่ตอบสนอง การสั่ง Close Window อาจไม่เกิดผลอะไรเลย ทำให้ผู้ใช้ต้องหาวิธีอื่นเพื่อปิดโปรแกรม

แต่ End Task เป็นการสั่งให้ระบบปิดโปรแกรมทันทีแบบบังคับ ไม่ให้โปรแกรมมีโอกาสเซฟข้อมูลหรือทำขั้นตอนใด ๆ ก่อนปิด ระบบจะหยุดการทำงานของโปรเซสที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทันที การใช้ End Task จึงเหมาะกับกรณีที่แอปค้างหรือไม่ตอบสนองอย่างสมบูรณ์ แต่ก็มีความเสี่ยง เพราะข้อมูลที่ยังไม่ได้เซฟในโปรแกรมนั้นจะหายไปทันทีโดยไม่สามารถกู้คืนได้

ทั้งนี้ฟีเจอร์นี้ไม่สามารถใช้ปิดโปรเซสของระบบอย่าง File Explorer ได้ และฟีเจอร์นี้ไม่ได้เปิดใช้งานอัตโนมัติ ต้องไปตั้งค่าเปิดด้วยตัวเอง

วิธีเปิดใช้งาน End Task บน Taskbar

  • ไปที่ Settings > System > For Developers
  • หาตัวเลือก “End Task” แล้วกดเปิด (ไม่จำเป็นต้องเปิด Developer Mode ก็สามารถใช้งานได้)

อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้เคยถูกปล่อยให้ทดสอบใน Windows Insider Build ตั้งแต่ปีที่แล้ว และเพิ่งเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปใช้งานจริงใน Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 ที่ขณะนี้กำลังทยอยปล่อยอัปเดตอยู่ บอกเลยว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดี ซึ่งเอาจริง ๆ Microsoft น่าจะทำมาให้เราใช้นานแล้ว

ที่มา : techspot