หลังจากที่มีข่าวลือมาตั้งแต่ปีที่แล้วว่า Microsoft เตรียมนำฟีเจอร์ Hotpatching จากฝั่ง Windows Server มาสู่ Windows 11 ล่าสุดก็เปิดให้ใช้งานจริงแล้วในระดับองค์กร โดยจะเริ่มเปิดใช้ Hotpatch เป็นค่าเริ่มต้น (Default) ในนโยบายอัปเดตใหม่ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป

Hotpatching เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้อุปกรณ์สามารถติดตั้งอัปเดตความปลอดภัย (Windows Quality Updates) ได้ทันทีโดยไม่ต้องรีสตาร์ทเครื่อง ช่วยลด downtime เพิ่มความปลอดภัย และลดภาระให้ทีม IT ได้ชัดเจน โดยก่อนหน้านี้ Microsoft ได้เริ่มทดสอบและปล่อยอัปเดต Hotpatch แรกไปเมื่อเดือนพฤษภาคม พร้อมกับเพิ่มความสามารถนี้เข้าไปในบริการ Windows Autopatch เป็นบริการคลาวด์ที่ช่วยจัดการอัปเดตของ Windows, Microsoft 365 Apps for enterprise, Edge และ Teams แบบอัตโนมัติผ่านนโยบายที่กำหนดไว้

องค์กรที่ใช้ Windows Autopatch ร่วมกับระบบบริหารจัดการอุปกรณ์ Microsoft Intune จะได้ใช้ฟีเจอร์นี้แบบครบชุด โดยนโยบายอัปเดตใหม่ทั้งหมดจะเปิดใช้ Hotpatch โดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ใช้นโยบายเดิมอยู่แล้ว ก็สามารถเข้าไปเปิดใช้งานได้ด้วยตนเองผ่าน Microsoft Intune admin center ดังนี้

  1. เข้าไปที่ Microsoft Intune admin center
  2. ไปที่ Devices > Windows updates > Quality updates
  3. เลือกนโยบายอัปเดตคุณภาพ (quality update policy) ที่ต้องการแก้ไข
  4. กด Edit ที่หัวข้อ “Settings”
  5. ในส่วน “Automatic update deployment” ให้หาออปชันที่ชื่อว่า
    “When available, apply without restarting the device (hotpatch)”
  6. สลับให้เป็นค่า Allow

แม้ในช่วงแรก Hotpatch จะยังครอบคลุมเฉพาะบางประเภทของอัปเดตเท่านั้น แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญของ Windows 11 ที่ช่วยให้องค์กรสามารถรักษาความปลอดภัยได้เร็วขึ้น โดยไม่กระทบต่อการทำงานของผู้ใช้ปลายทาง สำหรับแอดมินคนไหนที่เข้าถึง Microsoft 365 Admin Center ได้ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมจากประกาศรหัส MC1101876 ได้เลย

ที่มา : neowin