เรื่องช็อกวงการเพลง เมื่อ Xania Monet กลายเป็นนักร้อง AI รายแรกของโลกที่สามารถเปิดตัวบนชาร์ตเพลง Billboard ได้สำเร็จ พร้อมคว้าโอกาสเซ็นสัญญากับค่ายเพลงชื่อดังด้วยมูลค่าดีลกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ !
เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นักร้อง AI อย่าง Xania Monet เปิดตัวที่อันดับ 30 บนชาร์ตเพลง Adult R&B Airplay ของ Billboard จนนำไปสู่การเซ็นสัญญามูลค่ากว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับค่ายเพลง Hallwood Media ก่อให้เกิดเสียงวิพากย์วิจารณ์หรือการตั้งคำถามเกี่ยวกับ การมีอยู่ของ AI ในวงการเพลง
สำหรับเสียงร้องของ Xania Monet ถูกสร้างขึ้นจากฝีมือการเขียนเนื้อร้องของ Telisha Nikki Jones นักแต่งเพลงจากรัฐมิสซิสซิปปี ที่ใช้แพลตฟอร์มอย่าง Suno ในการนำเนื้อเพลงที่เขียนขึ้นด้วยตนเองมาสร้างสรรค์เป็นเพลงสไตล์ R&B อีกทีหนึ่ง


Romel Murphy ผู้จัดการของ Xania Monet ให้สัมภาษณ์ว่าทางทีมงานใช้ AI เป็นเพียงเครื่องมือในการเสริมสร้างงานศิลปะ แก่นแท้หรือหัวใจสำคัญที่แท้จริงคือ “เนื้อเพลงซึ่งถูกเขียนหรือเรียบเรียงมาจากประสบการณ์จริงของผู้แต่ง” จากนั้น AI จึงเป็นเสมือนตัวกลางในการช่วยถ่ายทอดและส่งข้อความที่ต้องการสื่อไปยังผู้ฟังเท่านั้น
โดยซิงเกิลยอดฮิตของ Xania Monet ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ “How Was I Supposed to Know” โดยเริ่มจากการเป็นไวรัลบน TikTok ก่อนจะขยายไปบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ จนพาตัวเองเข้าสู่ชาร์ต R&B ของ Billboard ได้ในที่สุด
นับตั้งแต่เริ่มเดบิวต์ Xania Monet ได้ปล่อยเพลงไปแล้วมากถึง 44 เพลงบน Spotify และมีผู้ติดตามบนแอปฯ สตรีมมิ่งรวมกันประมาณ 1.2 ล้านคน และผู้ติดตามเกือบ 800,000 คนบนโซเชียลมีเดียอื่น ๆ
ถึงแม้ว่า Telisha Nikki Jones ผู้ซึ่งอยู่เบื้องหลังการสร้างตัวตนของ Xania ขึ้นมาจะบอกว่า ตนเองเห็น AI เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเครื่องดนตรีในวงการเพลงสมัยใหม่ แต่ศิลปินหรือนักร้องที่เป็นมนุษย์จริง ๆ กลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ โดยให้สาเหตุไว้ว่าในสักวันหนึ่ง AI อาจมาแทนที่ศิลปินซึ่งเป็นมนุษย์ได้ในสักวัน จากนั้นค่ายเพลงต่าง ๆ ก็จะให้ความสนใจหรือเลือกลงทุนกับ AI มากกว่าการให้ความสำคัญต่อพรสวรรค์หรือความสามารถที่แท้จริงของมนุษย์
กรณีของ Xania Monet ที่เกิดขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เราอาจจะต้องกลับมาตั้งคำถามกันอีกครั้งว่า การใช้ AI สำหรับสร้างสรรค์คอนเทนต์หรือผลงานแต่ละชิ้นขึ้นมา ควรจะมีขอบเขตหรือมีนิยามอย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่บริษัทหรือโลกธุรกิจต่างก็หันมาให้ความสำคัญหรือใช้ Generative AI ทำงานแทนมนุษย์มากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่มา : odditycentral

Comment