ปีที่แล้วซีรีส์ Mi 10T สร้างความประทับใจเอาไว้ได้ค่อนข้างดี และในปีนี้ซีรีส์ Xiaomi 11T ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย ยังคงจัดเต็มกับฮาร์ดแวร์ระดับน้อง ๆ เรือธงในราคาเริ่มต้นเพียง 13,990 บาท ซึ่งในรุ่น Xiaomi 11T กับในรุ่น Xiaomi 11T Pro ดันทำออกมาได้ใกล้เคียงกันเกือบทุกส่วน แถมยังหน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ๆ อีกต่างหาก จนน่าจะทำให้หลายคนเกิดความลังเลไม่น้อยว่า ส่วนต่าง 3 – 4 พันบาท ได้อะไรมาบ้าง คุ้มไหมถ้าจะขยับไปซื้อตัวโปร หรือแค่ตัวธรรมดาก็เพียงพอแล้ว ?

Play video

สเปค Xiaomi 11T

  • จอภาพ : AdaptiveSync ขนาด 6.67 นิ้ว
    – พาเนล AMOLED
    – ความละเอียด FHD+
    – ขอบเขตสี DCI-P3
    – ความลึกสี 10-bit
    – อัตรารีเฟรช 120Hz
    – อัตราตอบสนองการสัมผัส 480Hz
    – ผ่านมาตรฐาน HDR10+
  • ชิป : MediaTek Dimensity 1200
  • หน่วยความจำ : RAM (LPDDR4X) 8GB
  • ความจุ : ROM (UFS 3.1) 128GB ; 256GB
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้องอัลตราไวด์ 8MP
    – กล้องเทเลมาโคร 5MP
  • กล้องหน้า : 16MP
  • เสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ, รองรับ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 67W
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 12.5 บนพื้นฐาน Android 11
    – อัปเดตระบบปฏิบัติการนาร 3 ปี
    – อัปเดตแพตช์ความปลอดภัยนาน 4 ปี
  • ขนาด : 164.1 x 76.9 x 8.8 มม.
  • น้ำหนัก : 203 กรัม
  • สี : Celestial Blue, Moonlight White, Meteorite Gray

สเปค Xiaomi 11T Pro

  • จอภาพ : AdaptiveSync ขนาด 6.67 นิ้ว
    – พาเนล AMOLED
    – ความละเอียด FHD+
    – ขอบเขตสี DCI-P3
    – ความลึกสี 10-bit
    – อัตรารีเฟรช 120Hz
    – อัตราตอบสนองการสัมผัส 480Hz
    – ผ่านมาตรฐาน HDR10+
    – รองรับ Dolby Vision
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ : RAM (LPDDR5) 8GB ; 12GB
  • ความจุ : ROM (UFS 3.1) 128GB ; 256GB
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 108MP
    – กล้องอัลตราไวด์ 8MP
    – กล้องเทเลมาโคร 5MP
  • กล้องหน้า : 16MP
  • เสียง : ลำโพงคู่สเตอรีโอ, รองรับ Dolby Atmos
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 120W
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 12.5 บนพื้นฐาน Android 11
    – อัปเดตระบบปฏิบัติการนาร 3 ปี
    – อัปเดตแพตช์ความปลอดภัยนาน 4 ปี
  • ขนาด : 164.1 x 76.9 x 8.8 มม.
  • น้ำหนัก : 204 กรัม
  • สี : Celestial Blue, Moonlight White, Meteorite Gray


วัสดุตัวเครื่องและฝาหลังทำมาจากพลาสติก แต่สี Meteorite Gray จะทำลวดลายแบบเมทัลลิก

Xiaomi 11T และ Xiaomi 11T Pro ต่างกันตรงไหนบ้าง ?

  • จอภาพ Xiaomi 11T Pro รองรับ Dolby Vision
  • ลำโพง Xiaomi 11T Pro ปรับแต่งโดย harman / kardon
  • ชิป Dimensity 1200 ; Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ RAM (LPDDR4X) สูงสุด 8GB ; RAM (LPDDR5) สูงสุด 12GB
  • ชาร์จไว 67W ; 120W
  • น้ำหนัก 203 กรัม ; 204 กรัม

จอภาพ Xiaomi 11T Pro เหนือกว่าด้วย Dolby Vision

Xiaomi 11T และ Xiaomi 11T Pro มาพร้อมกับจอภาพ AdaptiveSync ขนาด 6.67 นิ้ว พาเนล AMOLED อัตรารีเฟรช 120Hz บนความละเอียด FHD+ และผ่านมาตรฐาน HDR10+ เหมือนกันทุกประการ ความสว่างสูงสุดและต่ำสุดเท่ากันเป๊ะ ข้อแตกต่างมีเพียงแค่ฝ่ายหลังมีเทคโนโลยี Dolby Vision เสริมเข้ามา หากคอนเทนต์รองรับจะเห็นผลต่างกันพอสมควร แต่ในการใช้งานปกติไม่มีอะไรแตกต่างกัน

ลำโพงเสียงดีทั้งคู่จนแยกความแตกต่างไม่ออก

มีเพียง Xiaomi 11T Pro ที่ได้รับการตีตราว่า ลำโพงถูกปรับแต่งเสียงโดย harman / kardon ข้อความที่สกรีนกำกับอยู่บนตัวเครื่องเป็นจุดสังเกตเดียวที่บ่งชี้ความแตกต่างจากภายนอกกับ Xiaomi 11T ได้ อย่างไรก็ตาม ในการใช้งานจริงส่วนตัวผมไม่สามารถรับรู้ได้ถึงความแตกต่างแม้แต่น้อย พิจารณาจากมิติเสียงแล้ว ฮาร์ดแวร์น่าจะเป็นชุดเดียวกัน ซึ่งทำออกมาได้ดีมากทั้งคู่


บน Xiaomi 11T ; ล่าง Xiaomi 11T Pro

มีจุดที่ต้องชมเพิ่มเติม คือ การออกแบบของ Xiaomi ที่เลือกเจาะรูลำโพงเพิ่มเติมเอาไว้ที่เฟรมเครื่อง ชิดกับขอบด้านบน ทำให้มือถือขับเสียงออกมาได้สมดุลมากทั้งด้านซ้ายและขวาขณะใช้งานในแนวนอน นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่งที่อุ้งมือไปบังได้ยากอีกต่างหาก

ความเร็วของการใช้งานทั่วไปสูสี กินกันไม่ลง

ทั้ง Dimensity 1200 ที่อยู่ใน Xiaomi 11T และ Snapdragon 888 ที่อยู่ใน Xiaomi 11T Pro ต่างก็เป็นชิประดับเรือธงทั้งคู่ ว่ากันตามเทคนิคแล้ว ฝ่ายหลังยังมีภาษีที่ดีกว่าทั้งในส่วนของกระบวนการผลิตที่ทันสมัยกว่า กับซีพียูและจีพียูที่ทรงพลังมากกว่าสเตปหนึ่ง …แต่ในการใช้งานจริงทำให้ผมต้องประหลาดใจนิดหน่อย เพราะทดสอบด้วยโมเดล RAM 8GB เท่ากัน ต่างฝ่ายต่างผลัดกันแพ้และชนะแบบเฉือนกันในระดับเสี้ยววินาทีสลับกันไปในการประชันความเร็ว หรือแม้กระทั่งการโหลดฉากต่าง ๆ ในเกม เรียกได้ว่า สูสีแบบกินกันไม่ลง ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแค่ Dimensity 1200 นั้นก็แรงเหลือเฟือสำหรับ ณ ปัจจุบันแล้ว

ชาร์จไว 67W และ 120W ปัจจัยหลักในการพิจารณา

หากอ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ จะเห็นได้ว่า Xiaomi 11T และ Xiaomi 11T Pro พบความแตกต่างจากการใช้งานจริงได้น้อยมากถึงมากที่สุด แต่เรื่องเทคโนโลยีการชาร์จนี่แหละครับ ที่ Xiaomi 11T Pro เหนือกว่าอย่างชัดเจน เพราะรองรับชาร์จไวถึง 120W ใช้เวลาการชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลาแค่ 20 นาทีกับอีกนิดหน่อยเท่านั้น เร็วนรกแตกกว่าชาร์จไว 67W ของ Xiaomi 11T ที่ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เกือบ ๆ สองเท่า สมมติตอนกลางคืนลืมชาร์จ ตื่นมาชาร์จตอนเช้า อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ เผลอ ๆ แบตก็เต็มแล้ว…


หัวชาร์จ 120W ของ Xiaomi 11T Pro จะมีขนาดใหญ่และหนากว่า


หัวชาร์จมีแถมมาให้ในกล่องเลย ไม่ต้องซื้อแยก

ตัวอย่างภาพถ่าย Xiaomi 11T และ Xiaomi 11T Pro

กล้องหลังของ Xiaomi 11T และ Xiaomi 11T Pro มีด้วยกัน 3 ตัว ประกอบด้วย กล้องหลัก 108MP กล้องอัลตราไวด์ 8MP และกล้องเทเลมาโคร 5MP ในการถ่ายปกติเอาต์พุตของกล้องหลักจะอยู่ที่ 12MP นะครับ หากอยากถ่ายเต็มความละเอียดต้องกดใช้งานโหมด 108MP ก่อน ส่วนภาพตัวอย่างชุดด้านล่างทั้งหมดผมถ่ายด้วยโหมดออโต้พร้อมตั้งค่า AI ให้ทำงานเป็นออโต้เช่นกัน ไม่มีการปรับแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น (แค่ย่อขนาดเฉย ๆ)


ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นชอบเลนส์มาโครมากที่สุด เบลอฉากหลังได้เป็นเอกลักษณ์ดี


คุณภาพโดยรวมใช้ได้…แต่ถ่ายอะไรที่ไม่อยู่นิ่งแล้วหลุดโฟกัสง่ายมาก (ยิ่งเลนส์มาโครยิ่งหนักเลย) เป็นจุดที่ควรปรับปรุง

ผมค่อนข้างโอเคกับรูปที่ถ่ายออกมา ที่ชอบที่สุดจะเป็นเลนส์เทเลมาโคร เพราะถ่ายได้สนุก ให้โบเกสวยมาก แตกต่างจากหลาย ๆ ค่ายที่มักใช้เลนส์อัลตราไวด์หรือเลนส์ไวด์สำหรับมาโคร การละลายฉากหลังจึงไม่โดดเด่นเท่าไหร่ แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องขอบเขตการโฟกัสอยู่เหมือนกัน ขยับออกมาได้ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นจะเกินระยะโฟกัส บางทีอยากจะถ่ายดอกไม้ดอกใหญ่ ๆ จะถ่ายไม่ได้ ต้องสลับไปใช้เลนส์หลักแล้วซูมเอาแทน

(คลิกเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

ส่วนปัญหาที่พบหลัก ๆ จะเป็นในเรื่องของโฟกัสอัตโนมัติที่ดูจะหวังผลไม่ได้มากนัก ทั้งที่เปิดฟังก์ชันโฟกัสติดตามวัตถุแล้วแต่ก็ยังหลุดเป้าอยู่บ่อยครั้ง (ดูได้จากรูปแมว) อีกสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะการบันทึกภาพหลังลั่นชัตเตอร์มีช่วงหน่วงเวลาพอสมควรด้วย ทำให้บางทีตัวแบบขยับออกไปจากจุดโฟกัสแล้ว (อาจมีอัปเดตแก้ไขด้วยซอฟต์แวร์ทีหลังหรือเปล่า ต้องรอลุ้นดูอีกที)

ปล. บางซีน AI ปรับภาพมาให้หนักไปหน่อย สีเขียวกับคอนทราสต์เข้มปั้ดเลย ถ้าปิดเอาไว้ภาพจะดูเป็นธรรมชาติ ถูกจริตผมมากกว่า แต่ไหน ๆ ก็เปิดมาตั้งแต่ภาพแรกแล้วก็เลยเลยตามเลย ฮ่า ๆ


จากบนลงล่าง กล้องอัลตราไวด์ กล้องเทเลมาโคร และกล้องหลัก

ราคาห่างกัน 3 – 4 พันบาท ซื้อรุ่นไหนดี ?

Xiaomi 11T

  • RAM 8GB + 128GB : ราคา 13,990 บาท
  • RAM 8GB + 256GB : ราคา 14,990 บาท

Xiaomi 11T Pro

  • RAM 8GB + 128GB : 16,990 บาท
  • RAM 8GB + 256GB : 18,990 บาท
  • RAM 12GB + 256GB : 20,990 บาท

สำหรับ Xiaomi 11T Pro จะเหนือกว่าตรงจอภาพที่รองรับ Dolby Vision เทคโนโลยีชาร์จไว 120W ชิป Snapdragon 888 และ RAM แบบ LPDDR5 ที่พ่วงมาด้วย แต่ตามที่แจ้งไป คือ นอกเหนือจากความเร็วในการชาร์จแล้ว ส่วนอื่น ๆ ที่เหลือหาความแตกต่างในการใช้งานจริงแทบไม่เจอเลย ส่วนตัวจึงคิดว่า Xiaomi 11T เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากกว่าด้วยราคาที่ห่างกันถึง 3 – 4 พัน เทียบที่หน่วยความจำเท่ากัน


Xiaomi 11T ราคาเริ่มต้น 13,990 บาท ; Xiaomi 11T Pro ราคาเริ่มต้น 16,990 บาท

Xiaomi 11T Pro อาจตอบโจทย์สำหรับใครที่รับชมคอนเทนต์ Dolby Vision บ่อย ๆ และอยากได้ RAM ขนาด 12GB ซึ่ง Xiaomi 11T ธรรมดาจะไม่มีตัวเลือกนี้ กับอีกข้อหนึ่ง (อันนี้ส่วนตัว) คือ มีสกรีนโลโก้ harman / kardon เท่ ๆ อยู่บนเครื่องครับ (ฮา)


อุปกรณ์ภายในกล่อง มีหัวชาร์จ สายชาร์จ เคสใสแบบนิ่ม และคู่มือการใช้งาน