Xiaomi พา Xiaomi 14T Pro มาเปิดตัวในประเทศไทยไปสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ก่อน รุ่นนี้ยังคงได้รับการพัฒนาร่วมกับ Leica เช่นเคย เป็นการสานต่อระบบกล้องและการถ่ายภาพเทพ ๆ จาก Xiaomi 13T Pro เมื่อปีก่อน โดยอัปเกรดเซนเซอร์กล้องหลักเป็น Light Fusion 900 พร้อมเทคโนโลยี Xiaomi AISP แบบเดียวกับรุ่นไฮเอนด์ และมีฟีเจอร์ Advance AI ให้ใช้งานตามสมัยนิยม ถือเป็นมือถือกลุ่มรองเรือธงที่น่าจับตามองมากที่สุดรุ่นหนึ่งในช่วงครึ่งหลังของปี 2024

จุดเด่น Xiaomi 14T Pro คืออะไร เหมาะกับใคร

Xiaomi 14T Pro เป็นมือถือออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การใช้งานเทียบเคียงกับเรือธง ในราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่า ด้วยชิปเซต Dimensity 9300+ ตัวท็อปสุดของ MediaTek เสริมระบบระบายความร้อน Xiaomi 3D IceLoop ดีไซน์ตัวเครื่องพรีเมียม งานประกอบประณีตทุกจุด พร้อมหน้าจอและลำโพงคุณภาพดีเยี่ยม รองรับทั้งการใช้งานทั่วไป การเล่นเกม และด้านเอนเตอร์เทนเมนต์อย่างลงตัว

จุดขายสำคัญที่สุดของ Xiaomi 14T Pro คือ ชุดกล้องหลัง LEICA VARIO-SUMMILUX ที่มากับเลนส์ครบช่วง กว้างสุด 15 มม. ไปจนถึงแคบสุด 60 มม. และสามารถซูมดิจิทัลเพิ่มได้อีก สูงสุด 30 เท่า พร้อม Master-lens system จำลองลักษณะโบกเก้ให้ออกมาใกล้เคียงกับการถ่ายด้วยกล้องโปรฯ

ในแง่ของโทนสี เราสามารถเลือสไตล์ภาพหลักได้ 2 แบบ คือ Leica Vibrant ที่ให้สีสันจัดจ้าน และ Leica Authentic ที่ให้สีสันละมุนตา เป็นธรรมชาติ ควบคู่ไปกับฟิลเตอร์ที่มีให้เลือกสรรอีกกว่า 10 แบบ เช่น Leica Natural, Leica Vivid, Leica BW Natural และ Leica BW HC เป็นต้น ช่วยให้เปลี่ยนมู้ดแอนด์โทนของภาพได้อย่างง่ายดายภายในคลิกเดียว

ชุดกล้อง Leica พิเศษกว่าค่ายอื่นยังไง

หากเทียบมือถือในกลุ่มราคาใกล้เคียงกันในยุคปัจจุบัน เราอาจไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างของฮาร์ดแวร์กล้องเท่าไหร่แล้ว เพราะผู้ผลิตเซนเซอร์รายหลักในตลาดมีอยู่เพียงไม่กี่ราย หากค่ายไหนเงินถึง ก็สามารถหยิบ (ซื้อ) เอาเซนเซอร์เหล่านั้นไปใช้งานกับมือถือของตนได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราจะเห็นเซนเซอร์รุ่นเดียวกัน ไปโผล่อยู่บนมือถือนับ 10 รุ่น ที่ออกในปีนั้น ๆ

เมื่อกล้องมีความละเอียดเท่ากัน รูรับแสงเท่ากัน ระยะเลนส์เท่ากัน หรือแม้แต่ขนาดเซนเซอร์ก็ยังเท่ากันอีก ผู้ผลิตมือถือจึงเกิดความคิดที่ว่า ‘เช่นนั้นแล้วต้องทำยังไง ถึงจะสร้างจุดขายที่เหนือกว่าค่ายอื่นได้’

คำตอบที่ Xiaomi เลือกคือ การจับมือกับ Leica ที่เชี่ยวชาญทั้งการผลิตเลนส์ และวิทยาศาสตร์สี

ทั้ง 2 ฝ่าย มีการร่วมมือกันตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเลนส์ ตลอดจนถึงการพัฒนาไปป์ไลน์การประมวลผลภาพ ส่งผลให้ Xiaomi 14T Pro สามารถรีดศักยภาพของเซนเซอร์ออกมาได้ถึงขีดสุด และมีโทนสีและคอนทราสต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตามแบบฉบับ Leica

โทนสีเป็นแค่ซอฟต์แวร์ ใส่ฟิลเตอร์เอาก็ได้หรือเปล่า

ข้อสงสัยนี้อาจถูกต้องบางส่วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด แม้ในทางเทคนิคอาจพอจะทำให้ออกมาใกล้เคียงได้ แต่ไม่ง่าย

เพราะต้องไม่ลืมว่าโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Xiaomi 14T Pro นั้นขึ้นเกิดตั้งแต่กระบวนการแรกสุดของการถ่ายภาพแล้ว คือการที่ ‘แสงส่องผ่านเลนส์’ ก่อนแสงจะตกกระทบบนเซนเซอร์ และผ่านเข้าสู่การปรุงแต่งสีตามที่ Leica ปรับจูนมา ออกมาเป็นไฟล์ JPEG หรือ HEIF ในขั้นตอนสุดท้ายดังที่เราเห็น

กล่าวคือ โทนสีแบบนี้ คอนทราสต์แบบนี้ สไตล์ภาพแบบนี้ และรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายอย่างที่ Leica ปรับจูนมาให้กับชุดเลนส์และเซนเซอร์ของ Xiaomi 14T Pro โดยเฉพาะ ต่อให้มือถือรุ่นอื่นจะจับเอาซอฟต์แวร์เดียวกันไปใช้งาน ภาพก็จะไม่มีทางออกมาเหมือนกัน

ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือ แอป Leica LUX บน iOS ที่ DroidSans เคยทดสอบไว้ก่อนหน้านี้

ฟีเจอร์ AI ก็มีให้ใช้งาน

Xiaomi เรียกฟีเจอร์ AI บน Xiaomi 14T Pro แบบรวม ๆ ว่า Advance AI ฟีเจอร์ที่พร้อมใช้งานแล้วในเบื้องต้นคือ ฟีเจอร์กลุ่ม AI Image Editing ได้แก่ AI Expansion สำหรับขยายขอบภาพ และ AI Eraser Pro สำหรับลบคนหรือลบวัตถุในภาพ (อาจให้ผลลัพธ์ที่เนียนบ้าง ไม่เนียนบ้าง ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของรูป)

นอกจากนี้ Xiaomi 14T Pro ยังรองรับ Circle to Search และ Gemini ที่เป็นฟีเจอร์จากฝั่ง Google ส่วนฟีเจอร์ AI ที่เกี่ยวข้องกับภาษา เช่น การแปล การสรุปเนื้อหา การถอดเสียง จะอัปเดตตามมาในภายหลัง เป็นส่วนหนึ่งของ Advance AI

ตัวอย่างภาพถ่าย Xiaomi 14T Pro

Xiaomi 14T Pro และ Xiaomi 14T ต่างกันตรงไหน

Xiaomi 14T ProXiaomi 14T
จอภาพAMOLED 6.7″
2712 x 1220 พิกเซล
รีเฟรช 144Hz
สว่าง 4000 นิต
HDR10+
Dolby Vision
AMOLED 6.7″
2712 x 1220 พิกเซล
รีเฟรช 144Hz
สว่าง 4000 นิต
HDR10+
Dolby Vision
ชิปDimensity 9300+Dimensity 8300-Ultra
หน่วยความจำ12GB12GB
สตอเรจ512GB
1TB
256GB
512GB
กล้องหลัง50MP (𝑓/1.6), Light Fusion 900
12MP (𝑓/2.2)
50MP (𝑓/2.0)
ซูมออปติคัล 2.6x
ซูมดิจิทัล 30x
50MP (𝑓/1.7), IMX906
12MP (𝑓/2.2)
50MP (𝑓/2.0)
ซูมออปติคัล 2x
ซูมดิจิทัล 20x
กล้องหน้า32MP (𝑓/2.0)32MP (𝑓/2.0)
การถ่ายวิดีโอกล้องหลัง 8K@30fps
กล้องหน้า 4K@30fps
กล้องหลัง 4K@60fps
กล้องหน้า 4K@30fps
การเชื่อมต่อ5G
Wi-Fi 7
Bluetooth 5.4
NFC
5G
Wi-Fi 6E
Bluetooth 5.4
NFC
แบตเตอรี่5000mAh
ชาร์จไว 120W
ชาร์จไร้สาย 50W
5000mAh
ชาร์จไว 67W
ทนน้ำทนฝุ่นIP68IP68
ขนาด160.4 x 75.1 x 8.39 มม.160.5 x 75.1 x 7.8 มม.
น้ำหนัก209 กรัม195 กรัม
ราคาเริ่มต้น21,990.-15,990.-

นอกเหนือจาก Xiaomi 14T Pro แล้ว Xiaomi ยังมี Xiaomi 14T เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เป็นรุ่นที่ co-engineered with Leica และรักษาฟีเจอร์เด่นเอาไว้ครบถ้วน โดยมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้สอดคล้องตามค่าตัวที่ย่อมเยากว่า เช่น ชิปเซต เซนเซอร์กล้องหลัก ระยะซูม และการชาร์จไร้สาย (ดูตารางด้านบนประกอบ)

Xiaomi 14T Pro

  • ชิปทรงพลังกว่า
  • ระบบระบายความร้อนประสิทธิภาพสูงกว่า
  • เซนเซอร์กล้องหลัก Light Fusion 900
  • กล้องเทเลซูมไกล 2.6 ~ 30 เท่า
  • ถ่ายวิดีโอสูงสุด 8K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
  • ชาร์จไวกว่า และมีรับชาร์จไร้สาย
  • รองรับ Wi-Fi 7 ที่เป็นมาตรฐานล่าสุด
  • วัสดุเฟรมเครื่องอะลูมิเนียม
  • ความจุเริ่มต้น 512GB

Xiaomi 14T Pro  เปิดราคาเริ่มต้น 21,990 บาท ถ้าอยากทุกอย่างจัดเต็มให้ไม่มีอะไรติดค้าง รุ่นนี้คือคำตอบ ลงตัวทุกอย่างทั้ง ประสิทธิภาพ ฟังก์ชัน ฟีเจอร์ และการถ่ายภาพ

Xiaomi 14T

  • เซนเซอร์กล้องหลัก IMX906
  • กล้องเทเลซูมไกล 2 ~ 20 เท่า
  • ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
  • ไม่มีรับชาร์จไร้สาย
  • วัสดุเฟรมเครื่องพลาสติก
  • น้ำหนักเบากว่า
  • ความจุเริ่มต้น 256GB

แต่ถ้าพิจารณาแล้วว่า ไม่ได้ใช้งานกล้องเทเลบ่อยมากนัก หรือมีใช้งานบ้าง แต่ค่อยซูมไกลระดับ 30 เท่า และไม่สนใจการชาร์จไร้สาย Xiaomi 14T ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน ในราคาเริ่มต้น 15,990 บาท