หลังจากที่ Xiaomi 15 Series ได้เปิดตัวไปก่อนในประเทศจีน ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงสำหรับปี 2025 ที่มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Elite เป็นรุ่นแรกที่เปิดตัวในจีนไปอีกด้วย ทีมงานก็เลยได้จัดเครื่องที่ขายที่จีนอย่าง ‘Xiaomi 15 Pro’ มาลองรีวิวแบบไว ๆ ให้ได้ชมกันก่อนเลย
ของที่ให้มาในกล่อง
- ตัวเครื่อง Xiaomi 15 Pro
- เคสใสแบบแข็ง
- หัวชาร์จ Xiaomi HyperCharge 90W
- สายชาร์จ USB-A to USB-C
- คู่มือและเอกสารรับประกัน
ดีไซน์รอบตัวเครื่อง
ดีไซน์รอบตัวเครื่องของ Xiaomi 15 Pro นั้นเรียกได้ว่าต่อยอดมาจาก Xiaomi 14 Series มาไม่น้อยเลยทีเดียวครับ โดยได้ทำตัวเครื่องให้มีความโค้งมนมากขึ้นกว่าในรุ่นที่แล้ว เพื่อให้ล้อไปกับความโคงของหน้าจอที่ได้ทำมาเป็นจอโค้งแบบ Quad-Curve ซึ่งเรียกได้ว่าจะเป็นเทรนด์การออกแบบขอบของหน้าจอของสมาร์ตโฟนแบรนด์จีนต่อไปในอนาคตก็ได้ แต่รอบ ๆ ตัวเครื่องนั้นได้ทำดีไซน์ออกมาเน้นความเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย เพื่อให้จับถือได้ง่ายขึ้นไปด้วย โดยจะวางปุ่มไว้ด้านขวาของตัวเครื่อง และพอร์ตกับช่องใส่ซิมไว้ด้านล่าง
ซึ่งสีที่เราเลือกมารีวิวนั้นคือสีที่แตกต่างจากสีอื่น ๆ ในซีรีส์ ซึ่งก็คือสี Liquid Silver Edition ซึ่งเป็นกระจกสีเงินแบบมันวาว ที่ได้มีการทำลวดลายบนฝาหลังให้ออกมาเป็นคลื่น ซึ่งจะไม่ใช่สัมผัสแบบด้าน อย่างใน Xiaomi 15 Pro สีอื่น ๆ (ซึ่งก็คือสีเทา ขาว และเขียว) ทำให้ Liquid Silver Edition นี้มีสีที่แตกต่างจากเพื่อนออกไป โดยสีนี้มีจุดเด่นที่ความไม่เหมือนเพื่อนในซีรีส์ แต่ต้องแลกมากับฝาหลังที่จะเกิดรอยนิ้วมือได้ง่ายกว่าสีอื่น ๆ ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน โดยเฉพาะกับคนที่มีมือที่มัน จะสร้างรอยนิ้วมือบนฝาหลังได้ง่ายเป็นพิเศษ
สเปคภายในเครื่อง
Xiaomi 15 Pro มาพร้อมกับชิปเซตเรือธงของปี 2025 อย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นชิปเซตที่ได้เพิ่ม CPU Oryon แบบที่เห็นใน Snapdragon X Elite แต่เป็นรุ่นที่ 2 เข้าไปในสมาร์ตโฟน เพื่อให้มีประสิทธิภาพที่มากยิ่งกว่าเดิม ซึ่งเครื่องที่รีวิวอยู่นี้ มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB และหน่วยความจำในเครื่อง 512GB ด้วย
สเปคของ Xiaomi 15 Pro
- จอภาพ OLED ขนาด 6.73 นิ้ว
- ความละเอียด 3200 x 14400 พิกเซล
- อัตรารีเฟรช 120Hz
- ความสว่างสูงสุด 3200 นิต
- ชิปเซต Snapdragon 8 Elite
- หน่วยความจำ 12GB / 16GB
- สตอเรจ 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง
- กล้องหลัก 50MP (𝑓/1.44), กันสั่น OIS
- กล้องอัลตราไวด์ 50MP (𝑓/2.2), มุมกว้าง 115 องศา, โฟกัสใกล้สุด 5 ซม.
- กล้องเทเลมาโคร 50MP (𝑓/2.5), ซูมออปติคัล 5 เท่า, โฟกัสใกล้สุด 30 ซม., กันสั่น OIS
- กล้องหน้า 32MP
- ลำโพงสเตอรีโอ
- รองรับ Dolby Atmos
- รองรับ Hi-Res Audio / Hi-Res Audio Wireless
- รองรับ Snapdragon Sound
- เครือข่าย 5G
- การเชื่อมต่อ
- Wi-Fi 7
- Bluetooth 5.4
- NFC
- USB Type-C 3.2 Gen 1
- แบตเตอรี่ 6100mAh
- ชาร์จไว 90W
- ชาร์จไร้สาย 50W
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ (อัลตราโซนิก)
- ทนน้ำทนฝุ่น IP68
- ระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS 2
- ขนาด 161.3 x 75.3 x 8.35 มม.
- น้ำหนัก 213 กรัม
โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพแล้วนั้น Xiaomi 15 Pro สามารถทำคะแนน Geekbanch 6.3.0 ได้คะแนน Single Core ที่ 2,997 คะแนน และ Multi Core ที่ 9,033 คะแนน ในขณะที่ 3DMark Wild Life Extreme ทำคะแนนได้ที่ 5,289 คะแนนด้วยกัน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่สูง แต่นับว่าเป็นคะแนนที่ยังสูงสู้กับ OnePlus 13 ที่มาพร้อมกับชิปตัวเดียวกันได้ ซึ่งเป็นไปได้ว่าเกิดจากการออกแบบบอร์ด ระบบระบายความร้อน และซอฟต์แวร์ที่มีความแตกต่างกันอยู่นั่นเอง
กล้องถ่ายภาพ
เรื่องของกล้องถ่ายภาพนั้น มาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพหลัก 50 ล้านพิกเซล (𝑓/1.44), กันสั่น OIS, กล้องอัลตราไวด์ 50 ล้านพิกเซล (𝑓/2.2), มุมกว้าง 115 องศา, โฟกัสใกล้สุด 5 ซม. และกล้องเทเลมาโคร 50 ล้านพิกเซล (𝑓/2.5) แบบ Periscope โดยสามารถซูมออปติคัล 5 เท่า, โฟกัสใกล้สุด 30 ซม. และมีการกันสั่น OIS ในตัวอีกด้วย
โดยกล้องถ่ายภาพของ Xiaomi 15 Pro นั้น ยังได้มีการร่วมมือกับ Leica แบรนด์กล้องถ่ายภาพสัญชาติเยอรมันในการร่วมออกแบบฮาร์ดแวร์ออกมาเป็นเลนส์ Leica Summilux และซอฟต์แวร์การปรับแต่งภาพและสีกล้องถ่ายภาพในสไตล์ Leica อยู่ โดยยังสามารถถ่ายภาพทั้งแบบที่เป็นโทนฟิล์มแบบ Leica พร้อมกับโทนสีที่เป็นสไตล์แบบ Leica เองได้อีกด้วย
คุณภาพของภาพถ่ายนั้นถือว่าถ่ายออกมาได้ดีมากครับ โดยยังสามารถเก็บโทนสีในแบบฉบับของ Leica ได้เป็นอย่างดี คือมีความเหลืองเบา ๆ ในขณะที่ยังเก็บความสมจรองของสีเอาไว้ได้ดี เพียงแต่ว่า ในรุ่นนี้ ระยะซูมของกล้องจะขาดไปเล็กน้อย โดยระยะ 1x จะใช้กล้องถ่ายภาพหลักในการถ่าย และใช้การครอปกล้องถ่ายภาพหลักตั้งแต่ระยะ 1.1x ยาวไปจนถึง 4.9x เลย กว่าจะมีการสลับไปใช้กล้องถ่ายภาพซูมในระยะ 5 เท่า ทำให้ถ้าต้องการถ่ายวัตถุขณะซูม ให้มีความละเอียดที่ดีมากพอ ก็จะต้องใช้การซูมที่ระยะ 120mm หรือ 5 เท่า ตามระยะที่กล้องถ่ายภาพซูมทำได้ ทำให้ถ้าอยากถ่ายวัตถุที่มีขนาดใหญ่ให้ชัด ก็จะต้องมีการถอยระยะมากขึ้นนั่นเอง
ลองดูจากตัวอย่างภาพด้านล่างได้ หากเราต้องการจะถ่ายแมวให้อยู่ในความละเอียดที่สวยงามและความชัดมากกว่า จะต้องใช้ระยะ 120mm หรือ 5 เท่าเข้ามาถ่าย เพื่อให้ได้ภาพที่ความละเอียดสูงเพราะถ่ายตรงตามระยะเลนส์ของกล้องนั่นเอง
โดยภาพในระยะอื่น ๆ ไปจนถึงการทดสอบการถ่ายวิดีโอ สามารถชมได้ในรูปแบบของคลิปวิดีโอในช่อง DroidSans (ด้านล่าง)
ถ้ายังจุใจไม่พอ
ถ้าเกิดว่าที่เรารีวิวให้ได้ชมกันอยู่ตอนนี้ยังไม่จุใจพอ สามารถตามไปชมรีวิว (เกือบ) เต็มที่เราได้ทำเป็นคลิปวิดีโอเอาไว้ให้ได้ชมกันผ่านคลิป YouTube นี้ได้เลย ! โดยในคลิปจะมีทั้งตัวอย่างภาพถ่าย, ทดสอบการเล่นเกม ไปจนถึงรีวิวเจาะลึกลงไปอีกเล็กน้อยให้ได้ชมกันอีกด้วย
สรุปส่งท้าย
Xiaomi 15 Pro คือสมาร์ตโฟนเรือธงที่เรียกได้ว่าจัดเต็มด้านกล้องถ่ายภาพมาก ๆ ครับ และไร้ข้อกังขาเลยว่าเป็นกล้องถ่ายภาพโทรได้ที่ให้ของมาค่อนข้างสุด ทั้งโทนกล้องถ่ายภาพในแบบของ Leica และการถ่ายภาพแบบเทเลมาโครที่สามารถถ่ายวัตถุ ไปจนถึงสัตว์เลี้ยงได้ชัดมากเลยทีเดียว เพียงแต่ว่า การจะถ่ายให้ได้ความละเอียดที่มากนั้น จะต้องใช้การถ่ายภาพในระยะเลนส์ที่ถูกต้องมาด้วยนั่นเอง
ทั้งนี้ Xiaomi 15 Pro ที่รีวิวอยู่นี้คือเครื่องที่วางจำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้นในเวลาที่กำลังเขียนรีวิวอยู่นี้ ทำให้ เครื่องที่วางจำหน่ายจริงนอกประเทศจีน (ทั้ง Xiaomi 15 และ Xiaomi 15 Ultra ที่คาดว่าจะเปิดตัวภายในเดือนมกราคม 2025 นี้) อาจจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ และประสิทธิภาพของเครื่องที่แตกต่างไปจากเครื่องที่ขายในจีนก็ได้เช่นกัน
Xiaomi 15 Pro วางจำหน่ายในประเทศจีนที่ 3 ความจุด้วยกัน โดย
- แรม 12GB + 512GB ราคา 5,299 หยวน (25,235 บาท)
- แรม 16GB + 512GB ราคา 5,799 หยวน (27,617 บาท)
- แรม 16GB + 1TB ราคา 6,499 หยวน (30,950 บาท)
Comment