เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับมือถือเรือธงจาก Xiaomi อย่าง Mi 10 และ Mi 10 Pro ที่มาพร้อมกับสเปคสุดเทพ ชิปเซ็ต Snapdragon 865, หน้าจอ 90Hz, RAM รุ่นใหม่แบบ LPDDR5 และกล้องหลังสุดเทพความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ที่สามารถซูมไกลได้ถึง 50x โดยล่าสุดก็มีคะแนน DxOMark ออกมาแล้วสำหรับ Mi 10 Pro ซึ่งเป็นไปตามคาด…ขึ้นเป็นอันดับ 1 ไปเรียบร้อย ด้วยคะแนน 124 คะแนน

สเปคกล้อง Xiaomi Mi 10 Pro

  • กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/1.33 นิ้ว ระยะโฟกัส 25 มม. ค่ารูรับแสง f/1.69 มีกันสั่น OIS
  • กล้อง Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/2.6 นิ้ว ระยะโฟกัส 50 มม. ค่ารูรับแสง f/2.0
  • กล้อง Telephoto ตัวที่สอง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/4.4 นิ้ว ระยะโฟกัส 94 มม. ค่ารูรับแสง f/2.0 มีกันสั่น OIS
  • กล้อง Ultra Wide ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/2.8 นิ้ว ระยะโฟกัส 16 มม. ค่ารูรับแสง f/2.2

Xiaomi Mi 10 Pro สามารถทำคะแนนจากเว็บไซต์ทดสอบประสิทธิภาพกล้องชื่อดังอย่าง DxOMark ไปได้ถึง 124 คะแนน (คะแนนภาพนิ่ง 134 คะแนนวิดีโอ 104) ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้กลายเป็นมือถือที่มีกล้องดีที่สุดในเว็บไซท์ DxOMark ตอนนี้ และด้วยความที่ Mi 10 Pro เลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 865 ตัวท็อป ทำให้การประมวลผลภาพถ่าย ทำออกมาได้ดีกว่า Mi Note 10 Pro ที่ใช้ชิป Snapdragon 730G อยู่พอสมควร ในเรื่อง Texture, การถ่ายภาพในที่แสงน้อย และความคมของภาพ

การถ่ายภาพนิ่ง Xiaomi Mi 10 Pro โดยรวมถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งการให้สี, โฟกัสได้รวดเร็ว, Exposure แม่นยำและไม่แกว่ง, White Balance ตรงตามตาเห็น, มี Dynamic Range ดีกว่า Mi Note 10 Pro, Mate 30 Pro 5G และ iPhone 11 Pro Max ที่ DxOMark เคยนำมาทดสอบก่อนหน้านี้

และเมื่อนำมาเทียบกันก็จะเห็นได้ชัดเลยว่า Xiaomi Mi 10 Pro มี Dynamic Range ที่ดีกว่า Mate 30 Pro และ iPhone 11 Pro Max อย่างเห็นได้ชัด ภาพตรงที่เป็นแสงสว่างไม่จ้าเกินไป เก็บรายละเอียดยิบย่อยได้ดีกว่าพอสมควร

เรื่องความตรงของสี White Balance อะไรต่างๆ Xiaomi Mi 10 Pro ก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยม ทั้งการถ่ายในที่ร่ม และกลางแจ้ง

ส่วนเรื่องการเก็บรายละเอียด Texture ถือว่า Xiaomi Mi 10 Pro ยืนหนึ่ง ได้คะแนนในหัวข้อนี้ไปมากถึง 85 คะแนน ซึ่งถือว่าเป็นคะแนนที่มากที่สุด ณ ตอนนี้แล้ว จะเห็นว่าเมื่อนำไปเทียบกับทั้ง Huawei Mate 30 Pro 5G และ Mi Note 10 Pro จะเห็นความแตกต่างแบบชัดเจน

ระยะโฟกัสของกล้อง Ultrawide ของ Xiaomi Mi 10 Pro อยู่ที่ 16 มม. ซึ่งถือว่าเป็นสเปคในระดับกลางๆ เลนส์มุมกว้างเท่ากับ iPhone 11 Pro Max, มากกว่า Mate 30 Pro 5G แต่ก็ยังน้อยกว่ารุ่นท็อปๆ ของ Samsung อยู่ดี ทว่า.. ผลลัพธ์ที่ได้ กลับออกมาดีมากๆ ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งในหัวข้อ Wide ร่วมกับ Galaxy Note 10+ ด้วยการเก็บรายละเอียดต่างๆ ได้ครบ, ค่า Exposure ตรง และมี Dynamic Range ที่ค่อนข้างโอเค

มาถึงเรื่องการซูมบ้าง รอบนี้เรียกได้ว่า Xiaomi ทำการบ้านมาดี เพราะคุณภาพรูปจากกล้อง Xiaomi Mi 10 Pro นั้น ดีกว่า Mi Note 10 Pro อยู่พอสมควร

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ หรือ Portrait Mode นั้น Xiaomi Mi 10 Pro ทำผลงานออกมาแทบจะไม่ต่างกับ Mi Note 10 Pro เลย คืออยู่ในระดับดี แต่ไม่ได้ดีที่สุด จากภาพจะเห็นว่า Mi 10 Pro ละลายฉากหลังใช้ได้ แต่ก็ยังมีกะระยะความลึกผิดไปบ้าง อีกทั้งยังมี Contrast ที่สูงเกินไปเสียอีก.. ซึ่งทำให้รูปถ่ายที่ได้จาก Mi 10 Pro ออกมาลักษณะอมชมพูหน่อยๆ ตามภาพด้านล่างเลยครับ

การถ่ายภาพในที่แสงน้อย (แบบไม่เปิดไฟแฟลช) Xiaomi Mi 10 Pro ทำออกมาได้ดี โฟกัสวัตถุแม่น หน้าไม่ดำ รายละเอียดพื้นหลังยังเก็บไว้ได้เกือบครบ

ในเรื่องของการถ่ายวิดีโอ Xiaomi Mi 10 Pro สามารถโฟกัสวัตถุได้ไว และแม่นยำ แถมระบบกันสั่นยังทำออกมาได้ค่อนข้างดีอีกด้วย กวาดคะแนนในหมวด Video ไปได้ถึง 104 คะแนน มากที่สุดสำหรับมือถือใน DxOMark ตอนนี้แล้ว

Play video

รอบนี้ Xiaomi ถือว่าทำการบ้านมาค่อนข้างดีพอสมควร นำจุดด้อยหรือจุดที่ควรปรับปรุงในรุ่น Mi Note 10 Pro มาแก้ไขให้ดีขึ้นใน Mi 10 Pro ทำให้กลายเป็นอีกหนึ่งสมาร์ทโฟนที่ถ่ายรูปเทพที่สุดในตลาด ณ ปัจจุบัน เพราะสามารถถ่ายได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะแสงน้อย, กลางแจ้ง, ภาพในร่ม ฯลฯ แถมการถ่ายวิดีโอก็ยังได้คะแนนมากที่สุดสำหรับกล้องมือถืออีกด้วย

 

อ่านเพิ่มเติม : Xiaomi Mi 10 Pro Camera Review | DxOMark