ในงาน Xiaomi MEGA Launch ที่ผ่านมา นอกจากจะมี Mi MIX FOLD พระเอกมาเปิดตัวแล้ว Xiaomi ยังขนเอาสมาร์ทโฟนในตระกูล Mi 11 มาเพิ่มถึง 4 รุ่น รวม Mi 11 ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ด้วยก็นับนิ้วได้ 5 รุ่นพอดิบพอดี ว่าแต่มือถือทั้ง 5 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Mi 11, Mi 11 Pro, Mi 11 Ultra หรือรุ่นเล็กอย่าง Mi 11i และ Mi 11 Lite จะมีสเปคที่เหมือน-ต่างกันยังไง มาดูกันเลยดีกว่า

ก่อนอื่นเรามาเรียงลำดับรุ่นของมือถือซีรีส์ Mi 11 กันก่อนเลยดีกว่า โดยจะเรียงจากรุ่นเล็กไปรุ่นใหญ่นะครับ สเปคน้อง ๆ ขึ้นมา จากนั้นก็ตามด้วยรุ่นที่สเปคสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ไล่ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดอย่าง Mi 11 Lite, Mi 11i, Mi 11, Mi 11 Pro และจบด้วยรุ่นที่ใหญ่อย่าง Mi 11 Ultra

ตารางเปรียบเทียบสเปค Mi 11 Lite, Mi 11i, Mi 11, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra

Mi 11 LiteMi 11iMi 11Mi 11 ProMi 11 Ultra
หน้าจอAMOLED 6.55″ รองรับ HDR10sAMOLED 6.67″ รองรับ HDR10+AMOLED 6.81″ รองรับ HDR10+AMOLED 6.81″ รองรับ HDR10+ และ Dolby Vision
ความละเอียดFull HD+WQHD+
ค่ารีเฟรชเรท90Hz120Hz
Touch Sampling240Hz360Hz480Hz
กระจกนิรภัย
  • Gorilla Glass 5 (4G LTE)
  • Gorilla Glass 6 (5G)
Gorilla Glass 5Gorilla Glass Victus
ชิปเซ็ต
  • Snapdragon 732G (4G LTE) 
  • Snapdragon 780G (5G)
Snapdragon 888
RAM6GB / 8GB8GB8GB / 12GB8GB / 12GB8GB / 12GB
ความจุ64GB / 128GB (UFS 2.2)128GB / 256GB (UFS 3.1)128GB / 256GB (UFS 3.1)128GB / 256GB (UFS 3.1)
128GB / 256GB / 512GB (UFS 3.1)
microSD Cardรองรับไม่รองรับ
กล้องหลัง3 ตัว 

Wide: 64MP f/1.79 
Ultra-Wide: 8MP f/2.2 
Tele-Marco: 5MP f/2.4

3 ตัว 

Wide: 108MP f/1.75

Ultra-Wide: 8MP f/2.2 

Tele-Marco: 5MP f/2.4

3 ตัว 

Wide: 108MP f/1.9 

Ultra-Wide: 13MP f/2.4

Tele-Macro: 5MP f/2.4

3 ตัว 

Wide: 50MP f/2.0

Ultra-Wide: 13MP f/2.4 

Telephoto: 8MP แบบ Periscope

3 ตัว 

Wide: 50MP f/2.0 

Ultra-Wide: 48MP f/2.2 

Telephoto: 48MP f/4.1 แบบ Periscope

กล้องหน้า16MP f/2.520MP f/2.520MP f/2.220MP f/2.220MP f/2.2
เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
ลำโพงคู่
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot (รุ่น 5G รองรับ WiFi 6)Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspotWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6e, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, hotspot
Bluetooth5.1, A2DP, LE (รุ่น 5G ได้ BT 5.2)5.2, A2DP, LE5.2, A2DP, LE, aptX HD, aptX Adaptive5.2, A2DP, LE, aptX HD
แบตเตอรี่4250 mAh4520 mAh4600 mAh5000 mAh
ระบบชาร์จไว33W33W55W67W67W
Wireless Chargingไม่รองรับไม่รองรับ50W67W67W
มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น
ไม่มีIP53ไม่มีIP68IP68
น้ำหนัก157 กรัม196 กรัม196 กรัม208 กรัม234 กรัม
ราคาเริ่มต้น 10,900 บาท (ราคาจีน)เริ่มต้น 23,800 บาท (ราคายุโรป)เริ่มต้น 21,990 บาท (ราคาไทย)เริ่มต้น 23,700 บาท (ราคาจีน)เริ่มต้น 28,500 บาท (ราคาจีน)

 

สรุปแตกต่างกันตรงไหน เลือกซื้อรุ่นไหนดี?

หลัก ๆ จะเห็นว่าสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Mi 11 ทั้ง 5 รุ่น จะมีสเปคระดับเรือธงทั้งหมดในเรื่องของประสิทธิภาพความแรง เพราะต่างมาพร้อมกับชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง Snapdragon 888 ของ Qualcomm กันทั้งสิ้น เว้นก็แต่ Mi 11 Lite ที่ยังใช้ Snapdragon ซีรีส์ 700 อยู่

โดยทั้ง Mi 11 Lite, Mi 11i, Mi 11, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra จะใช้หน้าจอ OLED ทั้งหมด มีค่ารีเฟรชเรทสูงสุด 120Hz (ยกเว้น Mi 11 Lite มีรับแค่ 90Hz) และที่สำคัญรองรับ HDR10 และ HDR10+ อีกด้วย จะมี Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra ที่เหนือกว่ารุ่นอื่น ๆ เพราะได้ Dolby Vision มาช่วยตีบวกเพิ่มอรรถรสในการรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ส่วนเรื่องความทนทาน ตรงนี้ Mi 11, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra มาวินแบบสุด ๆ เพราะได้ Gorilla Glass Victus ตัวเทพ ที่ทาง Qualcomm เคลมว่าตกจากความสูงสองเมตร หน้าจอก็ยังไม่แตก แต่เอาจริง ๆ จะ Gorilla Glass รุ่นไหน ถึงเวลาตกจริง ๆ ถ้าคนมันจะดวงกุด ก็ไม่น่ารอดนะ

ย้อนกลับมาเรื่องความลื่นไหลกันอีกรอบ แม้ว่า Mi 11i, Mi 11, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra จะใช้จอรีเฟรชเรท 120Hz เท่ากัน แต่บอกเลยว่าพอถึงเวลาไปเลื่อน ๆ ไถ ๆ หน้าจอดู จะพบว่าจอของ Mi 11, Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra นั้นลื่นไหลกว่าตัว Mi 11i มาก ๆ ตรงนี้ก็เพราะค่า Touch Sampling สุดแรง 480Hz นั่นเอง คือจากที่ลอง ๆ มา เปิด 60Hz ยังรู้สึกว่ามันลื่นติดนิ้วอะ

ขณะที่เรื่องกล้อง ไม่ว่าจะเป็น Mi 11 รุ่นไหน ก็จัดเต็มด้วยกันทั้งหมด เปิดกล้องมาแชะถ่าย พร้อมลงโซเชียลทันที แต่ถ้าใครอยากได้กล้อง Telephoto มาซูมเข้าไปถ่ายวิวหรือตึกใกล้ ๆ คงต้องมองไปที่รุ่นท็อปอย่าง Mi 11 Pro และ Mi 11 Ultra เลย

ส่วนเรื่องแบตและระบบชาร์จไว อันนี้จิ้มรุ่นไหนก็หายห่วงเลย เพราะต่างมากับแบตขนาด 4000 – 5000 mAh ด้วยกันทั้งสิ้น แถมก็ชาร์จไวเริ่มต้นที่ 33W และไปแม็กซ์สุดที่ 67W แล้ว โดยทุกรุ่นมีอะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่องทั้งหมดด้วย ~ ไม่ต้องเสียเงินซื้อเพิ่มแต่อย่างใด

น่าเสียดายที่ตอนนี้จะมีเพียงแค่ Mi 11 เท่านั้น ที่ Xiaomi Thailand นำมาวางขายอย่างเป็นทางการในบ้านเรา ส่วนที่เหลือตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลยืนยันอะไรทั้งนั้น เว้นแต่ Mi 11 Lite ที่เคาะแล้วว่า มาเปิดตัวแน่ ๆ วันที่ 5 เมษายน 2021 นี้ เวลา 1 ทุ่มตรง ส่วนรุ่นอื่น ๆ เอาไว้หากมีอะไรคืบหน้า จะอัปเดตให้ทันทีเลยครับ