หลังจากมีข่าวหลุดออกมาสักพักสำหรับ Xiaomi Mi 4c สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตัวล่่าสุดของ Xiaomi แบรนด์มือถืออันดับหนึ่งจากประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้ Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 4i ไปในประเทศอินเดีย ล่าสุดในวันนี้ทาง Xiaomi ก็ได้เปิดตัว Mi 4c แล้วอย่างเป็นการในประเทศจีน ซึ่งสเปกนั้นจะดีกว่า Mi 4i ทุกอย่าง ทั้งการใช้ CPU Snapdragon 808, USB Type -C และให้ RAM 2/3 GB แล้วแต่รุ่น มาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า
Xiaomi Mi 4c นั้นเป็นรุ่นขัดตาทัพกันเงียบช่วงปลายปี 2015 ด้วยมาพร้อมสเปกที่เรียกว่าดูดีพอๆกับมือถือเรือธงบางเจ้า แต่ก็ไม่ใช่ในระดับสูงสุดของเรือธงในปี 2015 นี้ สำหรับสเปกและราคาของ Mi 4c ขออนุญาตเล่าไปตามรูปดังนี้
- CPU: Qualcomm Snapdragon 6808 64 bits hexa-core 1.8 Ghz
- GPU: Adreno 418
- หน้าจอ: ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด FHD 1080p ขอบบางพิเศษ
- RAM/ROM: 2GB/16GB หรือ 3GB/32GB
- กล้องหลัง: 13MP พร้อมระบบออโต้โฟกัส Phase Detection และแฟลชทูโทน
- กล้องหน้า: 5MP เลนส์มุมมองกว้าง
- แบตเตอรี่: 3080 mAh พร้อม Quick Charge 2.0
- ระบบเครือข่าย: 4G Dual-SIM
- OS: MIUI 7 บน Android 5.1.1
- ราคา:
- รุ่น 2GB/16GB ราคา 1299 RMB ประมาณ 7,400 บาท
- รุ่น 3GB/32GB ราคา 1499 RMB ประมาณ 8,500 บาท
ขนาดตัวเครื่องของ Xiaomi Mi 4c เรียกได้ว่าจับถือได้สบายมือด้วยขนาด 138.1 x 69.6 x 7.8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเพียง 132 กรัม
หน้าจอแสดงผลจาก 3 ผู้ผลิตคือ Sharp, AUO และ LG พร้อม Sunlight Display และ Night reading mode สามารถปรับ Refresh rate ได้หลากหลายและประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 10%
กลัองหลังความละเอียด 13MP พร้อม PDAF ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX258/Samsung S5K3M2 ISOCELL
ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5MP เลนส์กว้าง พร้อมโหมด Beautify
Mi 4c มาพร้อมพอร์ต USB Type-C เสียบสายด้านไหนก็ได้ ไม่ต้องกลัวเสียบผิด
พร้อมตัวแปลงสำหรับสาย USB แบบเก่าในราคา 5 RMB ประมาณ 30 บาท
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 3,080 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 และรองรับ 4G แบบ 2 SIM
Xiaomi Mi 4c มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี คือ ขาว, ดำ, ฟ้า, ชมพู และเหลือง
ความสามารถใหม่ที่น่าสนใจของ Mi 4c
- Edge Tap: สามารถแตะที่ขอบข้างเครื่องเพื่อทำกิจกรรมบางอย่างได้ เช่น แตะหนึ่งครั้งเพื่อถ่าย Selfie หรือ แตะ 2 ครั้งเพื่อเป็นปุ่ม back
- Double tap to wake screen: สามารถแตะ 2 ครั้งตอนหน้าจอดับเพื่อเปิดหน้าจอเหมือนมือถือ LG ได้แล้ว (สักทีนะ)
- Infrared remote control: ความสามารถหลายคนจะรู้จักในชื่อ IR Blaster นั่นเอง โดย Mi 4c จะมีพอร์ต infrared เอาไว้ทำหน้าที่เป็นรีโมทคอนโทรลเพื่อควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้แล้ว
สำหรับ Xiaomi Mi 4c นั้นจะเริ่มจำหน่ายในประเทศจีนวันที่ 23 กันยายนนี้ ส่วนการจำหน่ายทั่วโลกนั้นยังไม่มีข้อมูลครับ
ที่มา: MIUI
น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว
ช่วยขาย ตัว Ram 3 GB พร้อมหัวแปลง ซัก 9900 เดียวเถอะ
หน้าจอ: ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด FHD 1080p ขอบบางพิเศษ
ผมนึกถึงพิซซ่าเรย ^^
เชิญผู้สนใจรวมกลุ่มกันได้ที่นี่ครับ
https://fb.com/groups/Mi4cTH/
อึ้ง เซ็นเซอร์ Sony IMX258 ด้วย กล้องสวยเว่อร์แน่
สเปคแบบนี้ เทียบเรือธงเลย lg g4
ของดีราคาประหยัด ขาดแต่ว่าศูนย์ไทยเมื่อไหร่จะเอาเข้ามาขาย
โคตรลำบาก ใช้ OnePlus Two สองอาทิตย์ สาย USB -C ของมันเนี่ย
ตอนนี้ ใช้ Nexus 6 ก็เคาะจอ สองทีเรียกเปิดได้เหมือนกัน
เมื่อไร xiaomi จะทำ on-screen buttons ไม่ชอบแบบ hard key เลยมือชอบไปโดนทุกที
อ่อ ใช่เลยครับ โดนใจเลย
แต่ผมกลับมองว่า hard key ก็ดีนะครับ มีกลุ่มลูกค้าอยู่ โดยเฉพาะคนแก่ๆแบบแม่ผม 555
ก็เล็งตัวนี้ไว้ให้แม่เช่นกัน ต่อจาก Mi4i ที่มี rom แค่ 12GB
soft key ผลุ่บๆโผล่ๆ เวลาเปิด app ต่างๆ (เช่น Quickpic) บางทีคนใช้ก็งงว่าทำไมมันหาย แบบใช้ไม่ค่อยถนัดเท่าปุ่มจริง
แต่ถ้าคนเล่นเกมส์แบบเราๆ soft key ดีกว่าแน่นอน เล่นเกมส์แนวนอนซ่อนปุ่มให้ ไม่ต้องกลัวไปโดนปุ่ม Back อิอิ
^ ^ พอดีความชอบล้วนๆเพียวๆครับ ไม่เกี่ยวกับการใช้งานเลยผม 55+
ใจนึงแอบเล็ง Redmi Note 2 Prime ตอนนี้ชักลังเล
high midrange ที่ใช้ soc 615 เท่าที่จับมา2ตัวไม่ค่อยเวิร์คจริงๆ
ต้อง soc 808 นี่ล่ะน่าจะลงตัว
แอบเสียดาย ถ้าเปลี่ยนจาก 2sim เป็น Hybrid sim
แต่ได้ snap808 ในราคา 7400บาท (ถึงจะแค่ในจีนก็เหอะ) คงขายหมดอย่างรวดเร็วเหมือนเดิม
เค้ามีให้เลือกใช่ปะคับ ระหว่าง Sony IMX258/Samsung S5K3M2
อยากได้ของ Sony งะ (><)
น่าสนใจจริงๆครับ อยากรู้จังว่ามันจะใช้ 3G ทั้งสองซิมพร้อมกันได้หรือไม่ (ยังไม่คิดไกลถึง 4G หรอก)
up