ในงานใหญ่เมื่อคืน นอกจาก Xiaomi จะเปิดตัว Mix Flip 2 และ Redmi K80 Ultra แล้ว ยังได้เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ล่าสุด Xiaomi Open Earphones Pro หูฟังไร้สายแบบเปิดหูรุ่นใหม่ ที่เน้นความสะดวกสบายในการสวมใส่ รองรับระบบเสียงเชิงพื้นที่ (spatial audio) และคุณสมบัติที่เน้นคุณภาพเสียงเป็นหลัก

Xiaomi กล่าวว่า Open Earphones Pro มีระบบอะคูสติกแบบเปิดห้ายูนิตรุ่นแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งประกอบไปด้วยวูฟเฟอร์ไดนามิกขนาดใหญ่พิเศษ 1,813 ตัว สำหรับเสียงเบส โมดูลทวีตเตอร์ไดนามิกคู่ และไดรเวอร์เซรามิกเพียโซอิเล็กทริก เพื่อปัดเศษช่วงความถี่

การปรับแต่งนี้ทำร่วมกับทีม Golden Ear ของ Harman และมีพรีเซ็ต EQ หลายชุดในตัว หูฟังรองรับเสียงเชิงพื้นที่และการติดตามศีรษะ 360 องศา เพื่อประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้น
ความสบายเป็นอีกจุดเน้นของ Open Earphones Pro การออกแบบใช้ตะขอเกี่ยวหูแบบยืดหยุ่นขนาด 0.6 มม. ที่ทำจากไทเทเนียม ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง สามารถงอได้มากกว่า 5,000 ครั้ง จับคู่กับซิลิโคนที่เป็นมิตรต่อผิวหนังและระบบการสวมใส่สบายตามหลักสรีรศาสตร์แบบสามจุด นอกจากนี้ ยังมีช่วงความยาวที่เปลี่ยนรูปได้ 45 มม. เพื่อรองรับรูปร่างหูที่แตกต่างกันได้ดีขึ้น

เนื่องจากเป็นหูฟังแบบเปิด จึงไม่ปิดกั้นช่องหูเหมือนกับรุ่นใส่ในหูทั่วไป การออกแบบนี้ระบายอากาศได้ดีกว่า แต่ต้องแลกมาด้วยการรั่วไหลของเสียงที่อาจเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
และเพื่อแก้ปัญหานี้ Xiaomi จึงใช้ “ระบบป้องกันการรั่วไหลอิสระ” ที่ปล่อยคลื่นเสียงเฟสย้อนกลับ บริษัทกล่าวว่าเทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติของจีน

ส่วนคุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ “Headphone Independent Recording 2.0” ซึ่งช่วยให้ชุดหูฟังบันทึกเสียงได้โดยตรง (แม้ว่าจะปิดเคสอยู่) พร้อมกับการแปลภาษาจีน-อังกฤษ แบบเรียลไทม์ รองรับการควบคุมด้วยท่าทาง ทนเหงื่อและน้ำ ได้มาตรฐาน IP54 และสามารถสตรีมเสียงจากหลายอุปกรณ์ได้
Xiaomi อ้างว่า Open Earphones Pro สามารถใช้งานได้นานถึง 8.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว และสามารถใช้งานได้นานถึง 45 ชั่วโมงด้วยเคสชาร์จหุ้มหนัง Kona
ราคาและการวางจำหน่าย
Xiaomi Open Earphones Pro วางจำหน่ายแล้วในประเทศจีน โดยสามารถซื้อได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท มีสีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Obsidian Black, Silver และ Titanium Gold มีราคาดังนี้
- Xiaomi Open Earphones Pro ราคา 999 หยวน (ประมาณ 4,500 บาท)

ที่มา : weibo
Comment