Xiaomi Pad 7 Series เปิดตัวไปแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับสเปคแบบจัดเต็ม ระดับแท็บเล็ตเรือธง ทั้งหน้าจอขนาดใหญ่ ชิปเซต Snapdragon ที่ใช้เล่นเกมได้สบายๆ ในราคาน่ารัก ดีต่อใจ และดีต่อกระเป๋า แต่ดีไซน์ และสเปคหลายๆ ส่วน ก็คล้ายกันมากๆ วันนี้พวกเรา DroidSans จะมาเทียบสเปค และความแตกต่างของทั้งสองรุ่นให้ดู พร้อมสรุปว่าใครบ้างเหมาะกับรุ่นไหน!

ดีไซน์ตัวเครื่อง

สำหรับการออกแบบนั้น Xiaomi Pad 7 และ Pad 7 Pro ยังคงหยิบการออกแบบของ Xiaomi 15 Series มาใช้ต่อยอดกับการออกแบบแท็บเล็ต ยูนิบอดี้วัสดุอะลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งให้ความแข็งแรงสูง พอร์ต USB-C 3.2 ที่สามารถต่อจอได้ และตัวเครื่องที่บางเพียง 6.18 มม. น้ำหนัก 500 เท่ากัน โดยทั้งสองรุ่นมีสีให้เลือกเหมือนกัน 2 สี ได้แก่ สีเทา (Gray) และสีฟ้า (Blue)

ถึงแม้ว่าหน้าตา และไดเมนชันของตัวเครื่องจะมีความเหมือนกันมากๆ จนแยกแทบไม่ออก แต่จุดที่เราจะสามารถสังเกต หรือพอเห็นความต่างระหว่างทั้งสองรุ่นนี้ได้ คือบริเวณ ‘โมดูลกล้อง’ ด้วยความละเอียดของกล้องที่ไม่เหมือนกันนั้น Xiaomi Pad 7 จะมีการพิมพ์ข้อความไว้ว่า ’13MP AI Camera’ แต่ของ Pad 7 Pro เป็น ’50MP AI Camera’ แทน รวมไปถึงเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่อง (ถ้าถือในแนวนอน) Xioami Pad 7 Pro จะรองรับการสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มนี้ด้วย พร้อมกับรองรับการสแกนใบหน้า แต่ Xiaomi Pad 7 จะรองรับแค่การสแกนใบหน้าเท่านั้น

หน้าจอ และลำโพงระดับเรือธง

ถึงแม้จะมีการแบ่งออกเป็นรุ่นธรรมดา และรุ่นโปร แต่ Xiaomi Pad 7 กับ Pad 7 Pro มีสเปคของหน้าจอ และลำโพงที่เหมือนกันทั้งหมด โดยใช้เป็นหน้าจอ IPS LCD ขนาด 11.2 นิ้ว ความละเอียดการแสดงผล 3.2K (3,200 x 2,136 พิกเซล) ความสว่างสูงสุด 800 nits อัตตรารีเฟรชเรตที่ให้มาถึง 144Hz โดยที่เราสามารถปรับได้ด้วยตนเอง 3 ระดับ คือ 60Hz, 90Hz และ 144Hz รองรับการแสดงผล HDR และ Dolby Vision แต่ Always-On จะมีแค่ Pad 7 Pro ที่รองรับเท่านั้น

โดย Xiaomi Pad 7 Pro จะมีรุ่น Matte Glass วางขายแยกต่างหากด้วย ช่วยลดแสงสะท้อนจากหน้าจอได้ถึง 99% ทำให้การใช้งานในที่สว่างหรือกลางแจ้งมองเห็นได้ชัดขึ้น และลดการรบกวนของแสง ช่วยให้ภาพคมชัดขึ้น สบายตากว่าเดิม เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตเพื่อการทำงาน ดูหนัง หรืออ่านหนังสือ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงสะท้อน พร้อมกับให้ผิวสัมผัสที่เหมือนกระดาษ

ต่อมาที่เรื่องของลำโพง Xiaomi Pad 7 และ Xiaomi Pad 7 Pro มีลำโพงทั้งหมดสี่ตัว (ซ้าย-ขวา ฝั่งละ 2 ตัว) รองรับ Dolby Atmos และฟีเจอร์บูสต์เสียงสูงสุด 200% ในการใช้งานจริงแล้ว ถ้าเรื่องของความดัง Xiaomi Pad 7 จะให้เสียงที่ดังมากกว่าแบบเห็นได้ชัด แต่ Xiaomi Pad 7 Pro จะสามารถทำในเรื่องของเลเยอร์ หรือมิติเสียงได้กำลังดี ไม่ดังเกินไป จนทำให้รายละเอียดเสียงบางส่วนหายเมื่อฟังเพลง หรือดูหนัง

ลำโพงสี่ตัว รองรับ Dolby Atmos

ฟังเสียงลำโพงได้ที่คลิปด้านล่าง (วินาทีที่ 40)

Xiaomi Pad 7 งบ 10,990 กับ Pad 7 Pro 15,990 ต่างกันแค่ไหน เลือกรุ่นอะไรดี? #xiaomipad7 #xiaomipad7pro #เสียวหมี่ #แท็บเล็ต
Xiaomi Pad 7 งบ 10,990 กับ Pad 7 Pro 15,990 ต่างกันแค่ไหน เลือกรุ่นอะไรดี? #xiaomipad7 #xiaomipad7pro #เสียวหมี่ #แท็บเล็ต
@droidsans

Xiaomi Pad 7 งบ 10,990 กับ Pad 7 Pro 15,990 ต่างกันแค่ไหน เลือกรุ่นอะไรดี? #xiaomipad7 #xiaomipad7pro #เสียวหมี่ #แท็บเล็ต

Xiaomi HyperOS และ HyperAI

Xiaomi Pad 7 และ Xiaomi Pad 7 Pro มาพร้อมกับ Xiaomi HyperOS 2 บนพื้นฐานของ Android 15 ตั้งแต่แกะกล่อง ฟอนต์ไทยสวย UX และ UI เข้าใจได้ง่าย ทำงานแบบมัลติฟังก์ชัน แบ่งสองหน้าจอ หรือทำงานในโหมดพีซีได้สบายๆ ด้วยโหมด Workstation ควบคู่กับแอนิเมชันระบบที่ลื่นไหล ที่แตกต่างกันจะเป็นในเรื่องของการรับสัญญาณ ที่รองรับ Bluetooth 5.4 เหมือนกัน แต่ Xiaomi Pad 7 Pro จะรองรับสัญญาณไวไฟสูงถึง WiFi 7 ส่วน Pad 7 รองรับที่ WiFi 6e

ส่วนของการใช้งาน AI หรือ Xiaomi HyperAI เรียกได้ว่าไม่มีกั๊ก ใส่มาให้ใช้งานแบบจัดเต็มเหมือนกันทั้งสองรุ่น ตั้งแต่ผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Google Gemini ฟีเจอร์ช่วยเขียน สรุปหรือแก้ไข ข้อความอย่าง AI Writing ตัวช่วยแปลงภาพสเก็ตช์กลายเป็นภาพที่สวยขึ้นกว่าเดิม AI Art และ AI Speech Recognition ตรวจจับเสียงเพื่อการแปลภาษา ถอดข้อความ หรือทำสรุปต่างๆ ให้

กล้องหลัง และกล้องหน้า

Xiaomi Pad 7 ได้เป็นกล้องหลังหนึ่งตัว ความละเอียด 13MP พร้อมกล้องหน้า 8MP ให้รายละเอียดภาพที่โอเค ใช้วิดีโอคอลเพื่อประชุมงานสบายหายห่วง สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 30FPS สำหรับกล้องหลัง และ 1080p 30FPS กล้องหน้า

ส่วน Xiaomi Pad 7 Pro อัปเกรดขึ้นมาเป็นกล้องหลักความละเอียด 50MP และกล้องหน้าความละเอียด 32MP ให้การแสดงผลภาพที่คล้ายกันกับรุ่นน้องอย่าง Xiaomi Pad 7 ก็จริง แต่จะได้เปรียบในเรื่องของความคมชัดจากไฟล์ภาพ ด้วยความละเอียดของเซนเซอร์ที่มีมากกว่า กล้องหลังจะสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K 60FPS ส่วนวิดีโอกล้องหน้าถ่ายได้ 1080p 30FPS เหมือนกับรุ่นน้อง

ชิปต่างกัน แต่ก็เล่นเกมได้ดีเหมือนกัน

อีกหนึ่งความแตกต่างของ Xiaomi Pad 7 Series ก็คือเรื่องของชิปเซต ที่ไม่เหมือนกัน แต่เมื่อดูตัวของชิปเซตที่ได้มาแล้ว และการใช้งานจริง เรียกได้ว่า เหลือเฟือสำหรับการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกมพอสมควร เมื่อเทียบแท็บเล็ตในช่วงราคาใกล้ๆ กัน ตั้งแต่ ROV, PUBG Mobile และ Genshin Impact บวกกับ Game Turbo ที่ช่วยรีดประสิทธิภาพในการเล่นเกมขั้นสุดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

Xiaomi Pad 7

Xiaomi Pad 7 ได้ใช้เป็นชิปเซต Snapdragon 7+ Gen 3 เคาะคะแนน AnTuTu ไปที่ 1,395,174 คะแนน จากการทดสอบเล่นเกม Genshin Impact สามารถเล่นได้แบบลื่นๆ ในการปรับกราฟิกสูง และเฟรมเรท 60FPS ตีบอส ลงดันเจี้ยน ทำเควสได้แบบยาวๆ ไม่มีกระตุกให้เห็น ถึงแม้ว่าจะเล่นต่อเนื่องไปแล้ว 30 นาที ส่วนเรื่องของการทัชอันนี้ไม่มีปัญหา ทัชติดมือ ออกสกิลติดใจ ไม่มีทัชลั่นหรือทัชพลาดให้เห็น

Xiaomi Pad 7 Pro

ส่วนรุ่นพี่อย่าง Xiaomi Pad 7 Pro จะอัปเกรดขึ้นมา ใช้เป็นชิปเซต Snapdragon 8s Gen 3 ได้คะแนน AnTuTu สูงถึง 1,521,975 คะแนน โดยทดสอบการเล่นเกม Genshin Impact เหมือนกัน Setting แบบกราฟิกสูง และเฟรมเรท 60FPS ผลที่ได้คือลื่น และสมูทไม่ต่างกันกับรุ่นน้องเลย แต่จุดแตกต่างระหว่าง Xiaomi Pad 7 และ Pad 7 Pro คือการที่รองรับการตั้งค่าเกมระดับสูงได้ เช่น Call of Duty Mobile ที่จะมีเพียงรุ่นโปรเท่านั้น ที่สามารถปรับไปได้ถึง 120FPS เลย ใครที่อยากจะเน้น Performance การเล่นเกมแบบขั้นสุด แนะนำเป็น Xiaomi Pad 7 Pro อาจจะตอบโจทย์กว่า

ข้อสังเกต อาจจะเป็นในเรื่องของ ‘ความร้อน’ ที่ทั้งสองรุ่นนั้น จะรู้สึกถึงความร้อนได้ง่ายมากๆ เมื่อถือใช้งาน เช่น การใช้งานประมวลผล AI หรือการเล่นเกมที่ใช้ทรัพยากรเยอะๆ แต่ถือว่าไม่ร้อนจนถึงขั้นที่ทำให้รู้สึกหงุดหงิด เพราะเกมหรือเครื่องก็ไม่ได้กระตุก หรือขัดอารมณ์ในการใช้งาน เพราะจุดที่เกิดความร้อนจะไปอยู่ในจุดที่มือของเราจับไปไม่ถึง (ถ้าถือในแนวนอนนะ)

แบตเตอรี่เท่ากัน แต่ชาร์จไวไม่เท่ากันนะ

Xiaomi Pad 7 และ Pad 7 Pro มีขนาดแบตเตอรี่ที่เท่ากัน 8,850 mAh พร้อมกับชิปเซต Xiaomi Surge G1 ที่ช่วยให้สามารถยืดประสิทธิภาพ และการจัดการพลังงานให้สามารถใช้แบตเตอรี่ได้นานขึ้น จะดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ใช้งานได้ยาวๆ ทั้งวันเลย

โดยที่ความเร็วการชาร์จของ Xiaomi Pad 7 นั้น จะเป็น TurboCharge 45W จากการทดสอบ สามารถชาร์จเต็ม 100% ได้ภายใน 1 ชั่วโมง 40 นาที โดยประมาณ และ Xiaomi Pad 7 Pro จะได้ความเร็วการชาร์จมาสูงถึง 67W HyperCharge โดยสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ภายใน 1 ชั่วโมง 20 นาที

สรุป

Xiaomi Pad 7 Series ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่ให้สเปคแบบจัดเต็ม ในราคาที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาแท็บเล็ตสักเครื่อง มาใช้เรียน จดเลคเชอร์ ทำงานเอกสารต่างๆ ไปจนถึงใช้งานเอนเตอร์เทนเมนต์แบบครบวงจร ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ แสดงผลชัดเต็มตา แถมยังได้ฟีเจอร์ AI จาก Xiaomi HyperAI มาใช้งานอีกด้วย Xiaomi Pad 7 ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดี ในราคาเริ่มต้น 10,990 บาท แต่หากใครที่อยากจัดเต็มทั้งด้าน Performance การเล่นเกม การชาร์จที่ไวขึ้น ไปจนถึงพื้นที่จัดเก็บ และแรมที่เยอะกว่า Xiaomi Pad 7 Pro อาจจะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า

ข้อดี

  • จอสวย ความละเอียด และรีเฟรชเรตสูง
  • ลำโพงสี่ตัว รองรับ Dolby Atmos ให้เสียงที่ดัง ชัดเจน ดูคอนเทนต์ ฟังเพลงฟินๆ
  • ได้ชิปเซตที่แรง เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตในช่วงเรตราคาเดียวกัน
  • รุ่น Pro ได้กล้องความละเอียดสูง 50MP (แต่กล้องรุ่นธรรมดาก็เพียงพอกับการใช้งานเหมือนกันนะ)
  • ได้ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์ AI เวอร์ชันใหม่ล่าสุด
  • สเปคโดยรวมคุ้มค่า เมื่อเทียบกับราคา ของแถมในกล่องก็ให้มาครบ (สายชาร์จ และหัวชาร์จ)

ข้อสังเกต

  • ความร้อนเกิดขึ้นได้ง่าย เมื่อใช้เล่นเกม หรือประมวลผล AI หนักมากๆ
  • ไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันบางอย่างได้ เช่น แอปธนาคาร เพราะมีแค่รุ่น WiFi
  • ไม่สามารถใส่ SD Card เพิ่มได้
  • ไม่มีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. สำหรับใครที่ชอบใช้งานหูฟัง
  • อุปกรณ์เสริมปากกา จำเป็นจะต้องซื้อเพิ่มเอง
ตารางเทียบสเปคXiaomi Pad 7Xiaomi Pad 7 Pro
จอภาพประเภทจอ IPS LCD
ความสว่างสูงสุด 800 นิต
จอ IPS LCD
ความสว่างสูงสุด 800 นิต
ขนาด11.2 นิ้ว (3:2)11.2 นิ้ว (3:2)
ความละเอียดความละเอียด 3.2K
(3200× 2136 พิกเซล)
ความละเอียด 3.2K
(3200× 2136 พิกเซล)
อัตรารีเฟรช144Hz
ประสิทธิภาพชิปเซตSnapdragon 7+ Gen 3Snapdragon 8s Gen 3
หน่วยความจำ8GB8GB / 12GB
สตอเรจ128GB / 256GB256GB / 512GB
ระบบปฏิบัติการXiaomi HyperOS 2
บนพื้นฐาน Android 15
กล้องกล้องหลัก13MP (f/2.2)
ขนาด 1/3.06″

PDAF
JN1 50MP (f/1.8)
ขนาด 1/2.76″

PDAF
การถ่ายวิดีโอ (กล้องหลัง)4K 30FPS4K 60FPS
กล้องหน้า8MP (f/2.28)32MP (f/2.2)
การถ่ายวิดีโอ (กล้องหน้า)1080p 30FPS1080p 30FPS
เสียงลำโพงลำโพงคู่ Dolby Atmosลำโพงคู่ Dolby Atmos
การเชื่อมต่อWi-FiWiFi 6eWiFi 7
การเชื่อมต่ออื่น ๆUSB Type-C 3.2
Display Port
USB Type-C 3.2
Display Port
แบตเตอรี่ความจุ8,850 mAh
การชาร์จชาร์จไว 45Wชาร์จไว 67W
ตัวเครื่องขนาด251.22 x 173.42 x 6.18 มม.251.22 x 173.42 x 6.18 มม.
น้ำหนัก500 กรัม500 กรัม

ราคาและการวางจำหน่าย

Xiaomi Pad 7 วางจำหน่าย 2 สี สีเทา และสีฟ้า ในสองรุ่นความจุ (WiFi เท่านั้น)

  • 8GB + 128GB ราคา 10,990 บาท (จำหน่ายทางออนไลน์)
  • 8GB + 256GB ราคา 12,990 บาท

Xiaomi Pad 7 Pro วางจำหน่าย 2 สีเช่นกัน สีเทา และสีฟ้า ในสองรุ่นสองความจุเช่นเดียวกัน (WiFi เท่านั้น)

  • 8GB + 256GB ราคา 15,990 บาท
  • 12GB + 512GB ราคา 18,990 บาท
  • 12GB + 512GB (รุ่น Matte Glass) ราคา 20,990 บาท

ใครที่สนใจ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Lazada, Shopee หรือ TikTok Shop