Xiaomi ส่งมือถือรุ่นใหม่ Redmi K70E / Redmi K70 / Redmi K70 Pro ที่อัดสเปคมาแบบจัดเต็ม ได้ทั้งชิปใหม่ Dimensity 8300 Ultra และรุ่นท็อปใช้เป็นชิประดับเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 แถมยังได้จอสว่างสะใจ 4,000 nits ทั้งหมดนี้มาในราคาเริ่มต้นที่ราว ๆ หนึ่งหมื่นบาทเท่านั้น ส่วนในไทยคาดว่าอาจจะถูกรีแบรนด์มาวางจำหน่ายในฐานะ POCO เหมือนเคย
เปิดตัว Redmi K70
Redmi K70 รุ่นมาตรฐานมาพร้อมกับสเปคที่เรียกได้ว่าจัดกันมาแบบจุก ๆ ได้จอแสดงผลขนาด 6.67 นิ้ว ใช้พาเนล C8 OLED ที่พัฒนาร่วมกับ TCL ทำให้ได้ความละเอียดสูงถึง 2K (1440 x 3200 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรต 120Hz และสว่างสูงสุดถึง 4,000 nits ซึ่งน่าจะสว่างเป็นอันดับต้น ๆ ของวงการในตอนนี้เลย
นอกจากความละเอียดจะสูง และสว่างสุด ๆ แล้ว ยังให้ค่าสีกว้างถึง 12bit ครอบคลุมมาตรฐาน P3 100% รองรับ Touch Sampling Rate 2160Hz สัมผัสได้แม่นยำขึ้น 16 เท่า รองรับการสัมผัสแม้มือจะเปียกน้ำ มีค่า PWM Dimming ที่ 3840Hz เล่นนานไม่ล้าตา ได้รับมาตรฐานจาก TÜV Rheinland เรื่องการปล่อยแสงสีฟ้าต่ำในระดับ Hardware และ Flicker-Free จอไม่กะพริบ
ด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ก็ถือว่าเด่นมาก ๆ เพราะตัวจอรองรับทั้งการแสดงผลแบบ Dolby Vision, HDR10+, HDR Vivid และ ZReal ทำให้การแสดงสีสันในการรับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ จัดเต็ม และสมจริงกว่าเดิม ด้านลำโพงมาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos, Hi-Res และ Hi-Res Wireless ที่รองรับ Codec หูฟังไร้สายดี ๆ ทั้ง LDAC และ LHDC 5.0
ด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้ให้ชิปอดีตเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ที่แรง และประหยัดพลังงานแบบสุด ๆ มีระบบระบายความร้อน ICELOOP ขนาดใหญ่ 5,000 ตารางมิลลิเมตร ส่วนหน่วยความจำใช้ RAM LPDDR5x และ ROM UFS 4.0 ความจุสูงสุด 16GB + 1TB รองรับการเล่น Honor of Kings (ROV ในไทย) ที่เฟรมเรตสูงสุด 120Hz มีระบบ Upscale ภาพด้วย AI ช่วยให้การเล่นเกมบนจอ 2K ดูคมชัดมากขึ้น
ถึงแม้จะเป็นมือถือที่เน้นด้านความแรง แต่กล้องก็เก่งไม่แพ้กัน เพราะในรุ่นนี้ให้กล้องหลัง 3 ตัว โดยเซนเซอร์หลักเลือกใช้ Light Hunter 800 ขนาด 1/1.55 นิ้ว ความละเอียด 50MP ที่ออกแบบมาเพื่อซีรีส์นี้โดยเฉพาะ ช่วยให้เก็บแสงได้ดีขึ้นถึง 62% เมื่อเทียบกับรุ่น K60 มีเซนเซอร์กันสั่น OIS ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K@24FPS
ด้านกล้องรองนั้นให้เลนส์ Ultrawide 8MP + Macro 2MP สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง และภาพระยะใกล้ ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 16MP รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ความละเอียด 1080P@60FPS
ส่วนแบตเตอรี่ในรุ่นนี้ให้มาที่ 5,000 mAh เล่น TikTok ติดต่อกันได้นาน 12.4 ชั่วโมง รองรับชาร์จไว 120W ชาร์จจาก 1 – 100% ใช้เวลาเพียง 18 นาทีเท่านั้น ตัวเครื่องติดตั้งมากับระบบ HyperOS ตัวใหม่บน Android 14 มีฟีเจอร์ Generative AI Chat Bot แบบจัดเต็ม
สเปค Redmi K70
- จอภาพ : C8 OLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด 2K (1440 x 3200 พิกเซล)
– สว่างสูงสุด 4,000 nits
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ HDR10+ / HDR Vivid / Dolby Vision - ชิป : Snapdragon 8 Gen 2
- RAM LPDDR5x : 12GB / 16GB
- ROM UFS 4.0 : 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว :
– กล้องหลัก Light Hunter 800 ขนาด 1/1.55 นิ้ว 50MP (f/1.6), ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 8MP
– กล้อง Macro 2MP - กล้องหน้า : 16MP
- เสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ / Hi-Res / Hi-Res Wireless (LDAC และ LHDC 5.0) / Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
– รองรับชาร์จไว 120W - การเชื่อมต่อ : 5G / Wi-Fi 7 / Bluetooth 5.3 / NFC / Infrared remote control / USB Type-C
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วใต้จอ / accelerometer / proximity / gyro/ compass / color spectrum
- ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
- ขนาด / น้ำหนัก : 160.9 มม. x 75 มม. x 8.2 มม. / 209 กรัม
เปิดตัว Redmi K70 Pro
Redmi K70 Pro มาพร้อมขนาด และดีไซน์ สเปคจอแสดงผล แบตเตอรี่ต่าง ๆ ที่เหมือนกับรุ่นมาตรฐาน แต่รุ่นท็อปจะมาพร้อมกับตัวเครื่องรุ่นพิเศษที่ทาง Xiaomi ได้จับมือกับแบรนด์รถ Super Car สุดหรูอย่าง Automobili Lamborghini ออกแบบตัวเครื่องใหม่โดยได้แรงบันดาลใจจากรถแข่งอย่าง Lamborghini Essenza SCV12 พร้อมสลักโลโก้แบรนด์ดังไว้ที่ฝาหลัง
ส่วนสิ่งที่แตกต่างออกไปจะอยู่ที่ชิปประมวลผลที่เขยิบมาใช้ชิปเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Gen 3 พ่วงด้วย RAM LPDDR5x และ ROM UFS 4.0 ความจุเต็มพิกัด 24GB + 1TB มีระบบระบายความร้อน ICELOOP ขนาดใหญ่ 5,000 ตารางมิลลิเมตรเหมือนกัน รองรับการเชื่อมต่อเทคโนโลยี Bluetooth 5.4 ที่ใหม่กว่าด้วย
ส่วนกล้องถ่ายภาพยังคงมากับกล้องหลัก Light Hunter 800 50MP เช่นกัน + กล้องอัลตราไวด์ที่เพิ่มความละเอียดเป็น 12MP นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเลนส์ Telephoto 50MP ใช้เซนเซอร์ใหม่ Light Hunter 400 ที่รองรับการซูมแบบ Optical ได้สูงสุด 2 เท่า ช่วยให้การถ่ายภาพ Portrait ได้ระยะที่ดูสวยขึ้นกว่าเดิม
สเปค Redmi K70 Pro
- จอภาพ : C8 OLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด 2K (1440 x 3200 พิกเซล)
– สว่างสูงสุด 4,000 nits
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ HDR10+ / HDR Vivid / Dolby Vision - ชิป : Snapdragon 8 Gen 3
- RAM LPDDR5x : 12GB / 16GB / 24GB
- ROM UFS 4.0 : 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว :
– กล้องหลัก Light Hunter 800 ขนาด 1/1.55 นิ้ว 50MP (f/1.6), ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 12MP
– กล้อง Telephoto Light Hunter 400 50MP ซูม Optical x2 - กล้องหน้า : 16MP
- เสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ / Hi-Res / Hi-Res Wireless (LDAC และ LHDC 5.0) / Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh
– รองรับชาร์จไว 120W - การเชื่อมต่อ : 5G / Wi-Fi 7 / Bluetooth 5.4 / NFC / Infrared remote control / USB Type-C
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วใต้จอ / accelerometer / proximity / gyro/ compass / color spectrum
- ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
- ขนาด / น้ำหนัก : 160.9 มม. x 75 มม. x 8.2 มม. / 209 กรัม
เปิดตัว Redmi K70E
Redmi K70E เป็นรุ่นเล็กระดับเริ่มต้นที่มากับสเปคที่ต่างกันนิดหน่อย อย่างจอแสดงผลก็เลือกใช้เป็นพาเนล OLED ที่มีความละเอียด 1.5K (1220 x 2712 พิกเซล) สว่างสูงสุด 1,800 nits รองรับ Touch Sampling Rate 2160Hz และมีค่า PWM Dimming ที่ 3840Hz ส่วนโหมดการแสดงผลยังรองรับ Dolby Vision, HDR10+, HDR Vivid และ ZReal เหมือนเดิม
ส่วนด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิประดับกลาง-บน Dimensity 8300 Ultra ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่จะมีการปรับ Optimized ให้แรงขึ้นกว่ารุ่นมาตรฐานเล็กน้อย ส่วนความจุให้มาในรูปแบบ RAM LPDDR5X และ ROM UFS 4.0 ความจุสูงสุด 16GB + 1TB
ด้านกล้องถ่ายภาพ ทุกตัวยังคงให้เซนเซอร์คล้ายรุ่นมาตรฐาน แต่มีการปรับเซนเซอร์หลักไปใช่เซนเซอร์ความละเอียด 64MP แทน และรองรับการอัดวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K@30FPS
อีกหนึ่งความเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่แบตเตอรี่ที่ให้มาแบบเต็มพิกัด 5,500 mAh ดู TikTok ติดต่อกันได้ 14.6 ชั่วโมง รองรับชาร์จไว 90W ชาร์จจาก 1 – 100% ใช้เวลา 34 นาที แถมยังให้เซลล์แบตเตอรี่ที่ค่อนข้างดี ชาร์จติดต่อกัน 1,000 Cycles แบตเตอรี่ยังเก็บประจุได้มากกว่า 90%
สเปค Redmi K70E
- จอภาพ : OLED ขนาด 6.67 นิ้ว
– ความละเอียด 1.5K (1220 x 2712 พิกเซล)
– สว่างสูงสุด 1,800 nits
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– รองรับ HDR10+ / HDR Vivid / Dolby Vision - ชิป : Dimensity 8300 Ultra
- RAM LPDDR5x : 12GB / 16GB
- ROM UFS 4.0 : 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง 3 ตัว :
– กล้องหลัก ขนาด 1/1.2 นิ้ว 64MP, ระบบกันสั่น OIS
– กล้องอัลตราไวด์ 8MP มุมกว้าง 120˚
– กล้อง Macro 2MP - กล้องหน้า : 16MP
- เสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ / Hi-Res / Hi-Res Wireless (LDAC และ LHDC 5.0) / Dolby Atmos
- แบตเตอรี่ : 5,500 mAh
– รองรับชาร์จไว 90W - การเชื่อมต่อ : 5G / Wi-Fi 6 / Bluetooth 5.4 / NFC / Infrared remote control / USB Type-C
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วใต้จอ / accelerometer / proximity / gyro / compass
- ระบบปฏิบัติการ : HyperOS บนพื้นฐาน Android 14
- ขนาด / น้ำหนัก : 160.5 มม. x 74.3 มม. x 8.1 มม. / 198 กรัม
ราคา และการวางจำหน่าย
Redmi K70 Series ทั้งสามรุ่น วางจำหน่ายที่จีนแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับตลาด Global นั้น คาดว่าทั้งสามรุ่นจะบุกตลาด Global ในฐานะ POCO อีกเช่นเคย โดยในตอนนี้ Redmi K70E คาดว่าจะเปิดตัวในฐานะ POCO X6 Pro แต่อีกสองรุ่นยังไม่มีรายละเอียดออกมา ส่วนสี รุ่นความจุ และราคาเปิดมาดังนี้
ราคา Redmi K70
Redmi K70 รุ่นมาตรฐานมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่สีขาวหินอ่อน, สีดำหินอ่อน, สีฟ้า และสีม่วง และมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นความจุ ดังนี้
- 12GB + 256GB ราคา 2,499 หยวน หรือประมาณ 12,500 บาท
- 16GB + 256GB ราคา 2,699 หยวน หรือประมาณ 13,400 บาท
- 16GB + 512GB ราคา 2,999 หยวน หรือประมาณ 14,800 บาท
- 16GB + 1TB ราคา 3,399 หยวน หรือประมาณ 17,000 บาท
ราคา Redmi K70 Pro
Redmi K70 Pro มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีขาวหินอ่อน, สีดำหินอ่อน และสีฟ้า และมีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นความจุ ดังนี้
- 12GB + 256GB ราคา 3,299 หยวน หรือประมาณ 16,500 บาท
- 16GB + 256GB ราคา 3,599 หยวน หรือประมาณ 18,000 บาท
- 16GB + 512GB ราคา 3,899 หยวน หรือประมาณ 19,300 บาท
- 24GB + 1TB ราคา 4,399 หยวน หรือประมาณ 21,800 บาท
ส่วนรุ่นพิเศษอย่าง Redmi K70 Pro Automobili Lamborghini Squadra Corse Edition จะมีให้เลือก 2 สีคือ สีเขียว / สีเหลือง และมีให้เลือกเพียงรุ่นความจุ 24GB + 1TB เท่านั้น ส่วนราคาวางจำหน่ายจะประกาศให้ทราบในช่วงปีใหม่
ราคา Redmi K70E
Redmi K70E มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่สีขาวหินอ่อน, สีดำหินอ่อน และสีเขียว ส่วนรุ่นความจุมีให้เลือก 3 รุ่นเท่านั้น โดยเปิดราคามาดังนี้
- 12GB + 256GB ราคา 1,999 หยวน หรือประมาณ 10,000 บาท
- 16GB + 512GB ราคา 2,199 หยวน หรือประมาณ 11,000 บาท
- 16GB + 1TB ราคา 2,599 หยวน หรือประมาณ 13,000 บาท
ที่มา: Xiaomi ประเทศจีน
ตัว 70E
"ส่วนด้านประสิทธิภาพในรุ่นนี้มาพร้อมกับชิประดับ Dimensity 9300 Ultra"
เป็น Dimensity 8300 Ultra พิมพ์ผิดนิดหน่อยครับ
แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณมาก ๆ ครับ ^-^