ในปี 2016 นี้โซนี่ได้ปรับเปลี่ยนแบรนด์ของ Xperia จากเดิมที่อยู่กับตระกูล Xperia Z มาอย่างยาวนาน ก็ได้พลิกโฉมหน้าตาและภาพลักษณ์ของ Xperia ใหม่มาในชื่อ Xperia X และล่าสุดโซนี่ก็ได้เปิดตัวมือถือเรือธงแห่งปี นั่นก็คือ Xperia XZ ออกมาแล้วและได้เปิดจองในประเทศไทยไปแล้ว Xperia XZ นั้นก็พกความสามารถมาไม่น้อยหน้ามือถือเรือธงเจ้าอื่นเลยทีเดียว ผมได้เครื่องรีวิวจากทางโซนี่มาทดลองใช้เป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ วันนี้จะมาบอกเล่าให้ฟังครับว่าเจ้า Xperia XZ เครื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
Spec
เริ่มด้วยการทบทวนสเปคกันก่อนละกันครับ สเปคของ Xperia XZ นั้นโดยรวมแล้วก็คือสเปคมาตรฐานเรือธงประจำปี 2016 ที่พกชิปประมวลผล Snapdragon 820 มา แต่ RAM นั้นดูจะน้อยกว่าชาวบ้านเค้าหน่อยเพราะให้มาแค่ 3GB ให้มาแค่นี้เหลือให้ใช้แค่ไหนติดตามต่อข้างล่างได้ครับ ส่วนสเปคอื่นๆ ที่จะแปลกใหม่ก็คือเซนเซอร์ที่เพิ่มมาให้กับกล้องนั่นเอง ดูรายละเอียดเต็มๆ ตามด้านล่างนี้ได้เลย
- จอ IPS 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 Full-HD TRILUMINOS ครอบด้วย Gorilla Glass
- CPU Snapdragon 820
- GPU Adreno 530
- RAM 3GB, ROM 64 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง 23 ล้าน ขนาดเซนเซอร์ 1/2.3″, f/2.0 พร้อมเทคโนโลยี PDAF, Laser AF, IR Color sensor, EIS กันสั่น 5 แกน, รองรับการถ่าย 4K
- กล้องหน้า 13 ล้าน ขนาดเซนเซอร์ 1/3.06″ เลนส์มุมกว้าง 90 องศา
- แบตเตอรี่ขนาด 2,900 mAh, เทคโนโลยี Qnovo ยึดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
- รองรับการใช้งาน 2 SIM ใช้งาน 4G+3G ได้
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP65/IP68
- ใช้พอร์ท USB Type-C
- ขนาด 146 x 72 x 8.1 มิลลิเมตร
- หนัก 161 กรัม
- มีทั้งหมด 3 สีคือ Mineral Black, Platinum และใหม่ Forest Blue
- Android 6.0 Marshmallow
Design
สำหรับการออกแบบของ Xperia XZ นั้นถือว่าเป็นหน้าตาที่แปลกใหม่ไปจากตระกูล Z ที่ผ่านๆ มาอย่างเห็นได้ชัดครับ บางคนอาจจะยังมองว่ามันก็ทรงเดิมๆ แต่ผมแนะนำให้หาลองจับดูครับ มันแตกต่างจริงๆ
ตัวเครื่องของ Xperia XZ นั้นจะดูตันๆ เป็นก้อนเดียว แต่สามารถจับได้ถนัดมือด้วยมุมโค้งทั้งหน้าหลัง ที่ผสมผสานทั้งส่วนโค้งของกระจกหน้าและมุมโค้งของฝาโลหะด้านหลังเครื่องมาปิดกันได้อย่างสนิท สามารถลากนิ้วจากหน้าเครื่องไปหลังเครื่องได้โดยไม่สะดุด จับถือด้วยมือแล้วจะเข้ามือได้ดีมากครับ อันนี้ผมชอบเป็นการส่วนตัวเลย (คับแค้นใจจากการที่จับ Xperia Z5 มาแล้วเจอขอบแหลมๆ )
ด้านหน้าเครื่องนั้น เริ่มดูจากด้านบนเครื่องก็จะเห็นซ้ายสุดจะมีช่องของไฟ LED สำหรับการแจ้งเตือน ตามมาด้วยตำแหน่ง NFC ที่ถูกย้ายมาด้านหน้าสำหรับรุ่นที่ฝาหลังเป็นโลหะ เพราะสัญญาณมันคงจะตีกัน แล้วก็มีกล้องหน้า ต่อมาก็คือลำโพงสำหรับสนทนา รวมทั้งเป็นลำโพงสเตอริโอด้วย ถัดมาก็เป็น proximity sensor กับ light sensor ครับ
ส่วนด้านล่างจะดูโล้นๆ มีเพียงแค่ลำโพงสเตอริโออีกข้างหนึ่งเท่านั้น ผมก็เห็นหลายคนบอกเหมือนกันว่าเหลือที่ว่างไว้เยอะมากกกก แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับมองว่ามันทำให้จับสะดวกครับ โดยเฉพาะถ้าถือถ่ายรูปด้วยมือถือขวา จะกลายเป็นช่องพอดีวางนิ้วโป้งเลย
ด้านข้างเครื่องฝั่งซ้ายจะมีแค่ช่องใส่ SIM + Micro SD Card อยู่บ้านบนเท่านั้นครับ ช่องเป็นแบบ Hybrid คือเลือกใส่ 2 SIM หรือเลือกเป็น 1 SIM + 1 Micro SD Card ครับ
ส่วนทางขวาเครื่องไล่ข้างบนจะเป็นปุ่ม Power ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ ปุ่มนี้ผมลองจับมาแล้วพบว่าฟีลการสัมผัส การกด ให้ความรู้สึกที่ดีกว่า Xperia X Compact ครับ ปุ่มมันดูสูงกว่า กดง่ายกว่า ถัดลงมาก็เป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มชัตเตอร์กล้องตามลำดับครับ
ด้านบนเครื่องจะมีช่องหูฟัง 3.5 มม. ไม่หนีหายไปไหน กับอีกรูคือรูไมโครโฟน และด้านล่างก็จะมีพอร์ท USB Type-C กับรูไมโครโฟนสนทนาครับ ไมโครโฟน 2 ตัวนี้ใช้ร่วมกันเพื่อบันทึเสียงสเตอริโอได้ครับ
พลิกมาดูด้านหลังของเครื่องจะพบว่าฝาหลังมีการสะท้อนแสงที่เงา มันวาวมากๆ ส่วนนี้คือโลหะ ALKALEIDO ที่ทางโซนี่โฆษณาไว้ว่าเป็นโลหะที่มีความบริสุทธิ์สูงทำได้สามารถสะท้อนแสงได้เงางามแบบนี้
ฝาหลังตัวนี้กลับกลายเป็นเอกลักษณ์ของ Xperia XZ ไปเลยครับเพราะมันเป็นความเงาที่ไม่เหมือนใครเลย มันไม่เงาถึงขั้นกระจก แต่ก็ไม่ได้ด้าน และโซนี่ยังออกแบบมาให้เกิดการสะท้อนสีออกมาเป็นหลายเฉดสีอีกด้วย ทำให้เล่นสีได้ตามมุมการตกกระทบของแสง อย่างสี Forest Blue ที่ได้มารีวิวนี่เมื่อโดนแสงขาวสว่างๆ จะเห็นเป็นสีฟ้าอ่อน ฟ้าสว่าง แต่เมื่อแสงลดลงก็จะกลายเป็นสีน้ำเงินเข้มขรึมๆ หรือเมื่อแสงน้อยก็จะคล้ายกับเป็นสีดำเลยทีเดียว
ส่วนที่เป็นโลหะนั้นเป็นแค่ส่วนฝาหลังเท่านั้นครับ มีหลายคนฝากคำถามมาว่าส่วนอื่นๆ ข้างเครื่อง ด้านหลังส่วนล่างเครื่องเป็นวัสดุอะไร ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเป็นอะไร แต่ไม่ใช่โลหะแน่ๆ สัมผัสด้านข้าง บนล่างซ้ายขวา มันแน่นๆ ถ้าเป็นพลาสติกก็เป็นพลาสิตกที่ฟีลดี หรืออาจจะเป็นเซรามิกก็เป็นได้ ส่วนสาเหตุที่ฝาหลังส่วนล่างนั้นไม่ใช่โลหะก็เป็นเพราะโซนี่ทำไว้เพื่อเป็นช่องให้สัญญาณโทรศัพท์เข้าออกได้สะดวกไม่ชนกับโลหะนั่นเอง
สำหรับด้านหลังเครื่องนั้นก็จะมีมีกล้องครับ ด้านล่างของกล้องหลังก็จะเป็น Laser Focus, RGBC-IR Sensor และ LED Flash ตามลำดับครับ แล้วก็มีโลโก้ XPERIA กลางเครื่อง เป็นเอกลักษณ์ ตัวโลโก้นั้นเป็นการยิงเลเซอร์บนฝาหลังเลย เพิ่มความพรีเมียมมากกว่าแค่การพิมพ์แปะเยอะเลยครับ
การออกแบบของ Xperia XZ นั้น ถ้าให้ผมพูดคงพูดได้อีกยาว เพราะผมค่อนข้างชอบเป็นพิเศษเลยล่ะ แต่เพื่อไม่ให้ดูอวยจนเกินไปผมอยากให้คนที่สนใจไปลองจับ ลองสัมผัสเครื่องเองดีกว่า เห็นว่าตาม Sony Store มีเครื่องทดลองแล้วด้วย เอาล่ะ เราไปต่อกันที่หัวข้อถัดไปเลยดีกว่า
Display
หน้าจอแสดงผลของ Xperia XZ นั้นใช้จอ TRILUMINOS ของโซนี่ที่เป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับที่โซนี่ใช้บนทีวีนั่นเอง โดยจอ TRILUMINOS นั้นเป็นจอแบบ IPS LCD ที่โซนี่พัฒนาขึ้นเองให้มีช่วงสีที่แสดงผลได้กว้างและยังโฆษณาอีกด้วยว่าเป็นจอ LCD ที่สีดำที่มืดมาก แต่เท่าที่ดูก็ยังไม่สามารถสู้ความดำของ AMOLED ได้แหละครับ เท่าที่ใช้งานสีสันบนจอก็สวยสดดีครับ หลายๆ คนที่ไม่ชอบโทนสีสดเกินไปบน Super AMOLED อาจจะชอบแบบนี้ก็ได้
จอของ Xperia XZ นั้นมีขนาดอยู่ที่ 5.2 นิ้ว กับความละเอียดพิกเซลที่ระดับ Full-HD 1080 x 1920 ซึ่งให้ภาพที่คมชัดดีครับ นอกจากว่าจะตั้งใจส่องจอใกล้ๆ หน่อยก็อาจจะเห็นพิกเซลได้บ้าง แต่ถ้าถือในมือถือระยะสายตาปกติก็ถือว่าคมชัดอยู่ครับ
มุมมองกว้างดีครับ
ในส่วนของ White Balance ของจอ Xperia XZ นั้นผมสังเกตว่าจะออกไปทางโทนเหลืองเมื่อเทียบกับ Xperia รุ่นก่อนๆ ผมยังไม่ได้ลองเทียบกับมือถือของแบรนด์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม ในหน้า Settings -> Display โซนี่ก็มีตัวปรับ White Balance ของหน้าจอมาให้ด้วย เพราะฉะนั้นก็สามารถปรับแต่งได้ตามความชอบได้เลยครับ
นอกจากนี้แล้วในส่วนของฟีเจอร์เกี่ยวกับหน้าจอที่โซนี่ใส่มาให้กับ Xperia XZ อีกก็คือเรื่องของ X-Reality for Mobile ที่จะช่วยปรับคุณภาพของภาพที่แสดงผลให้คมชัดขึ้น มันอาจจะหลอกๆ ตาบ้างในบ้างครั้ง แต่ก็ช่วยให้รู้สึกว่าภาพสวยขึ้นได้จริง แต่สำหรับเวลาถ่ายภาพมาดูพรีวิว ผมแนะนำให้ปิดเพราะอาจจะโดนมันหลอกว่าเราถ่ายภาพมาไม่เบลอครับ ฮ่าๆ
นอกจาก X-Reality for Mobile แล้วก็มี Super-vivid mode อีกอันหนึ่งที่ทำงานร่วมกันและเร่งสีให้สดขึ้นอีกด้วย เหมาะกับการดูหนังที่ต้องการสีสันสดใส หรือสีจัดๆ ครับ ทั้งหมดนี้สามารถปรับเปิด-ปิดเองได้ผ่าน Settings -> Display ครับ
Software
ซอฟต์แวร์ภายในของ Xperia XZ นั้นมาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow แพทช์ความปลอดภัยเป็นของเดือนกรกฎาคม ที่ถูกปรับแต่งเพิ่มโดยโซนี่ ภาพรวมยังคงความใกล้เคียงกับ Pure Android มาก ไม่ว่าจะเป็น App Drawer, หน้าตา UI และหน้า Settings โดยสิ่งที่โซนี่แต่งเติมเข้ามาก็จะเป็นเรื่องของสีสันของไอคอน และการรองรับระบบ Theme ที่เข้ากับธีมที่โซนี่พัฒนา/ขาย ให้เลือกเปลี่ยนหน้าตาได้ตามความชอบ
ความเท่อย่างนึงคือ Launcher ที่มากับเครื่อง Xperia XZ ที่มีชื่อว่า Xperia Home นั้นเป็นตัวใหม่ล่าสุดที่เกิดจากการผสมผสานกันระหว่าง Launcher ดั้งเดิมของโซนี่เข้ากับ Google Now Launcher เพราะสามารถเข้าถึง Google Now ได้เลยด้วยการปัดหน้าจอไปยัง Home Screen ซ้ายสุด
ซึ่งข้อมูลภายในหน้า Google Now นั้นอัพเดตค่อนข้างเป็นปัจจุบันด้วย ทำให้ไม่พลาดข้อมูลสำคัญในช่วงเวลานั้นๆ เลย สำหรับคนที่ไม่ชอบก็สามารถปิดได้ผ่าน Home Setting ครับ (ทัชหน้าจอค้าง -> Home Setting อยู่ขวาล่างจอ)
ภายใน Home Setting จะมีการตั้งค่าหลายอย่างอยู่ครับ แต่ที่น่าสนใจและหลายคนน่าจะถามหาก็คือ Double-tap to sleep เพราะมันมาซ่อนอยู่ในนี้ให้ตั้งได้ ส่วน Double -tap to wakeup นั้นจะไปซ่อนอยู่ที่ Settings -> Display ครับ
แอปที่ติดตั้งมากับเครื่องนอกเหนือจากที่มากับ Stock Android แล้วก็จะมีประมาณนี้ครับ
- แอป Multimedia ของโซนี่คือ Music, Album, Video, PlayStation
- แอปข่าวสารของโซนี่ เช่น What’s New สำหรับข่าว, ธีมเครื่อง, การอัพเดตแอปและซอฟต์แวร์ของ Xperia, แอป News
- แอป Utility ต่างๆ ของโซนี่ ได้แก่ Lifelog, Movie Creator, Sketch, Lounge (สำหรับตามข่าวสารและร่วมกิจกรรมที่โซนี่จัด), AVG Protection
- แอปอื่นๆ เช่น Facebook, Amazon Shopping
หลายคนอาจจะงงแล้วว่าจะมี Amazon Shopping มาให้ด้วยทำไม ในไทยเองคงแทบไม่ได้ใช้แน่ๆ ผมเดาว่าอาจจะเป็นเพราะว่าโซนี่ใช้ ROM ที่ pre-load แอปมาเหมือนกันในทุกประเทศ เลยมีมาด้วยสำหรับในเครื่องไทย อันนี้เดานะครับ ไม่ชัวร์เหมือนกัน
Xperia XZ นั้นก็รองรับการใช้งาน 2 SIM แบบ 4G+3G หรือบางคนอาจจะเรียกมันว่าเป็นเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกับ Full Netcom 3.0 นั่นเอง คิดว่าตัวทอปๆ ของโซนี่นับจากนี้ไปก็คงรอบรับหมดแหละครับ เพราะจริงๆ รองรับมาตั้งแต่ Xperia X Performance แล้ว ไม่แน่ว่าปีหน้าเราอาจจะได้เห็นการขยับขยายลงไปรุ่นกลาง-ล่างก็ได้
โซนี่ได้โมให้หน้า Setting ของ Storage และ Memory รวมเป็นเมนูเดียวกัน เมื่อกดเข้ามาก็จะพบกับ Smart Cleaner ของโซนี่ที่จะค่อยจัดการข้อมูลในเครื่องให้ไม่รกเกินไป คาดว่าน่าจะเป็นการล้างแคช ล้าง temp file ครับ แล้วถ้าจิ้มขวาบนก็จะมีเมนู Advance ให้กดเข้าไปจึงจะดูข้อมูล RAM/ROM ได้
สำหรับเรื่องของ RAM ที่ให้มา 3GB นั้นเป็นยังไงบ้าง? จากการใช้งานทั่วไป ต่อเน็ต เล่นเฟส เปิด Chrome สลับไปมา ก็สามารถทำ Multi Task ได้โอเคครับ ไม่มีโหลดใหม่ ยกเว้นถ้าเปิดเล่น Pokemon Go ไว้ด้วย นานๆ ทีอาจจะต้องโหลด Pokemon Go ใหม่แค่สลับกลับมา แต่น้อยครั้งมากครับ
สำหรับ RAM ที่มีระบบใช้ไปจะเฉลี่ยแกว่งๆ อยู่ 2.1GB ถึง 2.3GB ครับ แล้วแต่ช่วงเวลา หรืออาจบอกได้ว่าเหลือ RAM ให้ใช้อยู่ 400 ถึง 600 MB ผมยังไม่ได้ลองหาเกมหนักๆ มาทดลองว่าจะเป็นยังไงบ้าง แต่คิดว่าถ้าหนักจริงก็คงกระทบบ้างในการสลับแอปไปมา ส่วนเกมเบาๆ ไม่น่าสะเทือนอะไรครับ อ้อ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่านี่คือ RAM ที่เหลือหลังจากที่ผมลงแอปครบแล้วตามที่ใช้ มีทั้ง Facebook, Messenger, LINE ครบ ถ้ามาแบบเพียวๆ แกะกล่องจะใช้ไปราว 1.6GB เหลือให้ใช้ประมาณ 1.1GB ครับ
Xperia XZ รุ่นขายในไทยเป็นรุ่น 2 SIM จึงมาพร้อมกับ ROM ขนาด 64GB โดยจะโดนระบบ Android System แย่งกินไปประมาณ 14GB เหลือให้ใช้อยู่ประมาณ 50GB ครับ ซึ่งก็ถือว่ายังเยอะระดับหนึ่ง
โซนี่ยังได้ใส่ฟีเจอร์สำหรับให้คำแนะนำการใช้งานคือ Xperia Tip มาอีกด้วย ซึ่งมันจะคอยแนะนำการใช้งานต่างของเครื่อง Xperia โดยมันจะแสดงขึ้นมาในจังหวะที่เราเพิ่งเคยทำสิ่งต่างๆ ในเครื่องเป็นครั้งแรก หรืออาจจะเป็นจังหวะที่เราละเลยอะไรไปนานๆ มันก็จะขึ้นคำแนะนำมาบอกเราได้ และมันยังเป็นเหมือนคู่มือประจำเครื่องอีกด้วย เราสามารถกดเข้าไปดูคำแนะนำหรืออ่านขั้นตอนต่างๆ ได้ผ่านหน้า Settings ครับ
Benchmark
และแล้วก็มาถึงขั้นตอนหลักขั้นตอนหนึ่งในการีวิวเครื่อง เพราะหลายๆ คนก็อยากจะทราบว่าแต่ละเครื่องวัดคะแนน Benchmark ออกมาแล้วเป็นยังไงบ้าง ผมก็ได้ทดสอบ Benchmark เจ้า Xperia XZ ด้วยแอปชื่อดังต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AnTuTu, 3DMarks, GeekBench และ A1 SD Bench สำหรับผลที่ได้ก็เป็นดังภาพต่อไปนี้เลยครับ
Sound
ระบบเสียงของ Xperia XZ นั้นโซนี่ไม่ได้ชูเป็นจุดเด่นของรุ่นเท่าไรนัก เพราะโดยรวมแล้วสเปคจะไม่ต่างกับ Xperia X Performance หรือ Xperia Z5 เท่าไรนักคือ มีการรองรับการเล่นไฟล์เพลงแบบ Lossless ไม่ว่าจะเป็น FLAC, DSD, PCM แต่ว่ายังไม่มีการทำชิปเสียง DAC แยกออกมา ซึ่งถ้าเทียบกับหลายเจ้าก็จะเริ่มมีทำกันเยอะขึ้นแล้ว โดย DAC ที่ใช้เข้าใจว่าเป็นของ Qualcomm และมีการปรับแต่งโดยโซนี่เพิ่มเติม โทนเสียงที่ได้นั้น จากการทดลองฟังจะใกล้ๆ กับ Xperia X Performance ครับ คือเสียงถือว่าโอเค ไม่แย่ แต่ไม่เด่นครับ ยิ่งถ้าเอาไปเทียบกับแบรนด์อื่นที่มี DAC แยกจะฟังออกว่า Xperia XZ ยังสู้ไม่ได้ครับ
ในส่วนของซอฟต์แวร์และฟีเจอร์เกี่ยวเสียงนั้น Xperia XZ ก็มีฟีเจอร์หลายอย่างครับ พอจะลิสต์ออกมาคร่าวๆ ได้ตามนี้
- DSEE HX เป็นฟังก์ชัน Upscale ไฟล์เสียงที่ bitrate ต่ำให้ขึ้นมาใกล้เคียงกับไฟล์เสียง 96kHz/24bit
- ClearAudio+ เป็น profile เสียงของโซนี่เอง ที่จะเน้นให้ฟังเสียงร้องได้ชัดขึ้น
- Sound effects เป็นเมนูหลักที่เข้าไปพบกับการปรับ Equalizer, Surround sound สำหรับหูฟัง, S-Force Surround สำหรับสร้างเสียงเซอร์ราวด์ให้กับลำโพงสเตอริโอ
- Dynamic normalizer ตัวปรับเสียงให้ช่วงความเบา-ดังของเสียงให้น้อยลง เพื่อให้ได้ยินเสียงชัดครบทุกช่วง
- Automatic optimization ฟีเจอร์วิเคราะห์หูฟังที่เสียบกับเครื่อง โดยฟีเจอร์นี้จะมีการขอ permission อัดเสียงด้วย คาดว่าเป็นการวิเคราะห์สภาพเสียงรอบตัว แล้วปรับโทนเสียงให้เหมาะกับหูฟังเป็นรุ่นๆ ไป
- Noise canceling เมื่อใช้งานกับหูฟังอย่าง MDR-NC750 จะสามารถใช้ระบบ Digital noise canceling ในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้
- Wireless playback quality (LDAC) อันนี้เป็นฟีเจอร์การเล่นเพลงแบบไร้สายของโซนี่ ที่ใช้เทคโนโลยี LDAC ที่ใช้คลื่น 2.4GHz เข้ามาทำให้สามารถส่งไฟล์ความละเอียดสูงกว่า CD Quality (44.1kHz/16bit) สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุด 990 kbps ทำให้สามารถฟังเพลงไร้สายกับอุปกรณ์ที่รองรับได้ในความละเอียดสูงกว่า Bluetooth โซนี่เคลมว่าได้ใกล้เคียงกับคุณภาพ 96kHz/24bit ครับ
ฟีเจอร์อย่าง DSEE HX, Automatic optimization และ LDAC นั้นเป็นฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นอีกเอกลักษณ์หนึ่งของโซนี่ที่ใส่มาให้กับเรือธงเริ่มต้นตั้งแต่ Xperia Z5 และมาในปีนี้ก็ใส่มาให้กับ Xperia X ด้วย (น่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ราคาพุ่ง) แล้วก็ใส่มาให้ใน Xperia X Performance กับ Xperia XZ นั่นเองครับ
ในส่วนของลำโพงนั้น แนะนำให้ลองดูในคลิปรีวิวที่ทางเว็บเราเพิ่งอัพขึ้นไปน่าจะฟังได้ชัดอยู่ระดับหนึ่งครับ เสียงของลำโพงสเตอริโอของ Xperia XZ นั้นมีมิติที่โอเคเลย มีเสียงเบส กลาง แหลมครบ ถ้าถือฟังเองจะสัมผัสได้ถึงเบส แต่ไม่ได้จัดนัก ตามสภาพของเครื่อง แต่ข้อด้อยของลำโพงบน Xperia XZ ก็จะเป็นเรื่องของความดังที่อาจจะสู้กับมือถือของยี่ห้ออื่นไม่ได้นัก คือดังแค่ในระดับที่เปิดฟังคนเดียวในห้องแล้วฟังชัด แต่คนอื่นที่นั่งห่างออกไปจะรู้สึกว่าเบาแล้ว
ดูคลิปได้เลย ช่วงนาทีที่ 14.52
Camera
มาถึงช่วงสำคัญของการรีวิว Xperia XZ แล้ว เพราะว่าสิ่งที่ทุกคนจับตามอง Xperia XZ นั่นก็เพราะเรื่องพัฒนาการของกล้องที่สื่อต่างชาติหลายสำนักก็บอกว่าอยู่ในเกณฑ์ดีแล้ว ใน Xperia XZ นั้นโซนี่ยังคงใช้เซนเซอร์รับภาพเป็นตัวเดียวกันกับบน Xperia Z5 ก็คือ IMX300 ที่มีความละเอียดสูงสุด 25 ล้านพิกเซล แล้ว crop มาสำหรับการใช้งานจริงที่ 23 ล้านพิกเซล และยังได้เพิ่มในส่วนของ Laser Autofocus มาช่วยจับโฟกัสในสภาพแสงน้อย และเพิ่ม RGBC-IR Sensor มาช่วยวัดสีที่กล้องเห็น ให้มี White Balance ที่ถูกต้องและแม่นยำขึ้น
ตอนแรกผมค่อนข้างงงว่า Laser Autofocus นี่มันไม่ยิงออกมาหรือยังไง เพราะไม่เห็นมีแสงไฟออกมาเลย แต่ก็มาทราบว่ามันเป็นเลเซอร์ในช่วงแสงที่คนเรามองไม่เห็นครับ ก็เลยได้ลองเอากล้องมือถือนี่แหละ ส่องถ่ายกล้อง Xperia XZ ในที่แสงน้อยมากๆ เพื่อดูว่ายิงเลเซอร์ออกมาจริงมั้ย แล้วก็ได้เห็นสมใจครับ ดังคลิปวิดีโอข้างล่างนี้
ดู Laser AF ของ Xperia XZ จะเห็นเป็นสีขาวๆ เป็นลำๆ ออกมา
ซอฟต์แวร์กล้องบน Xperia XZ นั้นหน้าตาจะยังใกล้เคียงเดิมครับ แต่ก็มีความเปลี่ยนแปลงหลายประการอยู่เหมือนกัน ผมจะพูดถึงการใช้งานในส่วนต่างๆ ไปละกันครับ เริ่มกันที่โหมด Auto ที่โซนี่เรียกว่า Superior Auto ก่อนเลย ในโหมดนั้นไม่มีอะไรมาก ขึ้นชื่อว่า Auto ก็คือกดเปิดถ่ายเลย ไม่ต้องปรับอะไร เพราะตัวกล้องเองจะสามารถรับรู้ลักษณะของภาพถ่ายได้เองเลย แต่ก็ยังมีออปชันให้ปรับ White Balance และความสว่างได้โดยการจิ้มที่ Setting แล้วเลือก Brightness and color ก็จะปรับโทนสีและความสว่างได้
อีกหนึ่งจุดที่เป็นความใหม่สำหรับซอฟต์แวร์กล้องของ Xperia ก็คือการจิ้มโฟกัสและปรับแสงสว่างไปด้วย (ที่ชาวบ้านมีมาสักพักแล้ว) ก็จะเป็นอีกตัวที่ช่วยให้เราสามารถเลือกจุดที่ต้องการวัดแสงในภาพได้ออกมาแม่นยำและถูกต้องมากขึ้น โดยสามารถใช้ได้ทั้งในโหมด Auto และ Manual ครับ โดยถ้าเลือกเปิดเป็นปรับโฟกัสและความสว่าง ตัวกล้องจะปิดระบบ Object-tracking ที่เป็นแบบ Predictive ไป
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว มาพูดถึง Predictive Auto Focus สักหน่อยแล้วกัน หลังจากที่โซนี่โฆษณามาตั้งแต่ในรุ่น Xperia X เชื่อว่าบางคนอาจจะยังสงสัยว่ามันแตกต่างจาก object tracking ของเจ้าอื่นอย่างไรบ้าง เท่าที่ผมได้ทดสอบมาก็คือมันสามารถจำรูปร่างของวัตถุที่เราเลือกไว้ได้ครับ แม้ว่ามันจะโดนของอย่างอื่นผ่านตัดหน้า หรือขวางทางนานๆ ถ้ามันเลื่อนออกไป แล้วกล้องกลับมาเห็นวัตถุที่เราเลือกไว้ มันก็ยังจดจำและโฟกัสต่อเนื่องได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ได้กับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอครับ ถามว่ามันเวิร์คมั้ย ก็บอกได้ว่าระดับนึงครับ เพราะบางครั้งมันก็จับวัตถุขนาดเล็กๆ หรือไกลๆ ไม่ได้
คลิปนี้ผมลองวางเครื่องไว้แล้วให้ถ่ายวิดีโอโดยตั้ง predictive ให้จำหน้ากล่องไว้ครับ
ต่อกันที่โหมด Manual ที่สมกับการเป็น Manual มากขึ้นเยอะ เพราะบน Xperia XZ นั้นสามารถควบคุม Shutter Speed และปรับ Manual Focus ได้แล้วนั่นเอง โดยในส่วนของ Shutter Speed นั้นแอปกล้องของ Xperia XZ นั้นปรับได้อยู่ในช่วง 1/4000 ไปจนถึง 1 วินาที ไม่เยอะเท่าหลายๆ เจ้า แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้การถ่ายภาพแบบ Light trail ครับ
สำหรับระยะโฟกัสสั้นสุดของ Xperia XZ นั้นโซนี่ระบุไว้ว่าประมาณ 120 มิลลิเมตร หรือ 12 เซนติเมตรนั่นเอง แต่ข้อเสียตรงนี้ก็คือ Xperia XZ ยังไม่สามารถควบคุม Manual ISO ได้ เพราะหากปรับ Manual Shutter Speed / Focus แล้ว ISO จะกลายเป็น Auto ซะอย่างงั้น
พูดถึงฟีเจอร์และฟังก์ชันมาเยอะแล้ว มาเรื่องการถ่ายจริงๆ จังๆ เลยดีกว่า คำถามยอดฮิตคือ กดถ่ายช้ามั้ย ยังหมุนติ้วๆ อยู่หรือเปล่า คำตอบก็คือ ถ่ายไม่ช้าแล้วครับกดถ่ายต่อเนื่องได้รัวๆ เลย ส่วนการหมุนติ้วๆ นั้นขึ้นกับความละเอียดของภาพถ่ายครับ กล้องหลังของ Xperia XZ นั้นสามารถถ่ายได้ที่ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล (4:3), 20 ล้านพิกเซล (16:9), 8 ล้านพิกเซล (4:3 / 16:9) ถ้าถ่ายที่ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล ก็พอจะเห็นว่ามันหมุนชัดๆ แต่ถ้าเป็น 8 ล้านพิกเซลก็จะหมุนแป๊บเดียว หมุนไม่ครบรอบดีก็พร้อมกดเข้าดูแล้ว
เอาล่ะ คิดว่าน่าจะอ่านผมบรรยายเบื่อกันแล้ว มาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันเลยดีกว่าครับ ภาพทั้งเซตนี้ผมตั้งความละเอียดไว้ที่ 23 ล้านพิกเซล ซึ่งผมสังเกตว่าระหว่าง 23 ล้านพิกเซล กับ 8 ล้านพิกเซล ได้แสงสีไม่ต่างกันแล้ว ผมเลยลองอัดเต็มเหนี่ยวดูเพื่อเอาดีเทล ภาพที่อัพไว้จะถูกลดความละเอียดไปบ้างตามระบบของเว็บฝากภาพครับ
อีกฝั่งหนึ่งคือเรื่องของวิดีโอ ที่โซนี่ชูว่า Xperia XZ นั้นมาพร้อมกับระบบกันสั่นวิดีโอแบบ 5 แกน (5-axis video stabilization) ที่จะใช้งานในกรณีที่กล้องรับรู้ว่าเป็นการถ่ายวิดีโอแบบ Macro ส่วนการถ่ายวิดีโอในโหมดอื่นๆ ก็จะเป็นการกันสั่นแบบ 3 แกนเหมือนกับในรุ่นก่อนๆ เท่าที่ทดสอบถ่ายรูปมาก็เห็นว่านิ่งในระดับที่ดูโอเคครับ ไม่มีอะไรให้เล่นมากนัก ลองดูกันเลยดีกว่า
ทดลองเดินถ่าย ดูกันสั่น, การโฟกัส, สีสัน
แพนกล้องในอาคาร
ขึ้นเรือข้ามฟาก โคลงเคลงๆ ถ่ายออกมาเป็นยังไง *อันนี้ระวังดูแล้วมึนนะครับ*
ถ่ายแบบ Macro ดูกันว่ากันสั่น 5-แกน เป็นยังไง
นอกจากเรื่องการกันสั่นแล้วยังมีฟีเจอร์ลึกลับอีกหนึ่งที่โซนี่ไม่ได้โปรโมทเท่าไรนักก็คือถ้าหากมี MDR-NC750 ที่เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนมาเสียบตอนถ่ายวิดีโอละก็ สามารถใช้ไมโครโฟนที่ปกติเป็นตัวรับเสียงไว้ประมวลผลสำหรับตัดเสียง เป็นไมโครโฟนสเตอริโอได้ด้วย เหมาะกับการเสียบคาไว้ในหูแล้วอัดวิดีโอ เพราะจะได้รายละเอียดระยะของเสียงดีกว่าการถ่ายวิดีโอด้วยไมโครโฟนของตัวเครื่องเอง และใกล้เคียงกับเสียงที่ผู้ถ่ายได้ยิน
ใครที่จองเครื่องในช่วงวันที่ 14-19 ตุลา ที่ผ่านมาก็ได้หูฟังตัวนี้แถมไป สามารถเอาไปลองเล่นดูได้ครับ ผมได้ลองทำวิดีโอเปรียบเทียบเสียงมาให้ฟัง แนะนำให้ฟังผ่านหูฟัง in-ear จะแยกทิศทางเสียงได้เห็นความแตกต่างมากกว่าครับ
อัดด้วยไมโครโฟนเครื่อง
อัดด้วยไมโครโฟนของหูฟัง MDR-NC750
มาต่อกันที่กล้องหน้ากันบ้าง Xperia XZ มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล ที่ช่วยทั้งเรื่องของความละเอียดภาพ และมีการปรับให้การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยดีขึ้นอีกด้วย กล้องหน้าของ Xperia XZ นั้นสามารถใช้งาน Auto focus ได้
ตัวอย่างภาพ auto focus จากกล้องหน้า
โฟกัสกล่องด้านหน้า
โฟกัสแก้วด้านหลัง
โซนี่ยังได้เพิ่มการถ่ายภาพกล้องหน้าด้วยสัญญาณมือ Hand Shutter มาเพื่อช่วยให้สามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้น จัดท่าทางวางกล้องได้ง่ายกว่าเดิม เพราะ Xperia XZ วางตั้งกับพื้นเรียบได้ด้วย! มาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันครับ
จุดที่สังเกตได้ชัดคือการถ่ายภาพด้วยกล้องหน้ากลางแจ้งนั้นได้ภาพที่สีสันสดใสครับ Dynamic ของสีก็ออกมาค่อนข้างดีทีเดียวเลย รู้สึกแตกต่างจากกล้องของรุ่นก่อนๆ ชัดเจน
การถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้า เท่าที่ผมติดตามสื่อนอกเค้าระบุว่า Xperia XZ มีระบบกันสั่น 5 แกนเหมือนกันกล้องหลังด้วย ส่วน Xperia X Compact นั้นจะมีกันสั่นแค่ 3 แกนเท่านั้น (ใช้ชื่อ Intelligent Active เหมือนกัน, Xperia X Compact เหมือนกับ Xperia Z5) ตรงนี้ผมไม่สามารถหาสเปคทางการมายืนยันชัดๆ ได้ว่า 5 แกนจริงมั้ย แต่คิดว่าน่าจะจริงนะครับ เพราะจากการทดสอบจะพบว่าวิดีโอสามารถทำกันสั่นตอนเดินได้ดีกว่าใน Xperia X Compact และ Xperia Z5 ลองดูวิดีโอครับ
Battery
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้น โซนี่ไม่ได้โฆษณาเรื่องเวลาการใช้งานแบตเตอรี่แบบรุ่นก่อนๆ ครับ ไม่มีโม้เรื่องว่าใช้งานได้ต่อเนื้อง 2 วันอะไรแบบรุ่นก่อนแล้ว แต่หันมาโฆษณาในเรื่องของการยืดอายุการใช้ของเซลล์แบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น โซนี่ได้พูดถึงเทคโนโลยีเกี่ยวกับแบตเตอรี่บน Xperia XZ ถึง 2 ตัวด้วยกัน นั่นก็คือ Qnovo Adaptive Charging กับ Battery Care
Qnovo Adaptive Charging นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ร่วมกันระหว่าง Xperia รุ่นที่รองรับ (รุ่น Xperia X ขึ้นไป) กับอแดปเตอร์ชาร์จไฟของโซนี่ที่มีการออกแบบมาเฉพาะ ทำให้มีการปรับกระแสไฟที่ชาร์จให้เหมาะสม เพื่อยืดอายุของแบตเตอรี่
Battery Care เป็นเทคโนโลยีที่จะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของผู้ใช้ โดยสามารถตั้งค่าเปิดปิดได้ผ่านหน้า Settings ลักษณะการทำงานคือ ถ้าผู้ใช้เสียบชาร์จมือถือเอาไว้ในช่วงเที่ยงคืน และตื่นในช่วง 7 โมง เป็นระยะเวลาหนึ่ง มันจะเริ่มจดจำช่วงเวลาเอาไว้ แล้วปรับการชาร์จให้ช่วงกลางคืนที่เราหลับอยู่นั้นชาร์จไม่เต็ม เพื่อไม่ให้แบตเตอรี่เต็มตลอดเวลา และจะชาร์จเพิ่มจนเต็มในช่วงเวลาก่อนที่เราะจะตื่นนั่นเอง คาดว่าถ้าเราชาร์จไม่เป็นเวลามันอาจจะทำงานไม่ถูกครับ ฮ่าๆ
เทคโนโลยีที่ว่ามา 2 ตัวนี้ผมไม่สามารถทดสอบมาให้ดูได้เพราะเครื่องรีวิวนั้นไม่ได้ให้อแดปเตอร์มาด้วย และผมก็ไม่ได้คอยสังเกตว่ากลางคืนที่ชาร์จไฟ (กับ PC) ไว้นี่ Battery Care ทำงานเป็นอย่างไร มันเรียนรู้ไปบ้างรึยังก็ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่ามันคือเทคโนโลยีที่จะช่วยให้แบตอายุยาวขึ้นครับ
ยืดอายุแบตในระยะยาวแล้ว … หลายคนอาจจะคิดว่าแล้วยังไงล่ะ สนใจเวลาใช้งานในแต่ละวันมากกว่า โอเค ผมก็ได้ทดลองใช้ Xperia XZ มาทั้งแบบสบายๆ และรีดแบตจนหยดสุดท้ายมาแล้วครับ ก็มีมาแบ่งปันให้ดูว่าวันๆ นึงเนี่ยใช้งานได้นานแค่ไหน
อันสุดท้ายเป็นวันที่ผมกดกล้องรัวๆ คือช่วงที่กราฟแบตไหลฮวบๆ นั่นแหละครับ
โดยเฉลี่ยแล้ว Xperia XZ สามารถใช้งานได้ครบวันครับ เอาแบบใช้ครบๆ ไม่ว่าจะเป็น เล่นเฟส โซเชียล เล่นเว็บ อ่านข่าวออนไลน์ เปิด 4G LTE สลับกับ WiFi บ้าง กลับถึงบ้านค่ำๆ ดึกๆ ก็จะเหลือให้ราวๆ 30% ครับ
สำหรับบางสถานการณ์ที่ผมพบ คือการใช้อาคาร ไม่ได้เจอแดดเจออากาศร้อน ต่อ WiFi เป็นหลัก ก็พบว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นมาก ดูหนังฟังเพลงกันได้ยาวๆ ระยะเวลาของการใช้งานจอทำได้สูงสุดที่ราวๆ 6 ชั่วโมงเลยทีเดียวครับ โดยมีการตั้งค่า STAMINA ไว้ให้เปิดอัตโนมัติตอนแบตน้อยกว่า 25%
ฟีเจอร์ชื่อดังอย่าง STAMINA Mode ที่โซนี่ใส่มาช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ในระหว่างวันก็มีความเปลี่ยนแปลงใหม่ด้วยครับ คือมีโหมดให้เลือกแล้วว่าเมื่อเปิด STAMINA ไว้จะให้มีการจัดสรรพลังงานอย่างไร โดยมีทั้งหมด 3 แบบ คือ
- Battery time prefered ลดการทำงานแทบทุกอย่าง เพื่อยืดแบตให้นานสุดๆ
- Balanced power saving จัดสรรการใช้งานแบบกลางๆ ลด performance ลงมาหน่อย ปิดการใช้งานบางฟังก์ชัน ด้วยการลด performance อาจจะไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนักๆ
- Device performance prefered จำกัดการทำงานของบางฟังก์ชัน แต่ยังคงความแรงของเครื่องเอาไว้
แล้วก็ยังมีโหมด Ultra STAMINA ที่เรียกว่าเอาไว้รีดแบตเตอรี่จนหยดสุดท้ายด้วยการปิดฟังก์ชันแทบทุกอย่าง เหลือไว้เพียงการทำงานพื้นฐานของมือถือ เช่น การคุยโทรศัพท์ ข้อความ เหมือนๆ กับรุ่นก่อนๆ ครับ
จบไปแล้วครับสำหรับการรีวิว Xperia XZ มือถือเรือธงที่แท้จริงแห่งปี 2016 ของโซนี่ ถ้าเพื่อนๆ คนไหนยังมีข้อข้องใจในส่วนไหนสามารถสอบถามเข้ามาได้ครับ ถ้าตรงไหนตอบได้ก็จะตอบให้ ตรงไหนไม่แน่ใจก็จะลองสอบถามมาให้ครับ
Xperia XZ นั้น สำหรับคนที่จองเอาไว้จะเริ่มได้รับเครื่องในวันที่ 27 ตุลาคมนี้ (วันนี้นี่เอง!) แล้วก็น่าจะเริ่มวางขายหน้าร้านตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครับ ใครที่สนใจก็ไปลองหาทดลองเล่นที่หน้าร้านของ Sony Store ได้เลย หรือใครจัดมาแล้ว เล่นแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็มาบอกเล่าเพื่อนๆ สมาชิกคนอื่นฟังกันได้ครับ 😀
ละเอียดมากครับ
รวมๆเฉยๆไม่ว๊าววววววว
ออกเรือธงปีละ 2 รุ่นน่าจะทำโหดๆ นะครับ
โซนี่เค้าว่า XZ คือเรือธง ส่วน X Performance ไม่ใช่นะครับ
สรุปคือมีเรือธงรุ่นเดียว ฮ่าๆ
ส่วนตัวยังคิดว่าเปลี่ยนZ5 ไปXZ ยังไม่คุ้มเท่าไรครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ 🙂
Winner Forever
ดูแล้วก็ระดับกลางๆ ไม่มีด้านใดโดดเด่นเกินเจ้าอื่น แต่ก็ถือว่าครบเครื่อง
Z5P ไม่สั่น แต่ร้อน 555
และแบตไวมาก
ถ้า MyCAT 3G เร็วเท่าแบตลดนี่ เยี่ยมเลย
ดีไซด์เหมือนย้อนยุคยังไงไม่รู้ แต่ก็โอเคนะ ติดแค่หน้าจอเล็กไปหน่อยสัก 5.5-5.7 กำลังดี
ais ไม่มีโปรเลย
มีแล้วนะครับ
http://www.ais.co.th/hotdeal/
ส่วนตัวดีไซน์ไปใหญ่เลยไม่ชอบเห็นทีไรนึกไปถึง nokia รุ่นเก่าๆ (จำชื่อรุ่นไม่ได้) ดูโบราณยังไงไม่รู้ ซี่รี่ Z ยังสวยกว่ามากเลย อันนี้ยิ่งขอบบนขอบล่างเยอะมากกกกก..
ชอบอย่างเดียวคือระบบกันสั่น
ถ้าให้ RAM มาสัก 4 GB คงเป็นรุ่นที่น่าสนใจอยู่ กิน RAM เยอะไปหน่อย
RAM 3 GB กินเหลือ 1.1 GB รู้สึกไม่ค่อยต่างจากเครื่อง RAM 2 GB เท่าไหร่เลย
เหมือน mi3 เลย
สอบถามครับ เทคโนโลยี quick charge ที่รองรับ quick charge 3.0 นั้น อแดปเตอร์ที่ให้มาเป็น Quick charge หรือเปล่าครับ หรือต้องไปซื้อแยกเพิ่ม
ไม่แถมมาครับ อแดปเตอร์ที่แถมเป็นแบบธรรมดา อันที่เป็น QC 3.0 ต้องซื้อแยก
สำหับผม ผมว่า น่าเสียตังซื้อกว่าของผลไม้ถูกกัด 7 อีกนะครับ อิอิ
จากตอนแรกชอบมากแต่พอได้ติดตามอ่านคอมเม้นต์จากคนใช้จริงกลายเป็นไม่ชอบขึ้นเรื่อย ๆ
-ถ่ายรูปแป้ปเดียวกล้องร้อน -> ปิดตัว ปัญหานี้มันมีมาตั้งแต่ Z รุ่นแรก มันควรจะแก้ได้แล้วอะครับ
-ถ่ายวิดีโอ พอร้อนก็กระตุก EIS ทำงานมีปัญหาทันที
-เฟรมเครื่องเป็นวัสดุจำพวกพลาสติก อันนี้เงิบมาก นึกว่า Full metal body
-กล้องมีแค่ Semi-Auto แบบง่อย แต่ Sony ดันเขียนชื่อ Mode ว่า Manual
-และกลัวว่าจะยังคงมีปัญหาเรื่อง Coating เลนส์ลอกง่าย
อันนี้ผมพึ่งทราบเหมือนกันว่าปัญหานี้ยังคงอยู่จนรุ่น Z5 ส่วน X พึ่งออกมาได้ไม่นาน คงยังไม่มีใครลอกกัน มั้ง ?
พอได้ติดตามดูจริง ๆ พบว่าปัญหาเยอะเหมือนกันแฮะค่ายนี้
เท่าที่ผมใช้งานตลอด 1 อาทิตย์นี้ เปิดถ่ายรูปภาพนิ่งไม่เจอกล้องปิดตัวเลยนะครับ ความร้อนมีพออุ่นเกือบร้อน รุ่นเก่าอย่าง Z5 ปิดตัวจริงเพราะชิป Snapdragon 810 ครับ ร้อนมากส่วนวิดีโอพบเรื่องร้อนจนขึ้นเตือนว่าบางฟังก์ชันจะไม่ทำงาน รายละเอียดตามภาพข้างล่างครับ ไม่มีพูดถึงการหยุดทำงานของ EIS (3 แกน) นะครับ แล้วผมก็พบว่ามันยังกันสั่นโอเคอยู่ ซึ่งสาเหตุที่ผมเจอก็เพราะถ่ายวิดีโอกลางแดดจ้าแรงๆ เลย (วิดีโอแรกที่ผมแปะในรีวิว ส่วนของกล้อง) เรื่องเฟรมเครื่องเป็นพลาสติกนี่เข้าใจครับ เพราะรุ่นก่อนๆ เคยทำโลหะมาตลอดแล้วหันมาทำพลาสติกเลยดูดรอปลงไป แต่ในแง่ของความแข็งแรง เฟรมของ Xperia XZ นี่แข็งแรงมากครับ และอาจจะเป็นเรื่องของการดีไซน์ที่โซนี่ไม่เอาสายเสาอากาศมาพาดเครื่อง เลยมาลงเอยกันการใช้พลาสติกในหลายๆ ส่วน
ถ้าเป็นโลหะทั้งตัว สัญญาณมือถือจะผ่านไม่ได้ครับ เลยต้องทำเฟรมเป็นพลาสติก
ดูอย่าง ip ก็ได้ ต้องมีเส้นอุบาดๆ พาดไม่งั้นสัญญาณผ่านไม่ได้
ตรงแถบด้านล้างของด้านหลังเครื่องตรงนั้นคือแถบพลาสติกสำหรับเสาสัญญาณครับ ดังนั้นตัวเฟรมเครื่องควรจะใช้เป็นโลหะได้แล้วนะครับ
ผมว่า Sony ชอบกั๊ก ๆ เรื่องวัสดุอะครับ อย่างพวก Z5 นี่ก็เฟรมพลาสติก แล้วแค่เอาแผ่นโลหะบาง ๆ มาคลุมด้านนอกอีกที ไม่เหมือนแบรนด์อื่นที่เป็นโลหะขึ้นรูปทั้งชิ้นไปเลย
ปัญหากับความไม่ชอบส่วนตัว มันคนละเรื่องกัน อย่าเอามาปนกันจะดีกว่ามั๊ย
เช่น กล้องโหมด Semi-Auto นี่ไม่ใช่ปัญหาแน่นอน Features เค้ามาแบบนี้
Coating เลนส์ลอกง่าย คุณรู้ได้ไงว่าลอกง่าย มันอยู่ที่การใช้งานของแต่ละคน
ผมใช้ Z5P มา 11 เดือน โคทยังไม่มีริ้วรอยอะไรเลย
เฟรมเครื่องเป็นพลาสติกบางส่วนก็ไม่ใช่ปัญหา เค้า Design มาแบบนี้
แล้วเรื่องปัญหาเนี่ย อยากทราบว่ายี่ห้อไหนไม่มีปัญหาครับ ผมก็เห็นว่าเจอปัญหากันทุกยี่ห้อต่างๆกันไป
อย่างน้อยเครื่องมันก็ไม่ระเบิดง่ายเหมือน Note 7 ล่ะครับ
ผมพูดจากข้อเท็จจริงจากคนใช้จริง ดังนั้นมันไม่น่าจะเป็น "ความไม่ชอบส่วนตัว" นะครับ
คุณลองไปดูใน Xperia Thailand Club สิครับ โพล 2 ครั้งล่าสุดที่ถามว่า "อยากให้เรือธงรุ่นต่อไปของ Sony เป็นยังไง"
ผลโหวตเรื่องกล้อง Full Manual นี่มากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับเลยนะครับ
อันนี้ผมว่าคุณเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเกิน
Coating ลอกง่าย ผมรู้ เพราะผมอ่านโพสต์ อ่านคอมเม้นต์ในคลับทุกวันครับ และผมก็อยู่ในไลน์กลุ่ม Xperia ดังนั้นผมรู้ปัญหาของมันแน่นอนครับ
คนลอกกันเพียบ คุณเข้าไปดูในคลับตอนนี้เลยก็ได้ครับ โพสต์ที่คนบ่นเรื่องนี้ของวันนี้ยังอยู่บน ๆ อยู่เลยครับ
แล้วทำไมถึงต้องพาดพิงไป Note 7 ด้วยหว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลยครับผม
ผมว่าอันนี้คุณออกแนว "ติ่ง" แล้วอะครับ แตะต้องไม่ได้ ไม่ยอมรับความจริง
คือกล้องเค้าทำ Features มาแบบนี้ มันไม่ใช่ปัญหา เข้าใจยากตรงไหน
ถ้าบอกว่ากล้องปิดตัวเองเพราะร้อนก็ว่าไปอย่าง อันนี้อ่ะใช่ปัญหาแน่ ผมไม่เคยเถียงข้อนี้เลย
มันไม่ฟูลคุณไม่ชอบ หรือใครไม่ชอบ มันก็คือความไม่ชอบ มันไม่ใช่ปัญหา
ใครๆมันก็อยากได้ Full Manual ทั้งนั้นแหละ แล้วไอ้คำว่า Full Manual ที่ใช้ๆกับมือถือกันอยู่เนี่ย
พวกมีความรู้เรื่องกล้องแค่งูๆปลาๆยังไม่รู้เลยว่า มันไม่ Full จริงๆ เพราะมันยังปรับ F-Stop ไม่ได้
เรื่องโคทลอกเนี่ย เค้าใช้กันมากี่เดือน ลักษณะการใช้งานเป็นยังไง ปีนึงมีคนโพสกี่คน
คุณเคยเก็บสถิติมั๊ย สมมุติปีนึงมีคนโพสสัก 100 คน มันดูเหมือนเยอะ
แต่คุณลองเทียบกับจำนวนเครื่องที่ขายมั๊ยครับ มันอาจจะเป็นแค่ 1-2% ใครจะไปรู้
แล้วมันลอกง่ายไม่ง่ายมันต้องดูที่การใช้งานด้วย ไม่ใช่ใครโพสอะไรมาก็เชื่อไปหมด
เค้าอาจจะไม่ค่อยดูแลรักษาเครื่องก็ได้ ชอบเอามือถือไปใส่รวมกับของอื่นๆ ใช้ผ้าอะไรเช็ดก็ไม่รู้
ไม่งั้นเครื่องผมมันคงลอกไปนานแล้วไม่อยู่รอดมาเกือบปีหรอกครับ
เวลาฟังอะไรมาจากคนอื่นก็วิเคราะห์บ้าง ไม่ใช่เชื่อไปซะหมด
แล้วคุณตอบผมได้รึยังว่ายี่ห้อไหนรุ่นไหนไม่มีปัญหาอะไรเลย ?
ที่พาดพิง Note 7 เพราะมันคือตัวอย่างของปัญหาจริงๆจังๆไง
บูชากันทุกอย่าง สุดท้ายระเบิดตัวเองตาย ยี่ห้ออื่นก็มีปัญหาต่างๆกันไป ไม่ใช่ไม่มี
เวลาจะโพสติติงอะไรควรคิดบ้าง ว่ามันไม่มียี่ห้อไหนดีที่สุดหรอก
มือถือแต่ละรุ่นมันก็มีข้อดีข้อเสียต่างๆกันไป
ถ้าจะมาโพสแต่ข้อเสีย เค้าเรียกว่าพวก " อคติ " ไม่ต้องบอกนะว่าอคติทำให้เกิดอะไร
ผมก็ตอบตามหลักเหตุผล เพราะเบื่อพวกชอบติติงแบบไร้ตรรกะ
อะไรคืออะไรยังแยกแยะไม่ได้ แล้วยังมาว่าคนอื่นอีก โธ่ พ่อคุณ
แล้วกลุ่มที่ว่า พวก " ติ่ง " ค่ายอื่นไปสิงอยู่ก็เยอะนะ
ส่วนผมจะเป็น " ติ่ง " Sony ก็คงไม่หนักหัวใครมั้งครับ
ผมซื้ออะไรผมศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนซื้อทั้งนั้น เงินก็เงินผม
แล้วผมก็รู้ว่ามือถือยี่ห้ออื่นๆมันมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง ไม่เคยบูชาว่า Sony ดีที่สุด ไม่ต้องห่วง
ไม่เคยแนะนำใครให้ซื้อด้วยซ้ำไป
ไม่หนักหัวใครหรอกครับ แต่มันน่ารำคาญ คนเค้าพูดตามข้อเท็จจริง ทำตัวหัวร้อนเชียว แตะต้องไม่ได้เชียว แหมๆๆ
มันเป็นข้อเท็จจริงบางเรื่อง บางเรื่องก็จริง บางเรื่องก็ไม่จริง ผมถึงต้องออกมาเถียง
การที่เห็นคนอื่นเข้าใจเรื่องบางเรื่องแบบผิดๆ ผมว่าผมใช้เหตุผลอธิบายตรงไปตรงมานะ
หรือว่าตรงไหนผมไม่มีเหตุผลบอกได้ครับ
ผมใช้เหตุผลอธิบายแต่โดนโจมตีที่ตัวบุคคล ด้วยการพูดเสียดสี
คุณว่ามันเหมาะสมแล้วเหรอ ?
เห้ย …. นี่มันสังคมของการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือสังคมของการประชดประชัน ?
ผมว่าคุณต้องตีความคำว่าลอกง่ายใหม่นะ ถ้าลอกยากเวลามันเจอสาเหตุของการลอกมันควรลอกยาก คุณอาจดูแลเครื่องดีเครื่องเลยไม่เจอกับสาเหตุของการลอก เครื่องลอกยากกับเครื่องไม่เจอสาเหตุในการลอก มันต่างกันนะครับ
ผมเข้าใจที่คุณพูดนะ แต่มันไม่มีใครมา
นั่งขัด ลองเอาเล็บขูด ลองเอากุญแจขูด หรือ เอาน้ำล้างบ่อยๆ
เพื่อหาสาเหตุไงครับ มันเลยทำให้ไม่รู้สาเหตุ ว่ามันลอกเพราะอะไร
แล้วจะเอาอะไรมาตัดสินว่ามันลอก ยาก หรือง่าย
หรืออยากรู้แน่ชัด ก็ต้องทดสอบเทียบกับยี่ห้ออื่นๆด้วยวิธีเดียวกัน
อาจเป็นเพราะบางคนเห็นว่าเครื่องกันน้ำ เลยล้างน้ำบ่อยๆ น้ำคลอรีนมันก็ทำให้โคทลอกได้
ยี่ห้ออื่นไม่กันน้ำ หรือเพิ่งทำ คนไม่มีประสบการณ์เอาเครื่องไปล้างน้ำ
ก็เลยไม่ค่อยเจอปัญหารึเปล่า จริงๆดูจากการใช้งานของตัวเองก็น่าจะพอรู้
ตัวอย่างเคสของผมคือ Z2 โคทลอกประมาณ 1 ปี เครื่องโดนน้ำบ่อยมากๆ
เอาไปเล่นสงกรานต์ด้วย ติดฟิล์มบาง
Z5P เครื่องไม่เคยโดนน้ำ ไม่เคยล้างน้ำ ติดฟิล์มหลังแบบหนา (เว้นช่องเลนส์)
โคทมันเป็นแค่ฟิล์มเคลือบหน้าเลนส์ มันจะลอกไม่ใช่เรื่องแปลก
ขนาดเลนส์ตัวละ6-7หมื่น ที่ผมใช้มา 5-6ปี ผมก็ยังไม่เคยใช้น้ำยาอะไรเช็ดเลยนะ
เพราะรู้ดีว่าโคทเลนส์มันบอบบาง เอาน้ำยาเช็ดสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดอย่างเดียว
โทษทีครับ ของเมื่อวานสิไม่ใช่วันนี้
แต่ก็… ลองเข้าไปอ่านคอมเม้นต์ดูละกันครับ ว่าคนลอกกันเพียบแบบที่ผมบอกจริงมั้ย จะได้ไม่เอาไปคิดว่าผมมโนหรือใส่ร้าย
จากการใช้ Z1 Compact มานะครับ
-ถ่ายรูปกับถ่ายวิดีโอตัวเครื่องร้อนจริง (เมื่อเปิดกล้องเป็นเวลานานๆนะครับ) และเคยถ่ายวิดีโอนานสุดประมาณ 50 นาที ตัวเครื่องร้อนแต่ไม่มีการปิดตัวแต่อย่างใดและไม่มีอาการกระตุก
-เรื่องวัสดุพลาสติก อันนี้ผมเฉยๆ จะเป็น metal body หรือพลาสติกก็ได้ เครื่อง Z1 Compact ข้างหลังก็พลาสติก แต่คนรอบข้างก็บอกสวยมาก
-กล้อง ผมกลับมองว่าใช้ง่ายนะ (ไม่ได้โปรกล้อง) เพียงพอสำหรับผม แต่ถ้าคนเล่นกล้องเก่งอาจจะไม่ชอบมั้งครับ 555
-Coating เลนส์ ผมใช้ Z1 Compact มา 2ปีครึ่ง ใช้แบบไม่ใส่เคส ยังไม่มีการลอก ผมเลยคิดว่าน่าจะอยู่ลักษณะการใช้มือถือมากกว่า (คิดว่านะครับ)
ประทับใจกับค่ายนี้ครับ คิดว่ารุ่นถัดไปก็จบที่ Xperia นี่แหละ แต่ยังไม่เปลี่ยนเร็วๆนี้ 5555
ใช้ Z2 มาก็ 2 ปีละ ก็ไม่เห็นมีปัญหาเรื่อง Coating Len เลยคับ
ส่วนด้านข้างเฟรมพลาสติก ก็ยอมรับว่าไม่หรูเท่าไร แต่ถ้าคุณจะเอา metal หมด แล้วเอาเสาอากาศมาพาดไว้บนฝาหลังเหมือนหลายๆยี่ห้อ ผมไม่เห็นเจ้าไหนทำสวยเลยซักเจ้า แถมอีกอย่างพลาสติกก็มีหลายเกรด อาจจะเอาเกรดเยี่ยมมาก้ได้ รวมถึงการประกอบด้วย
มันก็เหมือนกับ NFC ที่ย้ายไปไว้ด้านหน้าละครับ ก็ไม่มีใครชอบ แต่ทำไงได้เพราะมันมีปัญหาเรื่องสัญญาณ
Z5 ผมมีปัญหาหนักกับเรื่องความร้อนเลยครับ กล้องใช้ได้แปปเดียว ขนาดถ่ายรุปอย่างเดียวยังร้อนจนปิดตัวเลยครับ แล้วเวลาเล่นเกมส์ก็ร้อนจนเกมเด้งตลอดเลยครับ
สุดท้ายผมจำใจยอมถอย S7 มา ไม่มีปัญหาเลยครับ Z5 ผมเลยนอนในเก๊ะที่บ้าน จะซื้อ Sony รุ่นใหม่ไม่กล้าเลยครับ ถ้ายังใส่ Snap มาอยู่
ถ้า Z5 ปัญหาเรื่องความร้อนมันจะหนักอยู่แล้วครับ เพราะ Snap 810 มันร้อนอยู่แล้ว
ใครเอา CPU ตัวนี้ไปใช้ ร้อนทุกยี่ห้อนะ ใครจะซื้อมาใช้ต้องคิดให้ดีๆ
แต่ XZ ตัวนี้ใช้ 820 เรื่องการเล่นเกมผมว่าร้อนน้อยกว่า Z5 แน่นอน
ผมใช้ Z5P เล่นเกมเกือบปี บอกเลยว่าแทบจะทั้งวันทั้งคืน ไม่เคยเจอปัญหาเกมเด้ง
แต่ …. อากาศต้องถ่ายเทตลอด เพราะมันร้อนจริงๆจังๆ
ส่วนเรื่องกล้องร้อนมันไม่ได้ร้อนที่ CPU อย่างเดียว
แต่ Sensor มันมี Resolution สูง การทำงานมันหนักกว่า Sensor ที่ Resolution ต่ำกว่าแน่นอน
แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าเค้ายังใช้ชิป BIONZ Mobile อยู่รึเปล่า ชิปตัวนี้อาจจะเป็นตัวปัญหา
เพราะยี่ห้ออื่นเค้าใช้ CPU ประมวลผลเอา แล้วที่ว่ามันยังปรับ Manual ได้ไม่เหมือนยี่ห้ออื่นเพราะ
Interface ของ BIONZ มันไม่รองรับมากกว่า ขนาดใช้ App มาแฮคยังปรับได้ไม่เท่าไหร่เลยครับ
ขอบคุณ ผู้รีวิว ละเอียดมากๆ ชอบครับ
ชอบมากนะ ขอบอก
XZ ตัวนี้ น่าจะมีปัญหาเรื่องความร้อนเวลาใช้งานกล้องอยู่นะครับ (ขออนุญาตแปะลิ้งค์ครับ https://www.youtube.com/watch?v=ivpDtmcwD3A)
ขอบข้างทั้งสองด้านหนามาก ดูโบราณ ไม่สมัยนิยม รุ่นล่างของ Sony เอง ยังขอบบางกว่าเลย ไปจับตัวจริงมาแล้ว
รุ่นใหม่นี้ความร้อนเป็นยังไงบ้างครับ ซื้อ Z5 มาแบบไม่กลัวร้อน สุดท้ายผิดหวังมากๆเลยครับ ร้อนมากๆ ผมต้องใช้กล้องถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูป Outdoor บ่อยๆ Z5 ใช้ไม่ได้นานเลยครับ แล้วเวลาร้อนแบตไหลเร็วมากๆครับ ที่เซ็งสุดคือเวลาเปิดเกมส์พร้อมชาจไฟ ร้อนแบบเครื่องค้างตลอดเลยครับ แล้วก็อีกไม่ยอมแถม Quickcharger มาอีก ตัวใหม่นี่ไม่ทราบเป็นยังไงบ้างครับ
XZ ถ้าถ่ายรูปกลางแจ้ง ถือว่าอุ่นๆ ครับ ไม่ถึงขั้นร้อน คิดว่ารู้สึกชัดเพราะฝาโลหะมันระบายออกมาด้วย แต่ถ้าเอาไปเทียบกับ Z5 ละก็ เรียกว่าเย็นอาจจะได้เลย เพราะผมก็ถือ Z5 อยู่เหมือนกัน 555
ตลอดช่วงที่ผมลองใช้ ยังไม่เจอเคสกล้องปิดตัวเลย เจอแต่เตือนเรื่องความร้อนตอนที่ถ่าย "วิดีโอ" กลางแจ้งแดดจัดๆ แค่นั้นครับ ถ่ายภาพนิ่งไม่เจอปัญหาระหว่างช่วงที่ใช้ครับ
ในกรณีของการชาร์จไปเปิดเกมไปไม่ได้ทดสอบครับ เพราะเครื่องรีวิวไม่มีอแดปเตอร์มาให้ลอง เลยได้แต่เสียบชาร์จผ่าน USB ที่คงใช้อ้างอิงไม่ได้เพราะกระแสไฟต่างกัน
อย่าหาว่างั้นงี้เลยครับ https://www.youtube.com/watch?v=DW2Zkz_zl-o สำหรับสาวกที่บอกว่าซอฟแวร์โซนี่ดีแรม3ก็พอแล้ว บลาๆๆๆ 3ยังดีกว่า4ของแซมซังบลาๆๆๆ ผมว่าคลิปนี้เห็นชัดนะ ไม่ใช่ว่าโจมตีนะ แต่รำคาญสาวกอวยอะ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหนนะ เพราะผมใช้ htc10 แล้วก็เรื่องที่ข้างบนบอกมีสายพาดให้อุบาตเครื่องผมว่ามันแล้วแต่คนชอบนะครับ
จากคลิ๊ป ความเร็ว XZ ในการโหลด ดีกว่า S7 Edge ทั้ง App และ เกม
แสดงว่า Memory Transfer Rate ของ XZ ดีกว่า S7 Edge
แต่การใช้งานจริงเฉพาะแอ๊พ หรือแค่ 2-3 แอ๊พ สลับไปมา 2 เครื่องนี้น่าจะทำได้ไม่แตกต่างกัน
แต่ถ้าเปิดแอ๊พเยอะๆ XZ Multi-Task สู้ S7 Edge ไม่ได้ ตามคลิ๊ปครับ
ปล.เปิดทิ้งไว้เยอะขนาดนั้นระวังเปลืองแบต
ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะมีคนเปิดไว้เยอะขนาดนั้นครับ จนกระทั่งเจอเพื่อนผม 5555555อึ้งเลย
คนแบบที่คุณว่าก็มีครับ ผมเข้าใจ อย่างบางคนติดนิสัยมาจาก iPhone ก็จะเป็นแบบนี้
เมื่อก่อนผมก็เคยทำ แบบเล่นเกมอยู่แล้วกดออกไปทำอยางอื่น แล้วลืม
ปรากฏว่าใช้ๆไปแล้วเครื่องร้อนผิดปกติและแบตก็หมดเร็วขึ้น เลยเข้าใจว่าเพราะเกมมันยังทำงานอยู่
หลังๆมาผมเลยขยันเคลียร์ App บ่อยๆ
เอาจริงๆ RAM 3GB หรือ RAM 4GB มันต้องดูว่าเหลือให้ใช้จริงเท่าไหร่
อย่างเมื่อก่อน Z2 RAM 3GB เหลือ 1.2-1.3GB แต่ Note 4 3GB เหลือ 500-700MB
เพราะ Note มัน Standby Host Software ไว้หลายอย่าง
แต่พอ SS เพิ่ม RAM เป็น 4GB เลยทำให้เหลือ RAM 1.5GB ++ เลยทำให้ Multi-Task ทำได้ดีกว่า
ส่วนตัวผมไม่ได้สนับสนุนเลยที่จะให้ใช้ RAM แค่ 3GB เพราะมันน่าจะอยู่ได้แค่อีกปีเดียว
อนาคตต่อไป Android 7.0 หรือเวอร์ชั่นหลังๆน่าจะทำ Multi-Windows ได้
นั่นแหละจะเป็นสงครามของ Multi-Task จริงๆจังๆ RAM ต้องเหลือเยอะพอให้ทำงานได้หลายๆ App
หรืออยากเปิด 2 เกมเล่นพร้อมกันก็ต้องทำได้ครับ
แต่ถ้าถามว่าสำหรับตอนนี้ RAM 3GB มันพอสำหรับการใช้งานทั่วๆไป
นอกซะจากว่าคุณคิดว่าใช้งานหนักกว่าปกติ
เช่นเล่นเกม 2-3 เกม วิดีโอคอล แล้วไม่อยากสลับไปมาให้มันโหลดใหม่
ผมก็คิดว่าควรมองหาเครื่องที่ RAM เยอะกว่านี้นะ
ปล. รุ่นนี้ผมไม่ซื้อนะ ส่วนตัวผมก็รอ RAM 4GB ขึ้นไปครับ เพราะตอนนี้ Z5P, Z2 ยังใช้งานได้ดีอยู่
และคิดว่าปีหน้า Sony ต้องออก RAM 4-6GB มาแน่นอน
6นี่หมดหวังครับ 55555
ดราม่า กำลังมันส์!!!
เรื่องรูปทรง ความสวยมันเทสใครเทสมันนะ ก็เหมือนรถนั่นแหล่ะ บางคนชอบบอดี้ของดาวสามแฉก บางคนชอบใบพัดฟ้า หรือบางคนชอบแตกต่างก็เสือกระโดด
ไม่น่าเชื่อว่าคนทำการทดสอบขูดหน้าเลนส์
ลองดูเอาเองละกันว่ามันทนประมาณไหน
ส่วนตัวผมว่าเม็ดกรวดน่ากลัวกว่าพวกโลหะพวกนี้เยอะครับ
https://www.youtube.com/watch?v=_AavD2OChPI
มันยังมี Small Apps ใหมครับ
สอบถามครับ
ตอนแรกว่าจะซื้อ xperia xz ที่จัดโปรเหลือ 16,990/17,990/18,990 บาทพ่วงโปรของทั้ง3ค่าย แต่เหลือบเห็นโปรใหม่ของ xperia x เหลือ 8990฿ เลยลังเล เลยอยากทราบว่าด้วย spec ที่ต่างกันตัวไหนน่าสนใจครับ เน้นกล้องถ่ายงาน ใช้งานsocial ดูฟุตบอลผ่านมือถือ ไม่เกม และใช้ยาวๆคับ ขอบคุณครับ (เทียบกับhuawei p9ภาพถ่ายก็สวยราคาโปร 10,900฿)