ยั่วน้ำลายแฟนคลับไปได้ปีนิดๆ ในที่สุด Asus ก็เปิดตัวมือถือแปลงร่างได้ตัวแรกของโลก Asus Padfone อย่างเป็นทางการแล้ว และนับเป็นมือถือแอนดรอยด์เครื่องแรก นับตั้งแต่แยกทางกับ Garmin ไปเมื่อต้นปี 2011 เลยนะ

มาช้าทั้งที ก็ต้องมีการรีดีไซน์เครื่องใหม่ให้บางลง แถมสเปคก็เข้าขั้นอลังการดังนี้เลย

  • จอ 4.3 นิ้วแบบ Super AMOLED ความละเอียด 960×540 พิกเซล
  • ซีพียู Dual Core Qualcomm MSM8960 ความถี่ 1.5 GHz
  • รันระบบปฏิบัติการ Android Ice Cream Sandwich
  • รองรับสามจีความถี่ 900/2100MHz ความเร็วสูงสุด 21Mbps
  • มีสามรุ่นความจุตั้งแต่ 16 – 64GB (ใส่ microSD เพิ่มได้) แรมมาตรฐาน 1GB
  • กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED รูรับแสงกว้าง f2.2 กล้องหน้า VGA
  • ตัวเครื่องบางเพียง 9.2 มม. มีแบตเตอรี่ 1,520 mAh
  • ตัวเครื่องหนัก 129 กรัม

เกริ่นมาตั้งแต่แรกแล้วว่ามือถือรุ่นนี้มันแปลงร่างเป็นแท็บเล็ตได้ ด้วยอุปกรณ์เสริมที่ชื่อว่า “Tablet Frame” ที่เพิ่มขนาดหน้าจอเป็น 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1,280×800 พิกเซล และยังเพิ่มสเปคมากกว่ามือถือเล็กน้อยดังนี้

  • เพิ่มกล้องหน้าจาก VGA เป็น 1.3 ล้านพิกเซล
  • เพิ่มแบตเตอรี่ขนาด 24.4Whr
  • เพิ่มพอร์ตเชื่อมต่อ micro USB และ micro HDMI
  • ตัวเครื่องหนาขึ้นเป็น 13.65 มม. และหนัก 724 กรัม
  • สามารถใส่คีย์บอร์ดด็อกกิ้งเหมือนที่เห็นในแท็บเล็ต Transformer รุ่นอื่นได้

สนนราคาของเจ้ารุ่นนี้ยังไม่มีประกาศออกมา แต่จะวางขายในช่วงเดือนเมษายนนี้ ว่าแล้วก็ไปดูแฮนด์ออนกันก่อนเลย

<!–

นอกจากมือถือแปลงร่างแล้ว ยังมีอีกรุ่นนึงที่เปิดตัวพร้อมกันด้วยนั่นคือ Asus Transformer Pad 300 (ชื่อยาวจริง) แท็บเล็ตราคาถูกที่ลดสเปค วัสดุลงมาจาก Transformer Prime นั่นเอง

สเปคโดยรวมแล้วใกล้เคียงกับ Prime แต่ลดมานิดหน่อยดังนี้

  • จอ 10.1 นิ้วแบบ IPS LCD ความละเอียด 1,280×800 พิกเซล
  • ซีพียู Quad Core (4+1) NVIDIA Tegra 3 ความถี่ 1.5 GHz
  • รันระบบปฏิบัติการ Android Ice Cream Sandwich
  • ความจุ 16GB (ใส่ microSD ได้) แรม 1GB
  • มีกล้องหลัง และกล้องหน้า
  • ตัวเครื่องหนาขึ้นเป็น 9.9 มม. และหนักขึ้นเป็น 635 กรัม
  • วางขายรวดเดียวสามสี แดง น้ำเงินเข้ม และขาว

ราคาของ Transformer Pad 300 จะถูกกว่า Prime ประมาณ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ เหลือ 399 ดอลลาร์สหรัฐฯ และสามารถเลือกใส่มอดูล 4G ได้ด้วยหากต้องการ

ท่าทางทีปีนี้ Asus ยังคงนโยบายแท็บเล็ตตะลุยโลกเหมือนเดิมแฮะ

Source: Anandtech, Anandtech, Engadget, Engadget