โลกหมุนไปเร็ว ผ่านไปเพียง 20 ปีประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยอีกครั้งหนึ่ง เพราะสมัยนั้น Microsoft ได้กินรวบตลาด Desktop OS อย่างเบ็ดเสร็จ เหลือให้ Mac OS กินตลาดได้น้อยมาก ไม่ถึง 10% และก็ยังคงเป็นแบบนั้นมาจนถึงทุกวันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวก็เกิดขึ้นอีกแล้วกับตลาดมือถือ เมื่อ Android กินรวบอย่างเบ็ดเสร็จในตลาดนี้เป็นที่เรียบร้อย แซง Apple ไปอย่างขาดลอย โดยล่าสุด Android กินเค้กไปได้ 72.4% ในขณะที่ iOS มีอยู่ 13.9% เท่านั้น (จากผลสำรวจของ Gartner)
โดย Eric Schmidt ออกมาประกาศความสำเร็จว่า “นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มาก สเกลเดียวกับที่เคยเป็นเมื่อ 20 ปีก่อน” นั่นแปลว่า Android จะกินตลาดมือถือไปอีกนาน และอาจจะเปลี่ยนชีวิตของคนยุคถัดไปไปเลยก็ว่าได้ สำหรับเทคนิคที่ทำให้ Android ประสบความสำเร็จอย่างเช่นทุกวันนี้ Schmidt บอกว่าเป็นเพราะ “กลยุทธ์หลักของ Android ในการเป็นระบบเปิด ที่ส่งให้ผู้ผลิตมือถือไปทำต่อเองได้”
จากนี้คงเป็นจุดเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดเจนของตลาดมือถือ iOS ก็จะยังมีคนใช้อยู่เพราะมันมีจุดแข็งของมัน แต่ Android ก็จะยังเติบโตเรื่อยๆและกินตลาดไม่หยุด สุดท้ายคงจะเห็นแบบเดียวกับตลาดคอมพิวเตอร์ที่ Windows กินตลาดแบบเบ็ดเสร็จ ทิ้ง Mac OS X แบบไม่เห็นฝุ่นนั่นเอง
Source: Bloomberg via Android Central
ของดีก็คือของดี ไม่ต้องบอกว่าดียังไง
ถ้าใช้ดีก็จะเกิดการบอกต่อเอง
เช่นกัน ของไม่ดีคุยให้ดียังไง ใช้ไม่ดีก็ไม่เกิดการบอกต่อเช่นกัน 🙂
Android ทำให้เห็นแล้ว
ผมว่าน่าจะต้องรอดีอีกซัก 2 -3 ปี
เพราะว่าตอนนี้มี wp8 กับ bb10 ต่างจากตลาดคอมที่แข่งกันแค่ 2 เจ้า
ปล. แต่เดี๋ยวนี้ mac ก็ขายดีขึ้นนะ (รึเปล่าหว่า???)
ดูแค่ในไทย ก็ดีขึ้นครับ
คุณอย่าว่าคนชาติเดียวกันว่าบ้าวัตถุ เน้นค่านิยมมากกว่าการใช้งานสิครับ
(ผมพูดเองทั้งนั้นนี่หว่า)
ที่ขายดีขึ้นเพราะว่าคนเห็นความดีของ mac os มากขึ้นมากกว่า
ในยุคแรกๆที่แข่งกันเป็นยังไงบ้างผมไม่รู้
รู้แต่ว่ายุคนี้ windows ไวรัสค่อนข้างเยอะมาก
สาเหตุหลักก็มาจากคนใช้โปรแกรมผิดลิขสิทธิ์
mac os ตอนนี้มจึดเด่นคือไวรัสน้อยกว่ามาก แต่ในบางกรณีก็ทำงานลำบาก
เพราะโปรแกรมส่วนใหญ่มักใช้ .exe ซึ่งแมคมันอ่านไม่ออก
ซึ่งแน่นอนว่า พอคนเยอะจนถึงในระดับหนึ่ง มันก็ต้องมีพวกโปรแกรมเมอร์มาเขียนไวรัสอยู่แล้ว เพื่อที่จะมาแฮคข้อมูลหรืออะไรก็แล้วแต่
แต่แอปที่เปิดให้โหลดใน appstore ส่วนมากก็จะผ่านการกรองจาก apple อยู่แล้ว เลยค่อนข้างปลอดภัย แต่ตรงนี้เดี๋ยว microsoft ก็คงตามทัน เพราะใน W8 ก็เริ่มมีระบบ store เข้ามาแล้วเหมือนกัน
อย่าลอยตัวมาก จนโดน WP กินกลับละกัน ไม่งั้นหนาวนะขอบอก
เดี่ยวไวรัสก็ระบาด กลายพันธุ์ แพร่พันธุ์ มากขึ้นเรื่อยๆสิครับ TT
ในแง่ผู้ใช้ยังไง iOS ก็แพ้แหละครับ Android เล่นมาตั้งแต่ Set-top box, ทีวี, ตู้เย็น, เครื่องซักผ้า และมือถือแท็บเล็ตอีกเป็นสิบๆ แบรนด์ แต่ในแง่รายได้ ตอนนี้ iOS ที่คนใช้น้อยกว่า ก็ยังสร้างรายได้ให้กับผู้ให้บริการต่างๆ มากกว่าอยู่ดี ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่ากลุ่มผู้ใช้ที่น้อยกว่า ถึงสร้างรายได้มากกว่ามากๆ ได้ แต่อนาคต Android ก็คงตีตื้นขึ้นมาได้จากผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
iOS ก็จะถอยไปอยู่ในจุดเดียวกับแมค คือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม มีรายได้เป็นของตัวเอง
และขอต้อนรับสู่ยุคสงครามระหว่างแอนดรอยครับ หลังจากนี้จะเกิดการแบ่งก๊กออกจาก Google กูเกิ้ลจะยังคุมอำนาจใหญ่อยู่ แต่มีอีกหลายกลุ่มที่จับมือกันแบ่งแอนดรอยออกมา อาจจะเป็นซัมซุงที่ทำ Galaxy OS หรือ Amazon ที่ใช้ Android แต่ไม่พูดถึงแอนดรอยอยู่แล้ว
ประวัติศาสตร์จะวนซ้ำอีกครั้ง
ผมรับงานออกแบบนะ แต่ผมใช้pc สำหรับ mac ผมว่ามองเป็นพวกสร้างภาพมากกว่า ต้องการความหน้าเชื่อถือ ผมออกแบบสิ่งพิมพ์ ออกแบบตกแต่ง
มองว่าเป็นการสร้างภาพมันก็ไม่ใช่เสมอไปนะคะ อย่างเราก็ทำงานออกแบบ อยู่โรงพิมพ์ การที่เค้าเลือกใช้เครื่อง mac ก็เพราะว่าที่นี่ทำงานเกี่ยวกับระบบสี CMYK ซึ่งระบบของ mac หน้าจอก็ทำงานได้ดีกับระบบสีนี้ดี ต่างจากหน้าจอของ PC ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ RGB ในทางโรงพิมพ์เลือกใช้สีแบบ CMYK เลยต้องใช้หน้าจอแบบ mac ค่ะ อย่างถ้าเอาภาพจาก PC มาลงเครื่อง mac สีมันจะแตกต่างกันค่ะ …. ตามระบบและโรงพิมพ์ค่ะ…
+1 ครับ
อันนี้ไม่เกี่ยวกับใช้ Mac หรือไม่ใช้ หลายร้านใหญ่ๆ ที่ผมเคยไปส่งงานเพื่อออกแบบสิ่งพิมพ์
ใช้ PC กับจอ Monitor LED ธรรมดาตัวละ 2-3 พัน แบบไม่ได้ calibrate หน้าจอด้วยซ้ำ งานที่ออกมาก็ไม่ต้องคิดล่ะว่ามันจะมีคุณภาพหรือเปล่า อิอิ
สี เอาหน้าจอมาวัดไม่ได้อยู่แล้ว จอแต่ละยี่ห้อ มันมีโปรไฟล์สีของมันมา 3 ยี้ห้อ สีไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ส่วนจอ CMYK ของ Pc ก็มีขาย เครื่องพิมพ์สมัยใหม่ มันมี rip คุมสีให้ตรงกับไฟล์งานอยู่แล้ว จะผิด จะเพี้ยน ไม่เกิน 5% ^^
ปล.ใช้ imac ฝุ่นเข้า เครื่องร้อน พานจะเพี้ยนเอา คนนั่งทำงานหน้าจอ imac เหงือแตกท้วมตัว แกะซ้อมเองก็ไม่ได้
+1 ช่วยเสริมให้นะครับ
ผมทำรูปภาพอยู่ แม้จะเป็น mac ก็ต้อง calibrate จอเพื่อให้ได้ความเที่ยงตรง ..
แล้วทำไมยังต้องใช้ mac เอา PC มา calibrate ก็ได้
ได้ครับ แต่จอมันยังแสดงสีได้ไม่ดีเท่า mac นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม พวกบรรดาคนทำรูป ถ่ายรูป ตากล้องแบบผมถึงซื้อ imac กัน เพราะเป็นจอ S-IPS ซึ่งแสดงผล ให้สีเที่ยงตรงได้ดี และราคาจอแบบนี้ จะซื้อมาต่อ PC ก็ไม่ใช่ถูกๆ
ทำไมต้อง IPS จอสองสามพันไม่ได้รึ …. ลองดูหน้าจอคอมตัวเอง แล้วเปลี่ยนตำแหน่ง มุม มองเฉียงๆดู สีมันจะเพี้ยนไปเลยเรื่อยๆตามตำแหน่งนั่ง ผมทำรูปลำบากครับ แค่ สีเพี้ยนนิดเดียว บางเว็บก็ตีกลับรูปผมแล้ว
(แฝดของจอ imac 27 คือ Dell Ultrasharp U2711 ซึ่งราคาแตะสองหมื่นแถมดีไซน์แบบนี้ ซื้อ mac ดีกว่า -*-)
***** แต่จอ ของ macbook pro ธรรมดา กับ macbook air ยังเป็น TN-Panel สีสันก็ทั่วๆไปเหมือนจอถูก เพียงแต่ผ่านการปรับสีมา (ส่วนตัว Macbook pro retina เป็น IPS เหมือน imac) ถ้าซื้อมาทำงาน ขอ imac เท่านั้น
—- IPS ถูกๆเดี๋ยวนี้มีแล้วครับ แต่สีที่แสดง (colour gamut) ได้ยังสู้พวก imac ไม่ได้ พูดถึง colour gamut เดี๋ยวจะยาวเพราะมีเรื่องสี Adobe RGB // sRGB อีก …. เอาเป็นว่าในเรื่องจอภาพ ซื้อ Mac กับ PC ….. mac มันจบมากกว่า
พอละเด๊่ยวจะยาว -*-
แสดงว่าอาจจะยังไม่เคยเห็นจอคุณภาพดีๆของPC แนะนำลองไปดูของ Dell UltraSharp ทำงานแบบ AdobeRGB
ความละเอียดของสีระดับ พันล้านสีไม่ใช่16ล้านสีนะครับ อยากให้ไปลองดูก่อนแล้วจะรู้ถึงความสมจริงของภาพเหมือนมองออกหน้าต่างเลย ราคาจอของmacแพงกว่าอีกแต่คุณภาพกลับสู้ไม่ได้เลย(จอMacดันเป็นจอกระจกอีกทำงานนานๆหรือเพ่งดูรายละเอียดสีหรือตัวอักษรปวดตามากเหมาะเอาไปดูหนังเล่นเกมส์ซะมากว่า)
Apple แทบไม่ได้ผลิตอะไรเลยแค่ออกแบบผลิตภัณฑ์แล้วบวกแนวคิดเฉยๆ(ยี่ปั๊ว+DIY) ฉะนั้นของทุกอย่างที่ซื้อจากเขาจะบวกราคาไปเยอะมาก(เพราะซื้อมาขายต่ออีกทอด)แค่เข้าไปซื้อRamหรือฮาร์ดิสบวกราคาไปซะเกือบพันทั้งที่ไม่ได้แตกต่างอะไรจากข้างนอกที่เค้าขายกันเลย(เกือบเดินออกจากประตุหน้าร้านไม่ได้ติดเขาที่งอกออกมา)
ที่บ่นๆมาแค่อยากบอกว่าจิงๆเจ้าอื่นที่ทำแบบappleก็มีเยอะ(HP,Dell,Acer)แต่เค้าก็ไม่ได้บวกอะไรมากมายแค่พออยู่ได้รวมถึงแถมมี Service แบบถึงบ้านมาให้ด้วย
การซื้อของบางทีก็แสดงฐานะของผู้ซื้อหรือไม่ก็ปัญญาของผู้ซื้อ(แล้วแต่มุมมองและความจำเป็นในขณะนั้น)
*
บน Mac มันจูนสีได้ง่ายกว่าเยอะครับ บน PC ก็ทำได้ แต่ต้องเลือกจอมาใช้ดีๆ หน่อย เพราะงานพิมพ์สีสำคัญมาก มันจะมีผลต่อความ "น่าเชื่อถือ" ของผู้ออกแบบ
ไม่ใช่สร้างภาพหรอกครับผมว่า OSX ทำออกมาได้เหมาะกับงานพวกนี้มากกว่ารวมถึงงานอื่นๆด้วย
โดยรวมก็ออกแบบมาให้ผู้ใช้ ใช้ง่ายได้สดวกที่สุดมากกว่าเยอะครับ
แต่คงไม่แปลกที่คุณจะคิดแบบนี้เพราะเมื่อก่อนผมก็เป็น แต่พอผมมีความจำเป็นต้องใช้มันมากขึ้นในช่วงหลัง ทำให้รู้ว่ามันดีกว่าในหลายๆจุดจริงๆ ลืมวินโดว์เลยก็ว่าได้แต่ก็ต้องใช้ทำงานอยู่ดี 🙂
ไม่สนว่าผู้ผลิตรายใดจะทำกำไรได้มากกว่ากัน เพราะกำไรเหล่านั้นก็มาจากเงินท่านๆ นั่นแหละ
ส่วนมุมผู้บริโภค ตัวผมเองที่เลือกใช้ Android เพราะ สเปคระดับไกล้กันหรือสูงกว่า แต่ราคาต่ำกว่า 🙂
มันจะมีผลต่อคอนเทนต์ไงครับ ถ้าผู้ผลิตทำแล้วไม่ได้เงิน ใครจะเอาผลิตภัณฑ์มาลง เหมือนกับ Android ที่เกมหรือแอพที่มาลงจะเน้นแจกฟรีแปะโฆษณา เป็นคนละแนวกับ iOS ที่เน้นเสียเงินมากกว่า เพราะรู้ว่ามันจะมีคนจ่ายมากกว่า
แต่สุดท้ายแอพหรือเกมแบบ Freemium ก็มาลุยทั้งคู่อยู่ดี ผมแหละเบื่อแอพหรือเกมแบบนี้มาก คือจะจ่ายเงินก็ได้ แต่จ่ายแล้วจบนะ แล้วถ้าแอพดีจริง เวอร์ชั่นหน้าทำออกมาขายใหม่ก็ได้ จะซื้ออีก
ไม่ใช่ให้ใช้ฟรี ให้เล่นฟรี แล้วกั้ก ต้องเสียเงินไปเรื่อยๆ
หลังจากใช้ Android มาเฉียด 10 รุ่น มือถือตัวต่อไปไม่พลาดที่จะเป็น WP8 แน่ๆ ครับ ^^
จริงๆ เหมือน windows เนี่ย ก็ไม่ใช่ว่าจะดี แต่จุดเด่นก็คือใช้งานง่าย จริงๆ อะไรที่ใช้ๆง่ายๆ User friendly ทำให้ดีหน่อยแล้วติดลมบนแล้วก็ไปไกล อย่างเช่น Line แอ๊บก็ไม่ได้จะดีนะ แฮงค์บ่อย แต่ติดลมบนก็ทนๆใช้ไป
แบบเดียวกันกับ 20 ปีก่อน ตอนที่จ็อบไปลอกฟูจิตสึ หรือซีร็อกซ์ มา แล้วก็ถูกเกตต์ลอกต่อไปอีกที
ในวันนี้ iOS (ซึ่งไม่แน่ใจว่าไปลอกใครมาแบบตอนฟูจิตสึ หรือซีร็อกซ์) ก็ถูกลอกออกไปเป็นแอนดรอยด์อีกที
นายเอริคอาจพูดตกไป
รบกวนช่วยแจกแจงหน่อยครับว่า ลอกฟูจิตสึ หรือซีร็อกซ์ มา นี้ลอกอะไรมาบ้างครับ
เท่าที่ผมทราบเข้าลอกเมาส์มาใช้ จาก ซีร็อกซ์ อยากรู้อย่างอื่นๆ อีก
น่าจะเป็น Windows Mobile อ่ะครับเพราะผมเคยใช้อยู่ บางอย่างเหมือนกะ Apple เลย
ป.ล. หลังจากจีอปส์ตายผมก็มีลางเหมือนกันว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย อนาคตต่อไปมือถือส่วนใหญ่คงจะเป็น แอนดรอย์ เหมือนกับคอมส่วนใหญ่ที่เป็นวินโดวส์
จ๊อบลอกรูปแบบไอคอนหน้าจอมาจากซีร็อกด้วยครับ แล้วยังอีกหลายๆอย่างของ zune อีกด้วย
มันก็ต้องเป็นเช่นนี้แล
เห็นด้วยครับ ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อนจริง…เพราะตอนนั้นกับตอนนี้ จ๊อปก็ไม่ได้อยู่บริหารแอปเปิ้ลเหมือนเดิม สินค้าก็เริ่มออกมามากเกิน ทุกคนที่หวังจะเอากำไรจากการขายกำลังจะพาแอปเปิ้ลลงเหวไปเหมือนเมื่อครั้งก่อน โดยลืมไปแล้วว่านวัตกรรมความคิดที่อยากจะได้ของดีๆ ให้ทุกคนได้ใช้มันไม่มีเหลืออยู่เหมือนตอนที่จ๊อปอยู่แล้ว
…ถ้าจ๊อปยังอยู่ผมเชื่อว่าทุกอย่างคงไม่เหมือนเดิม
จ๊อบ มีความคิดแบบที่ว่าแอปเปิ้ลคือผู้กำหนดสินค้าของโลก ไม่ใช้สินค้าของเจ้าอื่นมากำหนดสินค้าของแอปเปิ้ล ไม่งั้นไอโฟน ไอแพด ไม่มีทางเปลี่ยนขนาดเหมือนที่ ทิม คุก ทำแน่นอน
ไม่รู้ทำไม เพื่อนผมยังมองว่า Android เป็นมือถือห่วย ๆ เพียงแค่เพราะเค้าถือ iPhone กัน
ผมก็ไม่อยากจะมานั่งเถียงเรื่องมือถือ ปล่อยให้เค้าคิดไป อยากใช้แบบไหนก็ใช้
้ถ้า Android เป็น อันดับ 1 แค่ยอดขาย แต่ภาพลักษณ์ยังสร้างไม่ได้ Google ก็ต้องทำงานให้หนักกว่านี้ครับ
ตอนนี้ผมใช้แอนดรอยด์มาตัวเดียว(ที่เป็นของผม) แต่ผ่านมือมาหลายตัว หลายยี่ห้อ
แล้วก็พบว่า เรื่องความหลากหลาย ก็เป็นจุดอ่อนเหมือนกัน
ตรงนี้คือสิ่งที่ Android และ Google ยังต้องปรับปรุงในฐานะ เจ้าของ OS นะครับ
เรื่องภาพลักษณ์นี่แก้ยากครับ เพราะ ios ขายมือถือราคา2หมื่นอัพ
แอนดรอยมีตั้งแต่2พันขึ้น คนใช้บางคนเลยคิดว่า ios ดีกว่าทุกอย่าง ต้องคนมีตังใช้ ใช้แล้วดูดี
ซื้อมือถือเพื่อยกฐานะหน้าตากันหรือครับ ถ้าความคิดแบบนี้ก็คงห้ามกันไม่ได้
มือถือเครื่อง2หมื่นมองว่าไฮโซ เด็กแว๊นซื้อมอไซด์มาแต่งซิ่ง บางคนแต่งเป็นแสนดันมองว่าขยะสังคม แปลกเนอะคนไทย- -*
เรื่องภาพลักษณ์ผมกลับมองว่ามันไม่ใช่หน้าที่ Google นะ เป็นหน้าที่แบรนด์ที่ผลิตออกมามากกว่า อาจจะมีตัว Nexus ที่ Google สามารถจะสร้างภาพลักษณ์ได้ ซึ่งดู ๆ แล้วตอนนี้ก็โอเคนะ แต่นะตอนนี้ต้องยอมรับว่า Samsung สร้างภาพลักษณ์ให้ Android ดูดีขึ้นมาในสายตาใครหลาย ๆ คนมากขึ้นจากหลาย ๆ ตัวที่ออกมาไม่ว่าจะ Note 2 หรือ S3
Android มันมีจุดแข็งที่ชัดเจนอยู่แล้วครับ คือ การเข้าถึงตลาดได้ทุกกลุ่ม
เนื่องจากมีการไล่ตลาดราคาตั้งแต่ต่ำ ไปถึง สูงได้ตอบโจทย์ความต้องการของหลายๆคน
ที่ต้องใช้งานจริงโดยไม่ต้องจ่ายในราคาสูงเกินความเป็นจริง
Android เหลืออีกจุดหนึงคือเรื่อง App อันนี้ผมว่าต้องรอเวลาอีกนิดที่ Apps ใน Play
คุณภาพจะแซง App Store ได้ เพราะพอ Android ความนิยมแซง iOS
ผู้พัฒนาก็คงหันมาพัฒนา App ให้ทาง Android ก่อน iOS
ถึงแม้จะเกือบไปทะเล แต่ก็ได้ความรู้ครับ เรื่องสีทนได้
คนละเรื่องกันครับ
สมัยนั้น 1 ต่อ 1
ตอนนี้ 20 รุ่ม 1
เรื่องยอดขายนำก็จริง แต่ถ้า company vs company ใครจะสู้ apple ได้
ผมว่าผู้ผลิต PC ก็มีเยอะไม่ต่างจากผู้ผลิตมือถือยุคนี้นะ
แถมยังมีเครื่องประกอบที่ผู้ใช้เลือกฮาร์ดแวร์เองได้อีก
ซึ่งPC เหล่านี้ล้วนถูกออกแบบมาให้Run Windows ได้ แต่ Run MAC ไม่ได้
แล้วมันจะต่างอะไรกับ Android VS iOS ล่ะครับ ?
ในเมื่อเรากำลังพูดกันถึงการแข่งขันระหว่าง OS กับ OS
ยังไงiOS ก็โดนรุมกินโต๊ะอยู่วันยังค่ำ เพียงแต่ส่วนแบ่งตลาดแค่ 10-20% ก็ทำให้Apple รวยล้นฟ้าได้แล้ว เพราะ
ผลิตสินค้าทั้งHardware,Software ออกมาใช้ขายสำหรับแบรนด์ตัวเองเท่านั้น ส่วน อีก 80-90% ต้องแบ่งกันอีกทอดนึงไม่รู้อีกกี่เจ้า
ถ้าไมโครซอฟต์ผลิต PC ของตัวเองออกมาขายนะแอปเปิ้ลคงมีที่ยืนน้อยลง
เรื่องภาพลักษณ์ที่ผมเจอมาหลายๆคนที่ใช้ iphone คิดว่าที่ตัวเองถืออยู่คือความสุดยอด โดยไม่ลืมหูลืมตาว่านวัตกรรมจริงๆมันไปถึงไหนแล้ว คอยแต่จะข่มพวกใช้ Android ว่าเป็นมือถือถูกๆเครื่องนึง ไม่สามารถเอามาเทียบเคียงได้
"เพราะของตัวเองแพงกว่าย่อมต้องดีกว่าในทุกเรื่อง"
แต่ความเป็นจริงเป็นเยี่ยงไรพวกเขาก็ไม่อยากรับรู้ (บางคนทั้งๆที่รู้แต่ก็ทำเป็นไม่รู้)
"อะไรที่ iphone ทำได้ Android เครื่องถูกๆในหลายๆรุ่นยังทำได้เกือบหมด"
"แต่อะไรที่ Android (เอาเครื่องถูกๆพอ) ทำได้ iphone กลับทำไม่ได้ในหลายๆเรื่องและมากมาย"
และข้อนี้เอง Android ก็กำลังเขมือบ Apple ให้เหลือแต่แกน และAppleจะกลายเป็นตำนานในที่สุด ถ้าApple ยังไม่มีนวัตกรรมอะไรดีๆออกมาใน Gen ต่อไป…
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบด้วยครับ เครื่องรุ่น Appอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้างไม่ได้บ้างบอกด้วยครับ
ล้อกันเล่นหรือไม่รู้จริงๆอ่ะครับเนี่ย
ผมคิดว่าผมแทบไม่ต้องบอกเลยนะครับ
ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานจริงๆคุณจะต้องรู้ครับ
หรือถ้าไม่รู้จริงๆลองใช้งานจริงหรือหาข้อมูลในบอร์ดdroidsansดูครับ
Google vs Siri
55555 ดราม่าอีกแล้วครับท่าน อิอิ
แต่ดีนะ ได้ความรู้อีกนิดหน่อย ถึงไม่เกี่ยวกะงานผมก็เถอะ
ใครจะเลือกใช้อะไร ก้เรื่องของเขาคับ จะapple หรือ android มันก้คนละแนวคับ แต่ภาพลัก android ยังแย่จิงๆคับ สู้ไม่ได้เลยคับในเรื่องนี้
สร้างภาพ
โคตรชอบ ผมก็คิดว่ามัน เป็นการสร้างภาพ ด้วยเช่นกัน
ขอเติมว่า ไว้อวดด้วย555
เหมือนไอ้โฟนแหละ มีไว้อวด สุดท้าย ก็โหล
เพราะ คนส่วนใหญ่ รู้ ว่ามันแพงไง
อย่ามาเอา ความเป็น สาวก หรือ ทาส มาใช้แล้วกัน
คิดให้เป็นกลาง ว่าใช้ไอ้โฟนแล้ว ความต้องการของเรา มันเปลี่ยนไปไหม
อิสระไหม ฝืนใช้หรือเปล่า
จริงเปล่าล่ะ555
ถ้าคุณมีเงิน คุณพอใจอะไร…อยากซื้ออยากใช้อะไรก็ทำไป มันสิทธิ์ของคุณ !!
ชอบ Android เพราะมันอิสระ อยากจะทำอะไรก็ทำได้เลย
แต่มี iOS อยู่อีกเครื่อง ใช้คู่กันไป(เพราะมันมีเกมที่อยากได้ 55555) แถมสิ่งที่ไม่ชอบและเบื่อที่สุดใน iOS คือ"แอพเด้งบ่อยมาก!!!"
โค๊ะ กลับไป 3310 จบ | 555+ ต่างฝ่ายก็อวยกันเอง มันเป็น กลยุทธ
Microsoft กับ Mac เทียบกันก้ดู ok นะ
แต่พอมาเทียบ iOS กับ Android แล้วดูแปลกๆ เหมือนกับการเทียบระหว่าง 1 แบรนด์กับอีกกว่า 20-30 แบรนด์ !!! ซึ่งมันคนละเรื่องเลยนะ
ถ้าคุณคิดว่า MS-Windows เทียบกับ Mac-OS มันโอเค
ผมก็คิดว่า Android กะ iOS มันก็โอเคเหมือนกันน่ะครับ
เพราะมันก็แข่งแบบหลายบริษัท VS แอปเปิลเหมือนกันหรือเปล่าครับ
– MS-Windows ทั้ง acer samsung dell hp ฯลฯ ก็เอาไปเป็น OS ของคอมพ์ตัวเอง ส่วน Mac-OS ก็มีแต่ apple ทำ
– Android ทั้ง samsung lg moto htc ก็เอาไปทำเป็น OS มือถือของตัวเอง ส่วน iOS ก็มีแต่ apple ทำ
ดังนั้นถ้าคุณคิดว่า อย่างแรกโอเค อย่างหลังมันก็ควรจะโอเคหรือเปล่าครับ ^^
Androidตอนนี้แหล่มแล้วนะ เหลือแค่ทำให้ทุกๆเครื่องมันsupportกันหมด appได้เหมือนกันหมด อัพเดทพร้อมกันหมด
จริงๆพวกสถิติแบบนี้ที่ถูกเปิดเผยออกมามันเหมือนเครื่องมือช่วยโปรโมทนะ ผมว่า เราอย่าไปตื่นเต้นเลยชอบไรก้ใช้อันนั้นกันไปเหอะครับ
ความเห็นส่วนตัว ผมว่ามันเทียบกันไม่ได้หรอก เพราะฝั่ง ios เค้าก็จำกัดกลุ่มผู้ใช้ของเค้าไว้อยู่แล้ว ด้วยการที่เค้ามีสินค้า เจนละหนึ่งรุ่น โอ้ย ถ้าคิดลึกๆลงไปมันก้ซับซ้อน แตกเรื่องราวออกไปได้อีกเยอะ อย่าไปคิดมันเลยครับ ก็อ่านแล้วรู้ๆไว้ก้พอครับ ว่าคนใช้ android เยอะขึ้นเรื่อยๆ จากที่มันเคยน้อยกว่า เหมือนข้อมูลนี้เค้าเขียนให้ ios เป็นเกณให้เห็นภาพเฉยๆนะ เพราะมันเคยเยอะกว่า แต่ตอนนี้ ดรอยแซงผ่านจุดนั้นมาได้แล้วนะอะไรเงี้ย
OS ลองเป็นแบบ Open Souce ให้ค่ายอื่นทำบ้างดิ อาจรุ่งก็ได้ …
ผมเป็นคนที่เคยใช้ apple มาแค่ 3 วัน รู้สึกว่าอึดอัดมาก แล้วคิดว่านี่หรือสิ่งที่ไฮโซ ชาบูๆ กัน ของดีมันต้องใช้ได้ทุกอย่างครับ ไม่แปลกครับที่ android ครองตลาดเร็ว ยังน้อยไป ผมว่าครองโลกนี้แน่นอน ระบบนี้จะมีใน หม้อหุงข้าวยัน ยานอวกาศ แน่นอนคอยดูครับ ขอให่ android จงเจริญครับ ^_^
ขอให้พัฒนา ระบบ android ให้ดีขึ้นไปอีกครับ แล้วจะมี hardware แรงๆรอสนับสนุนอีกเพียง รวมทั้ง app ที่เพิ่มขึ้นอีก ขอเชียร์ระบบเปิดที่อิสระอย่าง android สุดใจครับ
Friendly … the best is simple ประโยคพวกนี้มันตอบโจทย์ของผู้ใช้งานทั่วไปได้ดีเสมอ
ในมุมมองผม ถ้าเอา OS มาชนกันความเป็นมาตรฐาน ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของการใช้งานชีวิตประจำวันทั่วไป
ก็ต้องยกให้ OS แบบปิด (iOS, WM8,BB) เพราะสามารถควบคุมสิ่งแปลกปลอมและพฤติกรรมการใช้งานได้ดีกว่า
แต่ถ้าพูดถึงความยืดหยุ่นคงหนีไม่พ้น OS แบบเปิด (Android, Linux) ที่สามารถพัฒนาให้หลากหลายได้และตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย
—– ผมก็ยังเห็นด้วยกับคนที่บอกว่า ความหลากหลายคือความอ่อนแอ น่ะครับ …. เหมือนที่ Windows เคยเป็น แต่ถูกบดบังความอ่อนแอ ตรงนั้นด้วยจนนวนคนที่เข้ามาใช้งานมากมายช่วยกันแก้ปัญหา แชร์แนวทางแก้ปัญหา
—- แต่ภาระการแก้ปัญหา กลับตกอยู่กับผู้บริโภค แทนที่จะเป็นผู้ให้บริการ ตรงนี้ดูจะไม่สมเหตุผลเท่าไหร่ แต่เราก็ยังยอมรับกันได้ ***
OS ก็ยังเป็น สิ่งที่ตอบสนองพฤติกรรม การใช้งานของผู้ใช้งาน สิ่งหนึ่งที่ Apple ทำมาตลอดคือ ศิลปะของโปรดักที่ออกมา ผมก็ไม่สงสัยเช่นกันว่า ทำไม ยังสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่าชาวบ้านเค้า เพราะมันมีเรื่องของงานศิลปะ เข้ามาเกี่ยวข้อง หากเจ้าใดที่ทำโปรดักที่ใส่งานศิลปะเข้าไป มักจะโดดเด่น วันนี้ผมก็เห็น OPPO แบรด์น จีนที่กำลังทำ Android ที่เป้นงานศิลปะ เช่นกัน .. ที่เราเรียกันว่า ราคาขึ้นความพึงพอใจในการเลือกซื้อ ……
m$ กับ Mac โอเค
android กับ ios ก็โอเค
เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะ apple เลือกที่จะปิดแบบนี้เอง
จอคอมมันมีตั้งแต่ 2-3 พันบาท ไปถึงจอระดับอ้างอิงหลายๆหมื่น อุ้ยนอกเรื่อง..
ผมว่าการที่ iPhone มันโด่งดัง ในตอนต้น มันก็ได้อานิสงมาจาก Mac นะ
ความที่มันดูเป็นของแปลก เฉพาะกลุ่ม และดูมีสไตล์ (แต่ตอนนี้ก็อีกเรื่องนึง)
แล้วยุคหลังๆมา ตัวตนของแอปเปิ้ลแทบจะผูกขาดที่ สตีฟ จ๊อบ คนเดียว
(ซึ่งตามที่ผมเรียนมา การเอาภาพลักษ์ของทั้งองค์กรไปขึ้นกับคนๆเดียวถือเป็นวิธีที่ผิด)
พอ จ๊อบ ตาย มนต์ขลังอะไรๆมันก็ค่อยๆคลายไปทีละนิดๆ
จุดแข็งปั๋งของโปรดักส์เครือแอปเปิ้ลคือทำฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์เองหมด
เรื่องคอมแพททิบิลิตี้มันจึง 100% คนพัฒนาแอพก็ทำงานง่ายด้วย
แบบที่ OS อื่นๆทำไม่ได้
อีกจุดคือดอกกิ้งที่มันเป็นมาตรฐาน มีสินค้ามากมายในตลาดรองรับ
ในขณะที่มือถือ Android มีร้อยรุ่นก็ร้อยฮาร์ดแวร์
ถ้าแอนดรอยด์อยากจะรุ่ง(มากกว่านี้) ผมคิดว่ามันควรออกมาตรการเกี่ยวกับการสร้าง
มาตรฐานดอกกิ้งเชื่อมต่อให้ทุกยี่ห้อมีดอกกิ้งเป็นแบบเดียว
–
ดีใจจัง