เปิดตัวไปเรียบร้อยกับ Motorola Moto X โทรศัพท์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดหลังจาก Google ได้ซื้อกิจการ Motorola ส่วนกิจการมือถือเมื่อ 14 เดือนที่แล้ว โดยการเปิดตัวครั้งนี้ก็มีข้อมูลทุกอย่างเหมือนกับที่หลุดมาก่อนหน้านี้ทั้งสิ้น แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่น่าสนใจที่ถูกเปิดเผยขึ้นมาเพิ่มเติมอีก สำหรับใครที่ยังไม่เคยติดตามเรื่องนี้มาก่อนเราจะมาสรุปความน่าสนใจของเจ้า Moto X มือถือที่คาดกันว่าจะเป็นรุ่นที่พา Motorola กลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งนั้น 

สเปคภาพรวม (หรือไปดูสเปค Moto X แบบละเอียด)

  • Android 4.2.2
  • CPU  Dual-core 1.7GHz Krait + 2 Specialized CPU
  • GPU Adreno 320
  • RAM 2 GB
  • หน่วยความจำ 16 หรือ 32GB เพิ่มไม่ได้
  • หน้าจอ 4.7” 1280×720 (~316ppi)
  • กล้อง 10.5 ล้าน Clear Pixel, กล้องหน้า 2.1 ล้าน
  • รองรับ 3G ทุกเครือข่าย มี 4G แต่ไม่รองรับคลื่น 2100 ของประเทศไทย
  • ปรับแต่งสีของตัวเครื่องได้เองตามใจชอบ

เดี๋ยวเราจะมาดูฟีเจอร์เด่นและสเปคต่างๆของ Moto X กันพร้อมกับคำอธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจว่ามันมีความแตกต่างและน่าสนใจอย่างไร

มาดูฟีเจอร์เด่นของ Moto X กันก่อน

Active Display

  • คนเรามักจะต้องเปิดปิดเครื่องเป็นจำนวน 60 ครั้งต่อวัน เพียงเพื่อดูเวลาหรือเช็คการแจ้งเตือน
  • Moto X จะมีการกระพริบแจ้งเตือนบนหน้าจอ เมื่อมีการแจ้งเตือน miss call หรือข้อความเข้า
  • เราสามารถแตะส่วนใดๆบนหน้าจอก็ได้เพื่อตรวจสอบและลากปลดล๊อคเพื่อเข้าแอพได้ทันที
  • ด้วยหน้าจอ AMOLED ที่ไ่ม่กินไฟหากหน้าจอเป็นสีดำ เพราะเม็ด pixel บริเวณนั้นจะดับลง ต่างจาก LCD ที่ต้องสว่างทุก pixel เสมอ ทำให้วิธีนี้เป็นวิธีที่เจ๋งมากๆและดึงเอาความสามารถของจอมาใช้อย่างเต็มที่
  • ด้วยฟีเจอร์นี้ทำให้ Moto X ไม่มี LED Notification

 

Always Ready

  • always-on voice recognition จดจำเสียงพูดของเราได้และจะตอบสนองต่อเสียงพูดของเราเท่านั้น
  • ออกคำสั่ง Moto X ได้ทันทีโดยไม่ต้องแตะเครื่อง เพียงเรียก “OK, Google Now” ก็สามารถตั้งเวลาปลุก จดโน๊ต หรือสอบถามข้อมูลทั่วไป เช่น สภาพอากาศได้ทันที
  • ถ้าเรามือเปื้อนไม่อยากจับเครื่อง หรืออยู่ในห้องนอนตอนกลางคืนขี้เกียจลุกไปหยิบ ก็แค่พูดสั่งได้ทันที
  • จากการทดสอบที่แม้จะอยู่ในห้องที่เสียงรบกวนดังก็ยังสามารถแยกแยะคำสั่งได้ถูกต้องและแม่นยำมาก
  • คาดการณ์ว่าน่าจะเป็นตัวที่ทำให้เทคโนโลยีการสั่งการด้วยเสียงบนมือถือมีอนาคตขึ้นมา
  • ระบบจดจำเฉพาะเสียงพูดเราไม่ได้ทำมาเพื่อความปลอดภัย อาจใช้เสียงคนอื่นสั่งก็ได้แต่ความสำเร็จจะต่ำกว่ามาก
  • ไม่กินไฟเพราะมีตัวประมวลผลเฉพาะ

Play video

Quick Capture

  • มีปัญหาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่ทันเพราะต้องมานั่งปลดล๊อค เปิดเข้ากล้อง และรอกว่ากล้องจะเปิดรึเปล่า?
  • Moto X เข้าใจปัญหานี้ดีเลยทำฟีเจอร์ให้เข้ากล้องได้รวดเร็ว เมื่อหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าแล้วสะบัดข้อมือ 3 ทีโดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ มันก็จะสามารถเข้ากล้องได้ทันที
  • กล้องเปิดขึ้นมาได้ไวมาก โฟกัสและถ่ายแทบจะทันทีที่แตะบนหน้าจอ
  • ไม่กินไฟเพราะมีตัวประมวลผลเฉพาะ

Play video

 

ทีนี้เรามาไล่ดู Spec ของ Moto X ที่หลายๆคนมีข้อสงสัยว่ามันดีพอที่จะซื้อหรือเปล่ากัน

Chipset และ CPU

Moto X มีการนำเอา X8 Mobile Computing System แบบเดียวที่ใช้กับ Droid Series ซึ่งมันคือ Qualcomm Snapdragon S4 Pro ที่มี 2 ชิพเพิ่มเติมเข้ามานั่นคือ always-on voice recognition (ฟีเจอร์ Always Ready) และ gesture control หลายๆคนอาจจะมองว่าเจ้า Dual-core 1.7GHz Snapdragon S4 Pro นี้จะดูไม่ค่อยแรงเท่าไหร่ แต่ทาง Motorola แจ้งว่าในความเป็นจริงมันถูกปรับแต่งมาเยอะมาก ทำให้ดึงความสามารถของ Project Butter ที่ทำให้การแสดงภาพลื่นไหล ออกมาได้อย่างเต็มที่ และผลการทดสอบออกมาก็แรงไม่แพ้รุ่นที่ใช้ Quadcore หลายๆรุ่นในตลาดด้วยซ้ำ และที่สำคัญคือประหยัดแบต ซึ่งเคลมว่าเมื่อใช้งานทั่วไปจะอยู่ได้เต็มๆวัน 24ชม.เลยยทีเดียว 

ผลการทดสอบของ Moto X ออกมาแรงกว่า Xperia Z, Nexus 4, S3, และอีกหลายๆรุ่นที่ใช้ Quadcore เสียด้วยซ้ำไป นั่นก็เพราะในความเป็นจริงแล้วจำนวนแกนไม่ได้บอกถึงคุณภาพเสมอ หลักๆที่ต้องดูเพิ่มเติมคือสถาปัตยกรรมที่ใช้ใน CPU นั้นด้วย เช่นหาก CPU ARM Cortex A15 เพียงสองแกน ก็จะแรงกว่า CPU ARM Cortex A5 ที่มีสี่แกนแบบขาดลอยเลย ส่วนอื่นๆที่ต้องพิจารณาคือ GPU, RAM, Memory, และคุณภาพ Software ที่ต่อให้มีสเปคดีขนาดไหน แต่ถ้าทำรอมมาห่วย ยังไงเครื่องนั้นก็จะช้าและทำงานห่วยอยู่ดี

หน้าจอ 4.7” AMOLED ความละเอียด 720p

ทาง Motorola บอกว่าขนาดหน้าจอนี้เป็นขนาดที่เหมาะสมและเหมาะกับการถือมากที่สุด ส่วนเรื่องความละเอียด จริงๆสามารถทำจอที่ความละเอียดสูงกว่านี้ก็ได้ แต่ไม่เห็นถึงความจำเป็น เพราะมันโคตรจะกินไฟมาก แต่ผู้ใช้แทบจะไม่เห็นถึงความแตกต่าง

แม้ว่าจะยังไม่มีใครออกมาบอกว่าหน้าจอ AMOLED ของ Moto X เป็นแบบ Pentile หรือแบบ RGB สมบูรณ์ แต่ว่าส่วนตัวแล้วก็ค่อนข้างพอใจกับคุณภาพของจอระดับ 720p ตั้งแต่ Galaxy Nexus แล้วนะ มองแทบไม่เห็นความต่าง ถ้ามีการผลิตที่ดีพอ

 

กล้อง 10.5 ล้านพิกเซล Clear Pixel

กล้องเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดของ Moto X โดยมีการเอาเทคโนโลยี “ClearPixel” มาใช้ มีขนาดพิกเซลที่ 1.4-micron (เท่ากับกล้อง 8MP) และแทนที่จะใช้เซนเซอร์รับแสงเป็น RGBG ก็จะใช้เป็น RGBC แทน โดยจะทำให้ได้รับแสงสว่างได้มากขึ้นถึง 75% และเซ็นเซอร์มีขนาดเป็น 16:9 แท้ จับภาพได้กว้างกว่าปกติ เพราะโดยมากที่รุ่นที่มีอยู่จะเป็นขนาด 4:3 ทำให้มุมมองเวลาถ่าย 16:9 จะถูกครอปลงไปเสมอ

งานนี้เตรียมตัวโดนจับไปชนกับ HTC One ที่ใช้ UltraPixels แน่นอน เมื่อไหร่ที่สื่อต่างประเทศได้ลองเทสต์เครื่องกันคงได้เห็นการเปรียบเทียบแบบทุกเม็ด เร็วๆนี้

สำหรับเทคโนโลยี Clear Pixel ท่านพัดได้เคยเขียนเอาไว้เล็กน้อย สนใจก็ลองไปตามอ่านได้

Moto X Phone จะมาพร้อมกล้อง 10 ล้านพิเซล และเทคโนโลยี Clear Pixel Camera จาก Kodak

 

วัสดุ ขนาด และรูปร่าง

Moto X ตัวเครื่องทำจากพลาสติก แต่ว่าไม่ใช่พลาสติกไก่กา มีการเลือกเกรดที่มีคุณภาพสูงกว่าปกติมาใช้ พร้อมกับมีความโดดเด่นที่สามารถออกแบบปรับแต่งสีของส่วนต่างๆบนเครื่องได้เอง มีวัสดุอื่นให้เลือกได้เช่น ไม้ เมื่อเราปรับแต่งเสร็จก็สามารถสลักคำลงไปเพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของเรา และแม้ว่าเครื่องจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาดที่ใหญ่ แต่ว่ามีขอบเครื่องที่บาง ประกอบกับการโค้งมนของการดีไซน์ ทำให้ทุกสื่อพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเจ้า Moto X จับถนัดมือดีครับ

ความน่าสนใจ – นี่เป็นครั้งแรกของโลกที่มือถือสามารถปรับแต่งสีของแทบทุกส่วนบนเครื่องได้ และสั่งผลิตออกมาแบบ mass-customization ซึ่งถือเป็นความสุดยอดด้านการผลิตอย่างนึง ที่ถ้าใครทำงานด้านนี้อยู่จะทราบดีว่ามันเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะนั่นหมายถึงการจัดการสต๊อกที่วุ่นวาย และการจัดส่งให้ทัน ซึ่ง ณ จุดนี้ทาง Motorola ก็การันตีว่าจะจัดส่งให้ภายใน 4 ตัวหลังจากสั่งทางเว็บ ถือว่าเป็นเวลาที่รวดเร็วมากๆๆๆๆ

[updated]การออกแบบเครื่องแบบในคลิปข้างล่างนี้มีเฉพาะผู้ที่สั่งผ่านเว็บและใช้เครือข่าย AT&T เท่านั้น สำหรับเครือข่ายอื่น + ขายทั่วโลกน่าจะมีให้เพียงแค่สีขาวและดำ

Play video

Designed by you. Assembled in the U.S.A.

มีความหมายโดนนัยแฝงอยู่หลายอย่าง ทั้งด้วยเรื่องของการทำ Mass-Customization ที่ได้กล่าวไปข้างต้นที่ทำให้ทาง Motorola ต้องย้ายฐานการผลิตกลับมาที่อเมริกา แต่ในอีกทางนึงคือเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างงานในประเทศมากขึ้น และป้องกันข้อมูลรั่วไหลไปต่างประเทศอีกด้วย

และถ้าใครฟังแล้วมันคุ้นๆหู ก็ไม่ใช่ประโยคฮิตจากไหนครับ Apple เพื่อนรักนั่นเองที่มักจะใช้คำว่า Designed in California แต่ทาง Motorola ก็ยกขึ้นมาข่มกันซะงั้นว่า คุณสามารถดีไซน์ได้ แถมยังผลิตจากในประเทศอีกต่างหาก

เคลือบ Water-Repellent ที่แผงวงจร ใช้งานได้แม้ยืนในฝน

อันนี้เป็นข้อมูลที่ยังไม่เคยถูก Leak มาก่อน(รึเปล่า) เมื่อมีการเคลือบสารกันน้ำเข้าไว้ที่ภายในของ Moto X ทำให้น้ำไม่สามารถทำอันตรายต่อวงจรไฟฟ้าภายในเครื่องได้ ถึงขนาดที่ว่าเอาไปเล่นกลางสายฝนได้ทีเดียว ซึ่งเอาจริงๆเจ้าสารนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะเราเคยเห็นเดโมมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่แค่ไม่คิดว่าเจ้า Moto X จะมีการเคลือบมาไว้เลย แต่ถึงกระนั้นก็ตามถ้าใครมีเครื่องก็อย่าไปซนลองของละกัน เพราะถ้ามันเจ๊งขึ้นมาจริงๆก็คงไม่มีใครรับผิดชอบหรอกนะ 😛

ไปดูตัวอย่างของเจ้าสาร Water-Repellent กันสักหน่อย

Play video

แบตเตอรี่ขนาด 2,200 mAh

เราได้เห็นมือถือรุ่นท๊อปใช้แบตระดับ 3,000 กันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าการที่ Moto X ให้แบตมาเพียง 2,200 mAh ก็ยังเป็นที่น่าห่วงสำหรับคนที่ดูแค่ตัวเลข แต่ในความเป็นจริงแล้วขนาดแบตไม่ได้มีผลโดยตรงต่อระยะเวลาในการใช้งานขนาดนั้น แต่มันขึ้นกับการปรับแต่งและฮาร์ดแวร์ที่ใช้เป็นสำคัญมากกว่า ถ้าดูจากแนวทางการทำ Moto X ระยะเวลาการใช้งานมือถือเป็นหัวใจของการสร้างมันขึ้นมาเลย ฉะนั้นมันการจะตัดสินว่าแบตเท่านี้เพียงพอหรือไม่นั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องรอการทดสอบต่อไปครับ

[updated]แบตเตอรีถอดเปลี่ยนไม่ได้ (แต่เราๆก็ใช้แบตกระสือกันอยู่แล้วนิ)

ราคาเปิดตัวมาที่ $199 และติดสัญญา 2 ปี

ค่าตัวระดับนี้ที่อเมริการมันพอๆกับซื้อมือถือ flagship ของแบรนด์อื่นๆอย่าง Samsung หรือ HTC เลยทีเดียว ทำให้ราคาเครื่องเปล่าที่ซื้อได้ก็อาจจะไม่ได้ต่ำกันอย่างที่คาดซะแล้ว มีโอกาสขึ้นไปสูงกว่า 15,000 บาทได้เลย หลายคนก็มองว่าสเปคนี้ในราคาเท่านี้มันจะไหวเหรอ ทางโมโตก็ให้คำตอบว่า “อนาคตของ Android มันจะไม่ขึ้นกับสเปคอีกต่อไป บริษัทจะเริ่มหยุดคิดถึงเรื่อง ซีพียู จำนวนกิ๊กกะไบท์ กล้องกี่ล้านพิกเซล แต่เราจะคำนึงถึงว่าคนใช้โทรศัพท์ของเราแล้วรู้สึกอย่างไร มันจะทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้นอย่างไร และที่สำคัญคือ มันจะใช้งานได้นานขนาดไหน (แบตเตอรี่)”

ถือว่าตอบได้ดี และทางเว็บเราก็มีแนวคิดเช่นเดียวกันมาโดยตลอด แต่ว่าตลาดจะฟังกับคำให้การนี้มั้ยหนอ ในเมื่อ ณ วันนี้สิ่งแรกที่คนทั่วไปดูก็ยังเป็นเรื่องสเปคกันอยู่ทุกทีไปสิน่า -__-

บทสรุป
และนั่นคือทั้งหมดของเจ้า Moto X ที่หลายๆคนเฝ้าติดตามอยู่ ต้องบอกว่ามันดูเป็นโทรศัพท์ที่ทำออกมาตอบโจทย์คนใช้ในหลายๆด้าน มากกว่าที่จะมุ่งเน้นไปที่สงครามราคาและสเปค และถึงแม้ว่ามันจะไม่สามารถเข้าแทรกในพื้นที่ของ Samsung และ Apple ในช่วงเวลานี้ได้ แต่ว่า Motorola ในรูปแบบใหม่นี้ก็ดูจะฟังผู้ใช้มากขึ้นกว่าเดิมว่าต้องการอะไร และที่สำคัญคือพวกเค้าฟัง Google ที่บอกว่า แก้ปัญหาให้ถูกจุด ด้วยความเรียบง่ายและสวยงาม และนี่แหละคือหาทางสำเร็จของ Moto X

source: the verge, gsmarena, Moto X Official Page