มาต่อกันที่ตอนที่ 2 ครับสำหรับการเปรียบเทียบเรือธงต่างตระกูลของโซนี่ระหว่างตระกูล Z ตัวสุดท้ายอย่าง Xperia Z5 และตระกูล X ตัวแรกคือ Xperia X Performance โดยในตอนที่ 2 นี้ผมจะมาพูดถึงในประเด็นของการใช้งานทั่วๆ ไป ซอฟต์แวร์ของเครื่อง และรวมถึงไปผลการทดสอบ Benchmark ในแง่มุมต่างๆ ของแต่ละเครื่อง เอามาชนกันจะๆ ให้เห็นความต่างชัดๆ กันไปเลยครับ

ถ้าใครเคยสัมผัสมือถือโซนี่ในช่วงหลังๆ มา โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วง Android 5.0 Lollipop ขึ้นมานั้นจะพบว่าซอฟต์แวร์จากทางโซนี่นั้นจะเริ่มมีความคล้ายเข้าใกล้กับ Vanilla Android หรืออาจจะเรียกกันว่าเหมือน Stock ROM, Pure Android ก็ตามแต่ละคนครับ (พักหลังได้ยินคำว่า Pure Android บ่อยกว่า) 

Software

ซอฟต์แวร์ของ Xperia นั้นค่อนข้างที่จะเบาและใช้งานได้ลื่นไหลครับ แต่สำหรับ 2 รุ่น Xperia Z5 กับ Xperia X Performance นั้นจะมีการปรับแต่งธีมแตกต่างกันไปเล็กน้อย รวมถึงตัวเมนูการตั้งค่า settings ต่างๆ ก็มีปรับเปลี่ยนเพิ่มเช่นกัน มาเริ่มกันที่หน้า Home แบบธรรมดาๆ เกลี้ยงเกลาเสมือนเปิดเครื่องใหม่กันก่อนครับ

หน้า Home screen ทางฝั่งของ Xperia Z5 จะมาพร้อมธีมหลักที่เปิดตัวมาด้วยกัน ภาพพื้นหลังจะให้อารมณ์ดูเรียบๆ ในขณะทีทาง Xperia X Performance มาพร้อมธีมที่สดๆ ภาพพื้นหลังสีจัดจ้าน (นี่คือธีม Black นะครับนี่) แต่ส่วนพวกนี้เป็นส่วนที่ customize ได้ตามใจผู้ใช้งาน จะไม่พูดถึงมันมากละกันครับ สำหรับหน้าของไอคอนแอปพื้นฐานจะเห็นว่าทาง Xperia X Performance จะปรับให้ดูกลมๆ คล้ายเป็นไอคอนอยู่บนพื้นหลังวงกลมอีกที ในขณะที่ทางของ Xperia Z5 นั้นจะเป็นภาพไอคอนโดดๆ

ผมเพิ่งสังเกตว่าทั้ง Xperia Z5, Xperia X Performance ย้ายปุ่มเข้าหน้ารวม App ได้

ต่อมาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมใช้งาน Xperia X Performance แล้วสังเกตเห็นความต่างได้ค่อนข้างเร็วก็คือ ปุ่มบันทึกวิดีโอหน้าจอมันหายไปแล้ว จากเดิมที่ใน Xperia Z5 นั้นมีมาให้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าอะไรคือเหตุผลที่ทางโซนี่ตัดสินใจนำปุ่มนี้ออกไป

และอีกจุดนึงที่ผมพบว่าน่าสนใจก็คือการลากแถบ Notification จากบนลงล่างใน Xperia X Performance มีความแตกต่างคือจากเดิมที่การปัดลงมาด้วยนิ้วเดียวไม่ว่าจะลากยาวแค่ไหนจะแสดงเฉพาะ Notification และปัดอีกสเตปถึงจะเปิดให้เห็นส่วนของ Quick Settings หรือการใช้สองนิ้วลากเพื่อแสดงส่วนของ Quick Settings แต่ใน Xperia X Performance การลากด้วยนิ้วเดียวนั้นจะเหมือนกับการใช้สองนิ้ว ซึ่งความเห็นผมรู้สึกว่ามันทำให้ใช้งานมือเดียวได้สะดวกขึ้นมากๆ เลยครับ

เมื่อเข้ามาดูในส่วนของการตั้งค่าระบบ Settings ก็จะเห็นว่ามีการจัดวางเมนูแต่ละอย่างแตกต่างกันออกไป ในส่วนของ Xperia X Performance ที่เป็นรุ่น 2 SIM ก็มีเมนู Dual SIM ปรากฏอยู่ชัดเจน และมีตัวเลือกเปิด-ปิด Airplane Mode มาวางข้างนอก ในขณะที่ใน Xperia Z5 จะเก็บไว้ข้างใน More

เมนูในหน้า Settings แตกต่างกัน (ซ้าย-Z5, ขวา-X Performance)

หน้าการจัดการ Storage & memory ของ Xperia X Performance

ในส่วนของ Memory ที่เราเปิดดูการใช้งาน RAM ของเครื่องนั้น ใน Xperia Z5 จะแยกออกเป็นหน้าของ Storage อันนึงและเป็น Memory อีกเมนูนึง แต่สำหรับบน Xperia X Performance นั้นจะมัดรวมเป็น Storage & memory และเมื่อเข้าไปก็จะพบว่าใน Xperia X Performance จะมีตัวช่วยจัดการหน่วยความจำมากับเครื่องด้วยเรียกว่า Smart Cleaner ซึ่งเปิดไว้โดยอัตโนมัติ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันจัดการอะไรให้บ้าง แต่ก็เปิดไว้ตลอดครับ ส่วนการเข้าถึงรายละเอียดของ Storage, Memory ของ Xperia X Performance นั้นจะต้องกดเมนูขวาบนเข้าไปอีกทีนึงครับ

หน้าแสดงการใช้งานหน่วยความจำ (ซ้าย-Z5, ขวา-X Performance)

ตามสเปคแล้วทั้ง Xperia Z5 และ Xperia X Performance นั้นให้ RAM มาในความจุ 3GB LPDDR4 เท่ากัน ในขณะที่เรือธงเจ้าอื่นๆ ทั้งตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้ก็เริ่มใส่กันมาให้ในปริมาณ 4GB กันหมดแล้ว เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะสงสัยว่า RAM 3GB นี่มันจะใช้งานพอหรือเปล่า หรือ Xperia นั้นกิน RAM มากน้อยแค่ไหน ผมพบว่า Xperia X Performance นั้นกิน RAM มากกว่า Xperia Z5 เล็กน้อยครับ และจากการใช้งานมาก็ไม่เคยพบปัญหาแอปเด้งเพราะ RAM ไม่พอ และเท่าที่เคยเจอมากสุดคือ Xperia Z5 อยู่ที่ 2.1GB และ Xperia X Performance ใช้อยู่ราว 2.3GB ครับ

การใช้ RAM ของ (ซ้าย) Xperia Z5, (ขวา) Xperia X Performance

สำหรับแอปพื้นฐานที่ทางโซนี่ให้มานั้นก็มีคล้ายๆ เดิมครับ โดยเป็นกลุ่มแอปสาย Media ได้แก่ Album, Music, Video ทั้งสองเครื่องไม่ต่างกันเลย สำหรับเวอร์ชันของแอปนั้นก็เหมือนกันครับ และแอปกลุ่มนี้อัพเดตได้ผ่าน Play Store ที่โซนี่ก็ปล่อยอัพเดตออกมาเป็นระยะๆ ผมจะขอข้ามส่วนของแอปพวกนี้ไป และเจาะประเด็นต่อในเรื่องของจุดที่มีความแตกต่างนะครับ

ระบบเสียง

ระบบเสียงก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่โซนี่นำมาโฆษณามือถือ Xperia และผมก็ได้ทดสอบเปรียบเทียบระหว่าง Xperia Z5 กับ Xperia X Performance ทั้งการฟังเสียงจากลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้าเครื่อง, ผ่านหูฟัง และทดสอบการปรับแต่งเสียงตามออปชันพิเศษที่ทางโซนี่ใส่มาให้ในมือถือเรือธงทั้งสองรุ่นครับ

ลำโพงสเตอริโอ

สัมผัสแรกหลังจากผมได้ทดลองฟังเสียงจากลำโพงของ Xperia X Performance ผม “รู้สึก” ว่ามันให้เสียงที่ดังดีมากครับ เหมือนจะดังกว่า Xperia Z5 ด้วยซ้ำ แต่เมื่อผมได้ไปลองอ่านรายละเอียดการรีวิวของเว็บไซต์เมืองนอกที่ทดสอบความดังในระดับเดซิเบลก็พบว่าจริงๆ แล้ว Xperia X Performance นั้นให้เสียงที่ดังน้อยกว่า Xperia Z5 ผมเลยมาลองๆ ดูใหม่ และพบว่าอาจจะเป็นเพราะเรื่องของ “การสั่น” ของเครื่อง Xperia X Performance ที่เกิดเมื่อเปิดเสียงลำโพงดังๆ แรงสั่นที่เกิดระหว่างเปิดเสียงนั้นสั่นแรงพอให้มือสั่นเบาๆ ได้ครับ ซึ่งการถือหรือวางเครื่องมันมีผลต่อเสียงที่ออกมาซะด้วย!

ลำโพงของ Xperia X Performance

ลำโพงของ Xperia Z5

ถ้าหากไม่นับเรื่องความดังของเสียงลำโพง โดยส่วนตัวแล้วผมชอบเสียงที่ได้จาก Xperia X Performance มากกว่า Xperia Z5 ทั้งเสียงร้องและเสียงดนตรี และเพลงต่างๆ รวมถึงเสียงเอฟเฟกต์ยิบย่อยต่างๆ เมื่อฟังบน Xperia X Performance แล้วได้ยินชัดเจนกว่าฟังด้วยลำโพงของ Xperia Z5 แต่สำหรับ Xperia Z5 เองตัวลำโพงก็ไม่ได้แย่นะครับ ถ้าเทียบกันในไลน์ตระกูล Z ผมว่า Z5 จะแพ้ก็คงเป็นเรื่องความดังเมื่อเทียบกับ Z2 นอกจากนั้นถือว่าทำได้ดีในระดับที่น่าพอใจครับ

การฟังเพลงด้วยหูฟัง

ก่อนที่ผมจะได้เครื่อง Xperia X Performance มาทดลองใช้งาน ผมก็ใช้งาน Xperia Z5 มาระยะหนึ่งแล้วครับและได้ซื้อหูฟัง Noise Canceling ของโซนี่เอาไว้ด้วยเพื่อใช้ร่วมกับ Xperia Z5 ให้มันตัดเสียงรบกวนเวลาเดินทางไปไหนมาไหน หูฟังที่ว่าเป็นหูฟังรุ่น MDR-NC750 ที่เปิดตัวมาพร้อมกับตระกูล Z5 เมื่อปลายปี 2015 ครับ ในการทดสอบผมก็เลยใช้หูฟังตัวนี้เป็นหนึ่งในตัวที่ใช้ทดสอบไปเลย สำหรับอีกรุ่นหนึ่งคือ Headphone MDR-10R ของโซนี่เช่นกัน (ขออภัยที่ผมไม่ได้ลองกับหูฟังแบรนด์อื่น) ซึ่งเป็น Headphone ที่ปกติผมใช้กับ PC ครับ

 

หูฟัง MDR-NC750, ไมโครโฟนตัดเสียงใช้สนทนาได้ด้วยในตัวม ใช้ jack 5 ขั้ว

สำหรับ Xperia X Performance นั้นตอนที่เริ่มเสียบหูฟังฟังเพลงครั้งแรกก็พบว่า Xperia X Performance นั้นให้เสียงที่มีมิติกว่า Xperia Z5 ทิศทางของเสียงดีกว่า ถ้าเปรียบเทียบก็คือเสียงของ Xperia Z5 นั้นจะเหมือนอยู่ตรงด้านหน้าๆ อัดๆ กัน แต่ของ Xperia X Performance จะกระจายได้กว้างขึ้น เสียงร้องกับดนตรีแยกกันชัดกว่า ซึ่งทำให้บางครั้งรู้สึกว่า Xperia X Performance ให้เสียงที่ดังชัดเจนกว่าในบางเพลง สำหรับการใช้ Headphone ฟังนั้นจะรู้สึกว่าความดังไม่ต่างกันเท่าไรนัก แต่ถ้าหากเป็นหูฟัง in-ear (อย่างที่ทดสอบคือ MDR-NC750) ฟังจะรู้สึกว่าเสียงจาก Xperia X Performance นั้นดังกว่า Xperia Z5 ค่อนข้างชัดเจนครับ

ภาพแรก: Xperia X Performance ใช้งาน DSEE HX กับ Auto Optimization ได้พร้อมกัน

ภาพสอง-สาม: บน Xperia Z5, Auto Optimization อยู่ในเมนู Sound Effects และโดนปิดเมื่อเปิด DSEE HX

หน้าตั้งค่าเสียงนั้นสามารถเข้าได้ทั้งผ่านทางหน้า Settings ก็มีการเชื่อมเข้ากับการตั้งค่าเสียงของแอป Music และ Video ให้เข้าถึงได้สะดวกครับ จุดแตกต่างอีกจุดหนึ่งระหว่าง Xperia Z5 กับ Xperia X Performance นั้นก็คือการใช้งานฟังก์ชัน DSEE HX ที่ปรับเสียงเพลงให้ใกล้เคียงกับเพลงความละเอียดสูง (Hi-Res, 96KHz, 24bit) กับ Automatic Optimization เป็นฟังก์ชันสำหรับการปรับโทนเสียงให้เหมาะสมกับหูฟังที่เสียงโดยวิเคราะห์จากเรื่องความต้านทานของหูฟัง (และน่าจะเสียงรอบข้างด้วย เพราะผมเคยเจอมันขอ permission ใช้งานไมโครโฟน) ซึ่งใน Xperia Z5 นั้นเมื่อเปิด DSEE HX จะไม่สามารถใช้งาน Automatic Optimization ได้ แต่ใน Xperia X Performance นั้นสามารถใช้งานร่วมกันได้

Automatic Optimization ที่โซนี่ใส่มาให้เฉพาะเรือธง (และ Xperia X) เมื่อเปิดใช้งานตัวระบบจะปรับเสียงอยู่ 2-3 ครั้งจึงเข้าที่ สังเกตว่าการปรับเสร็จสมบูรณ์จากปุ่มเปิด-ปิด (ภาพกลางยังปรับไม่เสร็จ)

โดยตัวฟังก์ชัน DSEE HX นั้นเปิดใช้งานแล้วผมว่ารู้สึกเพลงมีรายละเอียเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บางเพลงอาจจะไม่รู้สึกว่าแตกต่าง ในหลายๆ เพลงที่ปรับใช้ DSEE HX เมื่อฟังแล้วจะพบว่าเหมือนสเตจของเสียงกว้างขึ้นเล็กน้อย และรู้สึกว่าเพลงเบาลงไปรวมถึงเสียงเบสก็จะตกไปหน่อย ซึ่งจากที่ผมใช้งานบน Xperia Z5 จะรู้สึกว่าเบาลงไปจนต้องปรับเสียงขึ้นมาอีก 1 ถึง 2 ระดับเพื่อให้ได้ความดังใกล้กับฟังแบบปกติ แต่สำหรับ Xperia X Performance นั้นเมื่อเปิดใช้ DSEE HX พร้อมกับ Automatic Optimization จะสัมผัสได้ว่าเพลงมีความดังขึ้น และเบสจะหนักขึ้น ทำให้กลายเป็นว่าได้ความดังใกล้เคียงกับการปิด DSEE HX แต่ได้รายละเอียดเสียงเพิ่มขึ้น และใช้ volume เสียงเท่าเดิม ทำให้ผมมองว่า Xperia X Performance นั้นให้เสียงได้ดีกว่า Xperia Z5 ในระดับที่ชัดเจนและน่าพอใจครับ

หน้าจอแสดงผล

หน้าจอเครื่องเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มือถือ Xperia นั้นแตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ เพราะทางโซนี่ได้นำจอ TRILUMINOS มาใช้กับ Xperia รุ่นระดับบนๆ โดยจอ TRILUMINOS นั้นก็เป็นจอแบบ IPS นี่แหละครับ เพียงแต่ว่าจะมีการจัดวาง LED ในแผงจอแตกต่างไปจากจอทั่วไปเพื่อให้แสดงช่วงสีได้กว้างขึ้น ในการเปรียบเทียบหน้าจอนั้นผมได้เอาภาพตัวอย่างที่โซนี่แถมมากับเครื่องมาเปิดทดสอบเทียบกับ Xperia Z5 และ Xperia X Performance ไปเลยว่ารุ่นไหนให้สีให้แสงสว่างเป็นอย่างไร ลองดูภาพเปรียบเทียบด้านล่างได้เลยครับ เครื่องบนที่จอใหญ่กว่าเล็กน้อยนั่นคือ Xperia Z5 และเครื่องล่างก็คือ Xperia X Performance ครับ (แต่ละภาพคลิกเพื่อดูภาพใหญ่ได้นะครับ)

จากการเปรียบเทียบผมพบว่าจอของ Xperia X Performance นั้นจะมี Dynamic Range ของสีที่กว้างกว่า Xperia Z5 ครับ เห็นได้จากบางตำแหน่งในภาพที่จอ Xperia Z5 จะแสดงสีออกมาค่อนข้างจืดใกล้ขาว แต่ Xperia X Performance นั้นยังแสดงสีสันออกมาได้ชัดเจนนั่นเอง

ในส่วนของความสว่างของหน้าจอนั้นมองจากภาพเปรียบเทียบนี้อาจจะมองยากไปหน่อย เพราะแสงสีขาวจาก Xperia Z5 ทำให้ดูเหมือนสว่างกว่าเล็กน้อย แต่จากการใช้งานจริงผมพบว่าเมื่ออยู่กลางแดดแรงและปรับแสงให้เป็น Adaptive Brightness (ปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ) หน้าจอของ Xperia X Performance นั้นจะสว่างกว่า Xperia Z5 ทำให้มองจอกลางแดดได้ชัดกว่าครับ เทียบแล้วอาจจะสว่างได้ใกล้เคียง Xperia Z3 เลยครับ

แบตเตอรี่

การใช้งานแบตเตอรี่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์สำคัญที่ทางโซนี่โฆษณาว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน เมื่อเทียบสเปคแล้วทั้ง Xperia Z5 ที่มีแบตเตอรี่ความจุ 2,900 mAh และ Xperia X Performance ที่แบตเตอรี่มีความจุ 2,700 mAh นั้นต่างดูมีความจุน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับเรือธงจากยี่ห้ออื่นๆ และเป็นที่ครหาว่าจะใช้งานได้ยาวนานจริงหรือ ไปดูกันครับว่าจริงเท็จแค่ไหน เริ่มจาก Xperia Z5 ที่ผมใช้งานมานานกว่า ข้อมูลที่เก็บไว้จะเยอะกว่าหน่อยครับ

ภาพข้างบนเป็นการที่ทดลองวางทิ้งไว้ทั้งคืนไม่ชาร์จครับ จะเห็นว่าช่วงกลางคืนแบตจะแทบไม่ขยับเลย ส่วนนึงน่าจะเพราะฟีเจอร์ Doze ของ Android ครับ

จากภาพรวมการใช้งานของ Xperia Z5 นั้นก็พอจะสรุปได้ว่าใช้งานในหนึ่งวันเต็มๆ ได้สบายๆ ครับ แต่ในกรณี “2 วัน” ตามที่โฆษณานั้นจะเป็นได้ก็ต่อเมื่อระหว่างวันไม่ได้ใช้งานหนัก เช่น ใช้เฉพาะระหว่างการเดินทาง ช่วงเวลางานก็วางเครื่องไว้ ก็พอที่จะทำให้แบตเตอรี่อยู่นานขึ้นอีกเล็กน้อย

มาต่อกันที่ฝั่งของ Xperia X Performance ที่ให้แบตเตอรี่มาน้อยกว่าครับ ว่าการใช้งานแบตเตอรี่เป็นอย่างไรบ้าง

จากการใช้ Xperia X Performance นั้นผมพบว่าถ้าใช้งานทั่วไป ไม่ได้เปิดเกมอะไรเล่นหนักหน่วงหรือใช้จอเปิดนานๆ ก็ได้อายุการใช้งานใกล้เคียงกับ Xperia Z5 เลยครับ แต่อย่าลืมว่า Xperia X Performance ได้แบตเตอรี่ความจุน้อยกว่า Xperia Z5 อยู่ 200 mAh ที่ก็เรียกว่าลดไปไม่น้อย ผมก็คงออกความเห็นว่าสำหรับ Xperia X Performance นั้น อายุการใช้งานแบตเตอรี่สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นสามารถใช้งานผ่านพ้น 1 วันได้สบายๆ ครับ แต่ก็ไม่ถึง 2 วันดีอย่างที่โฆษณา

ผมไปเอะใจเจอข้อสังเกตเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่ของ Xperia X Performance อยู่จุดนึงครับ ในตอนที่ผมเสียบชาร์จมือถือ ผมพบว่าแบตเตอรี่ของ Xperia X Performance ชาร์จขึ้นช้ากว่า Xperia Z5 ครับ ไม่ต่างชัดเจนแต่ก็สังเกตได้ จึงไม่แน่ใจว่าเฉพาะช่วงของแบตเตอรี่ (ตอนที่พบ แบตประมาณ 30%) หรือว่าเป็นเรื่องการทำงานของเทคโนโลยีจาก Qnovo ที่โซนี่ใช้กับแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งานของเซลล์แบตเตอรี่ให้เสื่อมสภาพช้าลง

Benchmark

มาถึงช่วงสุดท้ายของการเปรียบเทียบในตอนที่ 2 แล้วครับ นั่นก็คือการเทียบผลคะแนน Benchmark ด้วยแอป Benchmark ชื่อดัง โดยผมได้เลือกแอป AnTuTu, 3D Mark, Geekbench และ A1 SD Bench มาใช้งานทดสอบเปรียบเทียบกัน โดยเริ่มจากผลของ AnTuTu ก่อนเลยครับ โดยภาพซ้ายจะเป็น Xperia Z5 ส่วนขวาจะเป็น Xperia X Performance นะครับ

เปิดมาด้วย AnTuTu คะแนนก็พอจะเดาได้แหละครับ ด้วยชิปที่ใช้ต่างกันคนละปี ทาง Xperia Z5 ที่ใช้งาน Snapdragon 810 ก็ไปแพ้ไปตามระเบียบ ส่วน Xperia X Performance นั้นได้คะแนนอยู่ที่ 127,442 คะแนน เมื่อเปิดการจัดอันดับของ AnTuTu เทียบแล้วก็พบว่าคะแนนแพ้ LG G5 และ Galaxy S7 Edge ไปพอสมควรครับ

สำหรับ 3D Mark นั้นฝั่ง Xperia X Performance ก็นอนมาด้วยชิป Snapdragon 820 อย่างที่ควรจะเป็นครับ ก็จะเห็นว่าเฟรมเรทในการทดสอบแต่ละอย่างของ 3D Mark ต่างกันชัดเจน ทำให้ Xperia X Performance ชนะไปที่คะแนน 2,361 คะแนนกับการทดสอบด้วย Sling Shot Benchmark และเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ จะพบว่า Xperia X Performance นั้นทำคะแนนได้ไม่แย่เลยครับ จะแพ้ก็แค่ Galaxy S7/S7 Edge รุ่น Snapdragon 820 กับ OnePlus 3 เท่านั้น

ต่อกันด้วยผลทดสอบของ Geekbench ครับ เทียบกับนว่าระหว่าง Snapdragon 810 octa-core ที่ใช้อยู่บน Xperia Z5 กับ Snapdragon 820 quad-core บน Xperia X Performance ว่าประสิทธิภาพแตกต่างกันขนาดไหนและจำนวนคอร์จะมีผลมากน้อยแค่ไหนในการทำงานแบบ Multi-core 

จากคะแนนการทดสอบนี่เรียกว่า Snapdragon 820 ทำคะแนนได้เกือบ 2 เท่าของ Snapdragon 810 เลยครับ และคะแนน Multi-core เอง แม้ว่า Snapdragon 820 จะมี 4 คอร์ ก็ยังทำคะแนนชนะ Snapdragon 810 ที่มี 8 คอร์ไปได้สบายๆ เลยครับ (หรือพูดอีกอย่างอาจจะบอกว่าได้ว่าทาง Qualcomm แก้ตัวจาก Snapdragon 810 ที่มีปัญหาเยอะได้สำเร็จนั่นเอง ฮ่าๆ)

หลังจากที่ทั้ง Xperia Z5 และ Xperia X Performance ผ่านการทดสอบด้วยแอป Benchmark ทั้ง 3 ตัว (ตอนทดสอบ ทำต่อเนื่องเลย) ผมก็ได้เปิดดูอุณหภูมิเครื่องเทียบกันด้วยว่าทั้ง 2 รุ่นนั้นหลังจากทำงานหนักมาจะมีอุณหภูมิขึ้นไปอยู่ที่เท่าไร ก็ได้ผลออกมาดังภาพข้างล่างเลยครับ

เรียกได้ว่าต่างกันลิบลับเลยครับสำหรับอุณหภูมิของ Xperia Z5 ที่ใช้ Snapdragon 810 ที่แม้จะมีท่อไปป์ทองแดงคู่ระบายความร้อนก็ยังขึ้นมาสูงเกือบจะเกิน 50 องศาเซลเซียส ในขณะที่ Xperia X Performance ที่ฝาหลังเป็นโลหะและใช้ชิป Snapdragon 820 มีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำอยู่ที่ไม่เกิน 40 องศาเซลเซียสครับ เรียกได้ว่าไม่รู้สึกความร้อนที่ตัวเครื่องเลยก็ได้

นอกจากการทดสอบ Benchmark ที่เกี่ยวกับชิปประมวลผลแล้วผมก็ได้ใช้ A1 SD Bench ในการทดสอบหน่วยความจำภายในกับ RAM ด้วยว่าทั้ง 2 รุ่นมีประสิทธิภาพแตกต่างกันแค่ไหน ไปดูผลการทดสอบกันครับ

ทั้งหน่วยความจำภายในและ RAM ของ Xperia X Performance นั้นมีประสิทธิภาพสูงกว่า Xperia Z5 มากทีเดียวครับ ดูจากอัตราการอ่าน/เขียนของหน่วยความจำภายในของ Xperia X Performance ที่ได้ผลอยู่ที่ 191.56MB/s และ 131.14MB/s ตามลำดับ เทียบกับ Xperia Z5 ที่ได้แค่ 87.10MB/s และ 54.29MB/s และในส่วนของ RAM ก็เช่นกัน ความเร็วของ RAM บน Xperia X Performance อยู่ที่ 13,199.33 MB/s ในขณะที่บน Xperia Z5 นั้นอยู่ที่แค่ 4,621.20MB/s

ด้วยความสงสัยผมก็ได้เทียบกับมือถือนี่ห้ออื่นๆ ของปี 2016 นี้ ก็พบว่าหลายรุ่นมีความเร็วของทั้ง RAM และหน่วยความจำภายในอยู่ในระดับเดียวกับของ Xperia X Performance แล้วครับ และบางรุ่นก็สูงกว่านี้อีกด้วย (ทราบมาว่าของ OnePlus 3 ก็เร็วมาก เร็วกว่า Xperia X Performance ด้วย) ก็คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องชิปหน่วยความจำที่อุตสาหกรรมเลือกนำมาใช้กับในปีนี้ และมีการพัฒนามากขึ้นกว่าของปีที่แล้วครับ

สรุปผลจนถึง ณ ตอนนี้ สำหรับการใช้งานทั่วไปและผลการทดสอบต่างๆ ผมยังหาจุดที่ Xperia X Performance ด้อยกว่า Xperia Z5 ไม่เจอเลยครับ สำหรับการใช้งานแต่ละอย่างก็ไม่มีปัญหาอะไร ผมใช้งานในแต่ละวัน เล่นเน็ต youtube อ่านข่าว ฟังเพลง เปิด GPS นำทาง (อันนี้ผมไม่ทันได้ทดสอบ แต่ GPS ของ Xperia X Performance ก็ถือว่าแม่นนะครับ) และอีกหลายๆ อย่างก็ยังไม่เจออะไรให้น่าหงุดหงิดหรือรู้สึกรำคาญ ใช้ๆ ไปแล้วจะเริ่มชอบมากกว่า Xperia Z5 ด้วยซ้ำ จะมีจุดติเล็กๆ ก็คือผมใช้ Xperia Z5 ที่จอใหญ่กว่า (5.2 นิ้ว) มาใช้ Xperia X Performance ที่จอเล็กกว่า (5 นิ้ว) ก็รู้สึกไม่ชินเรื่องขนาดจอนิดหน่อย ใช้งานทั่วไปไม่ค่อยรู้สึกครับ แต่เวลาเปิดวิดีโอ youtube ดูจะอึดอัดนิดๆ แต่อันนี้ผมว่าแล้วแต่คน เพราะบางคนชอบใหญ่จอเล็กไม่เหมือนกันครับ


 

สำหรับการเปรียบเทียบระหว่าง Xperia Z5 กับ Xperia X Performance ในตอนที่ 2 ก็คงจบลงเท่านี้ครับ ไว้เจอกันใหม่ในรอบต่อไปในตอนสุดท้าย ตอนที่ 3 ที่ผมจะเน้นการเปรียบเทียบภาพถ่ายจากกล้องของทั้ง 2 รุ่น มาดูกันเลยว่าโซนี่พัฒนากล้องบนมือถือไปถึงไหนแล้ว ดีขึ้นหรือยัง สู้ชาวบ้านได้มั้ย สำหรับงวดนี้ผมขอจบลงเพียงเท่านี้ครับ เจอกันใหม่ตอนหน้าครับ