ช่วงปลายปี 2023 ใครที่มีงบจำกัดสุด ๆ แต่อยากได้มือถือดี ๆ ราคาประหยัดสักเครื่องมาใช้งานเป็นเครื่องหลัก หรือเครื่องสำรอง เราได้คัดมือถือ 10 รุ่นที่ราคาไม่เกิน 5,000 บาท และเปิดตัวในช่วงหลังของปี 2023 มาให้เลือกตัดสินใจซื้อกัน ซึ่งแต่ละรุ่นที่เปิดตัวออกมาในช่วงท้ายปีนี้ก็เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก ๆ

ZTE Blade A34 (2,299 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ราคาถูกที่สุด | ความจุเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป | ได้พอร์ต USB-C

ใครที่มีงบต่ำกัดมาก ๆ ไม่เกิน 2,500 บาท แต่อยากได้มือถืออินเตอร์แบรนด์ที่พอมีชื่อเสียง ZTE Blade A34 ถือเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะมาในราคาเพียง 2,299 บาทเท่านั้น แถมยังมีพอร์ต USB-C และได้ Android 13 ใช้งานแอปธนาคารต่าง ๆ ได้

ซึ่งราคานี้ได้จอ IPS ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ ได้ชิป Unisoc SC9863A ที่ความเร็วสูสีกับ Helio G25 พร้อมความจุ 4GB + 64GB ที่เพียงพอกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เล่น Facebook ดู TikTok และ YouTube ได้ แต่การเล่นเกมอาจจะมีติดขัดบ้าง ส่วนแบตเตอรี่ก็มาที่ 5,000 mAh ใช้งานได้เต็มวัน

สเปค ZTE Blade A34

  • หน้าจอ 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720)
  • CPU : Unisoc SC9863A
  • RAM: 4GB (เพิ่ม Virtual RAM ได้สูงสุด 4GB)
  • ความจุ: 64GB รองรับ microSD Card 256GB
  • กล้องหลัง : 5MP
  • กล้องหน้า : 2MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G Dual SIM, Wi-Fi, BT, USB-C, ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จที่กำลังไฟสูงสุด 10W
  • ระบบ Android 13

Xiaomi Redmi A2+ (2,699 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ | ได้รอมคลีน ๆ | หาซื้อได้ง่าย

สำหรับใครที่ต้องการรุ่นที่หาซื้อได้ง่าย ๆ ตามช่องทางออฟไลน์ หรือห้างสรรพสินค้า และได้แบรนด์ที่จัดว่าอยู่ในท็อป 5 ของตลาดสมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi A2+ ถือเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุดแล้ว ส่วนสเปคที่ได้มานั้นก็ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะได้ชิป Helio G36 ที่ความเร็วเขยิบจาก Unisoc SC9863A ขึ้นมานิดหน่อย มาพร้อมความจุ 3GB + 64GB ที่เหมาะสำหรับการใช้งานแอปธนาคาร เล่นโซเชียล ดู YouTube ได้ทั่วไป ให้แบตเตอรี่ 5,000 mAh ใช้งานได้เต็มวัน

ส่วนไฮไลต์ของรุ่นนี้นั้นอยู่ที่ตัวระบบปฏิบัติการที่คลีน ๆ อีกทั้งยังเป็น Android 13 Go Edition ที่มีการลดทอนฟีเจอร์ต่าง ๆ ทำให้ประหยัดพื้นที่ตัวเครื่อง และง่ายต่อการใช้งาน พร้อมอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยให้ถึง 2 ปี แถมยังเป็นมือถือรุ่นต่ำกว่า 3,000 บาทเพียงไม่กี่รุ่นที่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาให้ด้วย แต่น่าเสียดายที่พอร์ตเชื่อมต่อในรุ่นนี้ยังเป็นมาตรฐานเก่าอย่าง microUSB อยู่ ทำให้รองรับการชาร์จที่กำลังไฟ 10W เท่านั้น

สเปค XIAOMI REDMI A2+

  • หน้าจอ IPS 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1600 x 720)
  • CPU : Helio G36
  • RAM:(LPDDR4x) 3GB
  • ความจุ (eMMC 5.1) : 64GB รองรับ microSD Card 1TB
  • กล้องหลัง : 8MP (f/2.0)
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 2.4GHz, BT 5.0, Micro USB, ช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : Accelerometer, สแกนลายนิ้วมือ
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จ 10W
  • ระบบ Android 13 Go Edition
  • ขนาด / น้ำหนัก : 164.9 x 76.75 x 9.09 / 192 กรัม

TCL 406s (2,799 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ได้กล้องคู่ความละเอียดสูง 13MP | ได้ลำโพงคู่ | รองรับ Wi-Fi 5

TCL 406s น่าจะเป็นมือถือราคาประหยัดที่น่าจะถูกใจสายเอ็นเตอร์เทนพอสมควร เพราะได้ทั้งหน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 6.6 นิ้ว ที่มาพร้อมเทคโนโลยี NXTVISION ที่ทางแบรนด์เคลมว่าให้สีสันที่ดี และมีฟีเจอร์ถนอมสายตา แถมยังให้ลำโพงคู่ ที่ช่วยให้การฟังเพลง และดูหนังมีมิติมากขึ้น ซึ่งในงบไม่ถึง 3,000 บาทหาได้ยากมาก ๆ  อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 5 ด้วย

ด้านกล้องถ่ายภาพรุ่นนี้ก็ให้กล้องที่ความละเอียดสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ในเรตเดียวกัน โดยให้กล้องหลังมา 2 ตัวประกอบด้วยกล้องหลัก 13MP + กล้อง Depth วัดระยะตื้นลึก 2MP ส่วนกล้องหน้าให้มาที่ 5MP ด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้ใช้ชิป Helio G25 มาพร้อมความจุ 4GB + 64GB ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 13 ใช้งานแอปธนาคารได้ แถมยังมีประกันจอแตกให้ 1 ปี เปลี่ยนจอได้ฟรี 1 ครั้งด้วย

สเปค TCL 406s

  • หน้าจอ IPS NXTVISION 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720)
  • CPU : Helio G25
  • RAM: 4GB (เพิ่ม Virtual RAM ได้สูงสุด 2GB)
  • ความจุ : 64GB รองรับ microSD Card 512TB
  • กล้องหลัง 2 ตัว
    – กล้องหลัก 13MP (f/2.2)
    – กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5GHz, BT 5.1, USB-C
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่, มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : G-Sensor
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จ 10W
  • ระบบ Android 13
  • ขนาด / น้ำหนัก : 164.66 x 75.4 x 8.99 / 190 กรัม

Samsung Galaxy A05 (3,699 – 4,299 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: จอใหญ่ 6.7 นิ้ว | ชิปแรง Helio G85 | กล้องคมชัด 50MP | ชาร์จไว 25W | การันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ 2 ปี

Samsung Galaxy A05 เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะในงบที่เพิ่มจาก 3 รุ่นก่อนหน้าประมาณ 1,000 บาท ได้ทั้งจอขนาดใหญ่เต็มตา 6.7 นิ้ว อีกทั้งยังได้ชิป Helio G85 ที่แรงขึ้นกว่า Helio G35 เป็นเท่าตัว มาพร้อมความจุ 4GB + 64GB รองรับการเล่นเกมฮิต ๆ ทั้ง ROV, PUBG Mobile และ Free Fire และถ้าเพิ่มงบขึ้นมาอีกนิดหน่อยก็จะได้ความจุเพิ่มขึ้นเป็น 128GB โหลดเกม โหลดแอปได้เยอะขึ้น

นอกจากนี้ Galaxy A05 ยังมีจุดเด่นที่เรื่องกล้องถ่ายภาพที่มาในความละเอียดสูง 50MP + กล้อง Depth 2MP ด้านกล้องเซลฟี่ก็ให้มาที่ความละเอียด 8MP สูงกว่ารุ่นอื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกัน อีกทั้งยังได้แบตเตอรี่ 5,000mAh และรองรับชาร์จไวที่ 25W ด้วย และยังมีการการันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ให้นาน 2 ปี ทั้งตัวระบบปฏิบัติการและแพตช์ความปลอดภัย รับรองว่าใช้งานได้นานอีกหลายปีเลย

สเปค Samsung Galaxy A05

  • จอภาพ : PLS LCD ขนาด 6.7 นิ้ว
    – ความละเอียด HD+
    – อัตรารีเฟรช 60Hz
  • ชิปเซต : Helio G85
  • RAM 4GB
  • ROM 64GB (3,699 บาท) / 128GB (4,299 บาท)
    – รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 50MP
    – กล้องจับความลึก 2MP
  • กล้องหน้า : 8MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 2.4/5GHz, BT 5.3, USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์ : accelerometer, proximity
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 25W
  • ระบบปฏิบัติการ : One UI 5.1 (Android 13)
    – อัปเดตซอฟต์แวร์ 2 ปี
  • ขนาด : 168.8 x 78.2 x 8.8 มม.
  • น้ำหนัก : 195 กรัม

realme C51 (3,999 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: จอใหญ่ 6.74 นิ้ว รีเฟรชเรต 90Hz | กล้องคมชัด 50MP | ชาร์จไว 33W | น้ำหนักเบา

realme C51 เรียกได้ว่าถอดแบบสเปคมาจากรุ่นพี่ C53 ในราคาที่เบากว่ากันพอสมควร ซึ่งในราคา 3,999 บาท รุ่นนี้ให้มาทั้งจอ 6.74 นิ้วที่ทั้งใหญ่ และรองรับรีเฟรชเรตลื่นไหล 90Hz อีกทั้งได้ใช้ชิปตัวเดียวกับรุ่นพี่อย่าง UNISOC T612 ที่แรงสูสีกับ Helio G85 มาพร้อม RAM LPDDR4X 4GB และความจุขนาด 64GB แถมยังได้ตัวเครื่องที่น้ำหนักเบามาก ๆ เพียง 186 กรัม เท่านั้น

นอกจากนี้ realme C51 ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000 mAh รองรับชาร์จไว SUPERVOOC 33W โดยทางแบรนด์เคลมว่าชาร์จจาก 0 – 50% ใช้เวลาเพียงแค่ 28 นาทีเท่านั้น  ด้านกล้องก็ให้มาแบบจัดเต็ม ได้กล้องหลัง 2 ตัว เป็นกล้องหลัก 50MP + กล้องจับความลึก ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มาที่ 5MP

สเปค realms C51

  • หน้าจอขนาด 6.74 นิ้ว ความละเอียด HD+ รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : UNISOC T612
  • RAM : 4GB รองรับ Dynamic RAM เพิ่มได้อีก 4GB
  • ความจุ : 64GB รองรับ microSD Card 2TB
  • กล้องหลังคู่
    – กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
    – กล้องจับความลึก
  • กล้องหน้า : 5MP
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 2.4/5GHz, BT 5.0, USB Type-C 2.0
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง), accelerometer, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย realme UI T Edition

HONOR X6a (3,999 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ความจุเยอะ 128GB | ได้จอลื่น 90Hz | แบตเยอะ 5,200 mAh | กล้องชัด 50MP

HONOR X6a เป็นมือถือราคาประหยัด 1 รุ่นที่น่าสนใจ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใช้ชิปแรง แต่ก็ได้ความจุ 128GB ที่เยอะกว่ารุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกันมาแทนที่ ทำให้โหลดแอป เก็บรูปได้เยอะกว่าเพื่อน แถมยังได้จอ 90Hz ที่ทำให้การใช้งานลื่นไหลมากขึ้น และสำหรับใครที่อยากได้มือถือแบตเตอรี่อึด ๆ รุ่นนี้ถือว่าจัดเต็ม เพราะให้แบตมาเยอะถึง 5,200 mAh ดูวิดีโอออนไลน์ได้นานถึง 17.8 ชั่วโมง และรองรับชาร์จไวที่ 22.5W ชาร์จจาก 0 – 31%. ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้น

สำหรับใครที่ชอบถ่ายรูป รุ่นนี้ก็ให้กล้องมาถึง 3 ตัว ซึ่งประกอบไปด้วย กล้องหลัก 50MP + กล้อง Macro 2MP + กล้อง Depth 2MP พร้อมกล้องเซลฟี่ 5MP เรียกได้ว่าครบครันกับการใช้งานสุด ๆ

สเปค HONOR X6a 

  • จอ TFT-LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล) รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : ซีพียู MediaTek Helio G36
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ microSD card
  • กล้องหลัง :
    – กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
    – กล้องมาโคร (f/2.4)
    – กล้องจับความลึก  (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, Wi-Fi 5 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 5.1, USB-C 2.0
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง), Accelerometer Sensor, Ambient Light Sensor, Proximity Sensor
  • แบตเตอรี่ : 5200 mAh, รองรับชาร์จไว 22.5W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย Magic UI 7.1

OPPO A18 (4,499 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ตัวเครื่องทนละอองน้ำ IP54 | จอลื่นไหล 90Hz | ความจุเยอะ 128GB | ลำโพงดัง

แฟน ๆ ของ OPPO ที่มีงบน้อย OPPO A18 ถือเป็นรุ่นที่ราคาประหยัดที่สุดที่เปิดตัวมาในปีนี้ ซึ่งในราคา 4,499 บาท รุ่นนี้ให้ตัวเครื่องที่ทนละอองน้ำ และทนฝุ่นระดับ IP54 ไม่ต้องกลัวว่าเวลาฝนตกแล้วมือถือจะพัง อีกทั้งยังได้จอลื่นไหล 90Hz ที่สว่างถึง 720 nits ช่วยให้มองในที่กลางแจ้งได้ชัดยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ตัวลำโพงของ OPPO A18 ยังมาพร้อมกับโหมด Ultra Volume ที่สามารถเร่งเสียงได้ดังทะลุหลอดถึง 300% ส่วนด้านประสิทธิภาพนั้นมาพร้อมกับชิป Helio G85 พร้อมความจุ 4GB + 128GB ส่วนแบตเตอรี่ให้มาที่ 5,000 mAh ที่ทางแบรนด์เคลมว่าเล่นเกมได้นานถึง 7 ชั่วโมง

สเปค OPPO A18

  • จอภาพ : LCD  ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720 พิกเซล) รีเฟรชเรท 90HZ สว่าง 720 nits
  • CPU :MediaTek Helio G85
  • RAM (LPDDR4x) : 4GB
  • ความจุ EMMC 5.1 : 128GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลังคู่
    – กล้องหลัก 8MP (f/2.0)
    – กล้อง Depth  2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 5MP ( f/2.2)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.3, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่อง, accelerometer, proximity, compass
  • มาตรฐานกันน้ำ : IP54
  • ระบบเสียง : ลำโพงเดี่ยว เพิ่มเสียงดังสุด 300%, มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh
  • ระบบปฏิบัติการ: Android 13 ครอบทับด้วย ColorOS 13.1
  • ขนาด / น้ำหนัก :  163.74 x 75.03 x 8.16 มม./ 188 กรัม

Xiaomi Redmi 12 (4,499 – 4,899 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ได้จอใหญ่ 6.79 นิ้ว | จอคมชัด Full HD+ 90Hz | กล้องหลัง 50MP มีเลนส์ Ultrawide | ทนละอองน้ำ IP53

Redmi 12 4G เป็นรุ่นที่ดูพรีเมียมมากที่สุดในกลุ่มราคาประหยัด เพราะได้ทั้งดีไซน์ฝาหลังที่ใช้วัสดุกระจกที่รองรับมาตรฐานทนละอองน้ำ IP53 แถมจอแสดงผลยังมาในดีไซน์แบบเจาะรู และมีขนาดใหญ่มาก ๆ 6.79 นิ้ว แถมยังให้ความละเอียดมาที่ Full HD+ ทำให้จอค่อนข้างชัดกว่ารุ่นอื่น ๆ อีกทั้งยังได้รีเฟรชเรตลื่นไหล 90Hz ด้วย

เรื่องกล้องถ่ายภาพถือว่าเป็นอีกจุดเด่นในรุ่นนี้เช่นกัน เพราะ Redmi 12 4G เป็นเพียงรุ่นเดียวในนี้ที่ให้กล้อง Ultrawide 8MP มาด้วย ส่วนกล้องหลักก็ให้มาแบบจัดเต็ม 50MP และมีเลนส์ Macro 2MP มาให้ด้วย ส่วนกล้องเซลฟี่ให้มาที่ 8MP ด้านประสิทธิภาพรุ่นนี้มากับชิป Helio G88 พร้อมความจุเริ่มต้น 4GB + 128GB แต่ถ้าใครอยากได้ RAM เยอะกว่านี้ ก็มีรุ่น RAM 8GB ให้เลือกด้วยในราคา 4,899 บาท ซึ่งจะเกินงบมานิดหน่อย

สเปค Redmi 12

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.79 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2460 x 1080) รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Helio G88
  • RAM : 4GB (เพิ่ม Virtual RAM ได้)
  • ความจุ  : 128GB รองรับ microSD (Hybrid)
  • กล้องหลัง 3 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
    – กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
    – กล้อง Macro 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.1)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, WiFi 5 802.11a/b/g/n/ac, BT 5.3, USB-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างเครื่อง), accelerometer, compass
  • รูหูฟัง 3.5 มม.
  • มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP53
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 18W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย MIUI 14

vivo Y17s (4,999 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: ได้ RAM 6GB | จอสว่าง 840 nits | กล้องคู่ 50MP ถ่ายคนสวย | ทนละอองน้ำ IP54

ใครที่อยากได้มือถือราคาประหยัด แต่ถ่ายรูปบุคคลสวย ๆ vivo Y17s ก็เป็นอีก 1 รุ่นที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะได้ทั้งกล้องหลังความละเอียดสูง 50MP + กล้อง Bokeh 2MP และกล้องเซลฟี่ 8MP ที่มาพร้อมซอฟต์แวร์บิวตี้แบบจัดเต็มตามแบบฉบับ vivo ทำให้เวลาถ่ายภาพคนได้สวยมาก ๆ ไม่ต้องเข้าแอปแต่งต่อเลย

นอกจากนี้ตัวเครื่องของ vivo Y17s ยังมาในดีไซน์บางเบา แถมยังทนละอองน้ำ IP54 แถมยังได้จอสว่างสูงสุดถึง 840 nits มองเห็นในที่แดดจัด ๆ แถมยังได้เซนเซอร์ครบ ๆ ทั้ง Gyro และ E-Compass ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ไรเดอร์ต่าง ๆ ที่ต้องวิ่งส่งอาหาร ด้านประสิทธิภาพก็ยังให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน ได้ทั้งชิป Helio G85 มาพร้อมความจุ 6GB + 128GB แถมยังได้แบตเตอรี่อึด ๆ 5,000 mAh ด้วย

สเปค vivo Y17s

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (720 x 1612 พิกเซล) สว่างสูงสุด 700 nits
  • CPU : MediaTek Helio G85
  • RAM LPDDR4x :6 GB (6 GB Extended RAM)
  • ROM eMMC 5.1 : 128GB (รองรับ microSD Card 1TB)
  • กล้องหลังคู่
    – กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
    – กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : 4G, Wi-Fi 5 802.11ac, Bluetooth 5.0, USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, proximity, E – compass, Ambient light, Virtual Gyroscope
  • แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
  • ระบบ Android 13 ครอบด้วย Funtouch OS 13
  • มาตรฐาน : กันละอองน้ำ IP54
  • ขนาด / น้ำหนัก : 163.74 x 75.43 x 8.09มม./ 186 กรัม

TECNO Pova 5 (4,999 บาท)

ทำไมน่าซื้อ: สเปคแรงเล่นเกมได้ | จอใหญ่ FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz | กล้องมีโหมดกันสั่น | ได้ลำโพงคู่ DTS | แบตโคตรอึด 6,000 mAh

TECNO Pova 5 มาพร้อมกับสเปคที่จัดเต็มในทุก ๆ ด้านในกลุ่มมือถือราคาไม่เกิน 5,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์คอร์เกมงบประหยัดโดยเฉพาะ เพราะราคานี้ได้ทั้งจอขนาดใหญ่  6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรต 120Hz แถมยังมาพร้อมกับชิป 4G ที่แรงที่สุดอย่าง Helio G99 พ่วงความจุแบบจัดเต็ม 8GB + 128GB แถมยังให้แบตเตอรี่มาถึง 6,000 mAh ใช้งานได้เต็มวันแบบชัวร์ ๆ แถมยังรองรับชาร์จไวที่ 45W ด้วย

REVIEW | รีวิว TECNO Pova 5 มือถือสายเกมสุดแรง พร้อมแบตสุดอึด 6,000 mAh ในราคาตลาดแตก เริ่มต้น 4,999 บาท

TECNO Pova 5 ยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ระบบเสียง DTS รองรับเสียงแบบ Hi-Res อีกทั้งยังได้กล้องคู่ 50MP ที่รองรับโหมดกันสั่นเวลาถ่ายวิดีโอ กล้องหน้ามาพร้อมไฟแฟลช LED แถมยังรองรับโหมดกันสั่นด้วย บอกได้เลยว่าใครที่มองหามือถือเล่นเกมไว้ใช้เอง หรือซื้อให้เด็ก ๆ ที่บ้านเล่น รุ่นนี้ถือว่าเป็นตัวจบจริง ๆ หาที่ไหนไม่ได้แล้ว

สเปค TECNO Pova 5

  • หน้าจอ: LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรท 120Hz
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G99
  • RAM : 8GB รองรับ Extended RAM สูงสุด 8GB
  • ROM: 128GB / 256GB รองรับ microSD Card
  • กล้องหลังคู่ AI
    • กล้องหลัก 50MP มีโหมดกันสั่น
    • กล้อง AI (Depth) 0.08MP
  • กล้องหน้า 8MP มีโหมดกันสั่น
  • เซนเซอร์ : สแกนนิ้วมือข้างเครื่อง, Gyroscope, G-Sensor, Ambient Light, Distance Sensor, E-Compas
  • การเชื่อมต่อ : 4G Dual SIM, Wi-Fi 5Ghz, Bluetooth, USB Type-C 2.0, NFC
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่ DTS รองรับ Hi-Res, มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 6000 mAh รองรับชาร์จไว SmartCharge 45W
    ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย HIOS
  • ขนาด : 168.61 x 76.61 x  9.00 มม.

และนี้คือมือถือราคาประหยัดไม่เกิน 5,000 บาททั้งหมด 10 รุ่นที่น่าสนใจในช่วงท้ายปี 2023 ทั้งนี้ข้อมูลราคา และการวางจำหน่ายในแต่ละแพลตฟอร์มอาจไม่เท่ากัน และถ้าใครที่ใช้โค้ดส่วนลดเก่ง ๆ ในช่วงโปรโมชั่นวันเลขเบิ้ลก็อาจจะได้มือถือมาใช้งานในราคาถูกกว่าที่เราระบุไว้ก็ได้ ส่วนใครที่เคยใช้งานรุ่นไหน มีรุ่นไหนที่น่าสนใจเพิ่มเติม สามารถเข้ามาแชร์เพิ่มเติมกันได้นะ