กลายเป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์ ไปแล้วกับ Huawei Mate 9 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหญ่ ที่เปิดตัวมาได้อย่างน่าสนใจมากๆ (อย่าพูดเรื่องการถ่ายทอดสดนะ XD) แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นกันแล้วว่า Mate 9 นั้นมีหลายสิ่งที่เปิดตัวมาพร้อมกันด้วย เราเลยจัดการนำ 10 สิ่งที่น่าสนใจ ที่เราได้เห็นภายในงานเปิดตัวครั้งนี้มาให้ได้ดูกันครับ
มีเป็นแบบคลิปให้ดูด้วยนะ
1. รุ่นพิเศษ Porsche Design หรูหรา โฉบเฉี่ยว
เหมือนว่า Huawei จะถูกโฉลกกับการ featuring กับแบรนด์ชื่อดังต่างๆ โดยครั้งนี้ Huawei ได้ทำการจับมือกับ Porsche แบรนด์รถสุดหรูระดับพรีเมี่ยม ร่วมกันทำ Mate 9 Porsche Design ที่ถึงแม้ว่าจะเป็น Mate 9 เหมือนกัน แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
Mate 9 Porsche Design มาพร้อมกับตัวเครื่องสีดำ Graphite Black และหน้าจอที่ลดขนาดลงมาเป็น 5.5 นิ้ว แต่เพิ่มความละเอียดเป็น 2560 x 1440 พิกเซล แถมยังเป็นหน้าจอขอบโค้งทั้งสองข้างอีกด้วย แต่ว่าย้ายปุ่มสแกนลายนิ้วมือมาไว้ข้างหน้าแทน ทำให้หน้าตานั้นเหมือนกับของ Samsung อยู่พอสมควร
อีกอย่างที Mate 9 Porsche Design นั้นแตกต่างกับ Mate 9 รุ่นธรรมดาก็คือการอัพเกรด RAM เป็น 6GB และ ROM เป็น 256GB ส่วนสเปคภายในอย่างอื่นนั้นไม่ต่างกับ Mate 9 รุ่นธรรมดาครับ อ่อ อีกอย่างหนึ่งที่ต่างกันมากๆ ก็คือราคาที่กระโดดขึ้นไปเยอะมาก…
2. ชิปสุดแรง Kirin 960
ก่อนที่จะถึงงานเปิดตัว Mate 9 ทาง Huawei ได้เปิดตัวชิป Kirin 960 มาอวดให้เราได้เห็นกันก่อนแล้ว ซึ่งก็คงจะรู้กันแล้วว่า Kirin 960 นั้นไม่ได้มาเล่นๆ เพราะว่าเป็นชิปตัวแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม Cortex-A73 และก็ยังเป็นชิปตัวแรกที่จับคู่กับชิปกราฟฟิก Mali-G71 ซึ่งจากผลการทดสอบ benchmark นั้นแซงทั้ง Snapdragon 821, Exynos 8890 และ Kirin 950 ครับ แต่ก็คงต้องรอดูกันอีกทีตอน Snapdragon 830 และ Exynos 8895 นั้นถูกเปิดตัวออกมานะครับ
3. กล้องคู่ Leica รุ่นอัพเกรด
หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากการจับมือกันระหว่าง Huawei และ Leica มาครั้งนี้เราก็เลยยังได้เห็นกล้องคู่ Leica ใน Mate 9 เช่นเคย แต่ว่าครั้งนี้มีการอัพเกรดขึ้นมาพอสมควร โดยใช้เซนเซอร์ 12 ล้านพิกเซล RGB ร่วมกับเซนเซอร์ 20 ล้านพิกเซล Monochrome ที่เมื่อใช้งานร่วมกันจะทำให้ได้รายละเอียดของภาพเพิ่มมากขึ้นถึง 50%
นอกจากนี้ การใช้งานร่วมกันระหว่างเซนเซอร์ RGB และ Monochrome ทำให้ Mate 9 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ Hybrid Zoom ที่ทำให้สามารถซูมภาพเข้าไปได้ 2x และรายละเอียดนั้นยังคมชัด ไม่แตกเป็นเม็ดพิกเซล
4. แบตเตอรี่ 4,000 mAh สุดอึด
อีกหนึ่งปัจจัยสำหรับการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนก็คือ แบตเตอรี่ ซึ่งครั้งนี้ Huawei Mate 9 ก็เหมือนจะตอบโจทย์เอามากๆ เพราะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 2 วัน
พร้อมกันนี้ยังมีระบบ SuperCharge ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 30 นาที จะได้แบตเตอรี่มาอยู่ 58% โดยสามารถทีจะรับแรงดันไฟและกระแสไฟได้สูงสุดที่ 4.5V/5A และไม่ต้องกลัวว่าจะระเบิดด้วย เพราะว่า Huawei ได้ดีไซน์การป้องกันเรื่องกระแสไฟเอาไว้ถึง 5 ขั้น
5. ไม่ต้องกลัวเครื่องช้าด้วย Machine Learning
หลายๆ คนอาจจะเคยเจอกับปัญหาเครื่องเริ่มช้าเมื่อใช้งานไปได้ซักพัก ซึ่งเกิดจากปัญหาหลายๆ อย่างจากทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ แต่ว่า Huawei Mate 9 นั้นมาพร้อมกับฟีเจอร์ Machine Learning ที่จะช่วยเรียนรู้การใช้งานของผู้ใช้งาน และจัดการทรัพยากรของเครื่องให้ตรงกับที่เราใช้งานมากที่สุด ทำให้ Mate 9 มีความลื่นไหลอยู่เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม
ภายในงาน Huawei ก็มีการจำลองการใช้งานของ Mate 9 และ Galaxy S7 edge เป็นเวลา 18 เดือน ซึ่งผลที่ได้นั้น แสดงให้เห็นว่า Mate 9 นั้นความเร็วแทบจะไม่ตกเลยครับ ยังสามารถเปิดแอพได้อย่างรวดเร็วเหมือนของใหม่ ไม่แน่ว่าต่อไปเราอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนมือถือกันบ่อยๆ แล้วก็ได้นะ
6. EMUI 5.0 with Android 7.0 Nougat
หน้าตาของ EMUI 5.0 เป็น UI ที่ครอบ Android เวอร์ชั่นล่าสุด Android 7.0 Nougat มาอีกที โดย EMUI 5.0 มีดีไซน์ที่ดูสะอาดและสว่างมากขึ้น พร้อมทั้งยังได้ฟีเจอร์ใหม่ๆ จาก Android 7.0 Nougat มาใช้ด้วย อย่างเช่น ฟีเจอร์การใช้งาน multi-window ที่สามารถแบ่งการใช้งานเป็น 2 หน้าต่างได้ ซึ่งเหมาะมากๆ กับหน้าจอของ Mate 9 ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว
7. Dual Instant Messaging แชทรวดเร็วทั้ง 2 บัญชี
ปัจจุบัน การใช้งาน 2 ซิม นั้นเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และคนที่ใช้งานสมาร์ทโฟน 2 ซิมก็จะเจอกับปัญหาว่า เราสามารถลงแอพแชทได้เพียงแค่แอพเดียวเท่านั้น แต่ทาง Huawei นั้นได้ทำการแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ Dual Instant Messaging เข้ามา ทำให้เราสามารถโหลดแอพเดียวกันแยกเป็น 2 แอพ เพื่อให้ใช้งานได้ 2 บัญชีพร้อมกัน
8. Privacy Space ป้องกันข้อมูลส่วนตัวด้วยปลายนิ้ว
ระบบ Privacy Space นั้นช่วยให้เราสามารถเก็บข้อมูลที่เป็นส่วนตัวได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น โดยใช้ตัวสแกนลายนิ้วมือเป็นกุญแจเพื่อเข้าไปถึงข้อมูลนั้นๆ หมายความว่า ทุกคนในครอบครัวสามารถที่จะใช้มือถือเครื่องเดียวกันได้ แต่ข้อมูลที่แต่ละคนเห็นนั้นจะแตกต่างกันไปนั่นเองครับ
9. ป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 5.9 นิ้ว ของ Huawei Mate 9 ก็คงไม่ต้องเดาเลยว่าการใช้งานมือเดียวนั้นจะยากลำบากขนาดไหน บางทีเราอยากจะกดรายชื่อเพื่อนในหน้าโทรศัพท์ แต่ดันไปโดนปุ่มโทรออก หรือบางทีเราอยากจะถ่ายรูป แต่อุ้งมือเราดันไปโดนปุ่มอื่นๆ แทน ทาง Huawei เลยได้ทำการใส่ฟีเจอร์การป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจมาให้ด้วย ซึ่งสามารถป้องกันได้มากขึ้น 65 รูปแบบ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเหตุการกดปุ่มต่างๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ
10. Huawei Fit นาฬิกา Fitness Tracker
อย่างสุดท้ายนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับ Huawei Mate 9 โดยตรง แต่ก็เปิดตัวมาด้วยกัน นั่นก็คือ นาฬิกา fitness tracker ที่มีชื่อว่า Huawei Fit ซึ่งทาง Huawei เคลมว่าสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 6 วัน และสามารถที่จะใส่ลงน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร พร้อมทั้งยังตรวจจับชีพจรการเต้นของหัวใจของเราตลอดเวลาอีกด้วย
Huawei Fit มีด้วยกัน 3 สี ก็คือ สีน้ำเงิน สีดำ และ สีส้ม แถมยังสามารถที่จะแสดงการแจ้งเตือนเวลามีข้อความเข้า หรือมีสายเข้า โดยราคาของ Huawei Fit เปิดตัวมาที่ $129.99 (4,500 บาท)
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 10 สิ่งที่น่าสนใจที่เปิดตัวมาพร้อมกับ Huawei Mate 9 ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าการเปิดตัวส่งท้ายปีรอบนี้ของ Huawei นั้นไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ
รอดูรีวิวกล้องเทียบกะเจ้าอื่นๆเลยครับ แต่ค่ายนี้ไม่ยักจะใส่ฟีเจอร์กันน้ำมาแฮะ
ราคา ที่ยุโรป แลดู เว่อร์ไปเยอะครับ รอดูราคาไทย
อยากทราบว่า Mate 9 ตัวนี้รองรับ daydream มั้ยครับ
แล้วหน้าจอแค่ full hd จะมีปัญหากะการเล่น VR ไหม ภาพจะแตกรึป่าวครับ
ภาพก็อาจจะแตกบ้าง คงไม่ละเอียดเหมือนพวก 2k เพราะเอาจอไปใกล้ตามาก
แต่ว่าเอามือถือไปใกล้ตามาก ๆ ระวังเรื่องคลื่นที่แผ่ออกมาจะเป็นอันตรายต่อดวงตาด้วยดีกว่านะครับ สมัยก่อนจอ CRT ปล่อยแรงมาก ต้องหาที่กรองแสงมาใส่จอ ต่อมาเป็น LCD แรก ๆ ก็มีคนติด แต่มีคนโพสต์ในพันทิพย์ว่ามันแผ่รังสีน้อยกว่ามาก อยู่ห่างเกิน 10 – 15 ซม. ก็ไม่เป็นอันตรายแล้ว ตอนนี้พอจะเข้าสู่ยุค VR เอามาชิดตาประมาณ 10 ซม. ก็ไม่รู้ว่าจอ OLED เดี๋ยวนี้ยังแผ่รังสีกันอยู่อีกมั๊ย แล้วพวกกล่อง VR ที่ใส่จะมีฟิลเตอร์กรองคลื่นพวกนี้ให้หรือไม่
ตัวผมเองยังไม่สนใจอะไรกับ VR มาก เพราะรอพวกงานวิจัยอันตรายออกมาก่อน ค่อยลองดูครับ ซื้อมาเล่นดูขำ ๆ แป๊บเดียวพอแล้ว สายตาเสียไปคงไม่คุ้มครับ
จะมีขายในไทย. ภายในปีนี้หรือเปล่าน้อ?
เครื่องเก่ารอปลดระวาง. อยู่