วันนี้เป็นวันที่ Huawei นัดกับ สคบ. และผู้บริโภคที่ต้องการร้องเรียนกรณี Huawei Mate 9 และ Mate 9 Pro กับชนิดของหน่วยความจำที่ใช้ในการผลิต นั่นก็คือ UFS 2.1 ที่เคยโฆษณาไว้ นั่นเอง ซึ่งวันนี้ทีมงาน droidsans ก็ไปเกาะติดสถานการณ์ที่ สคบ. มาเล่าให้ฟังกันครับ

ตามกำหนดการที่จะเปิดให้มีการทดสอบในช่วง 9 โมงเช้าวันนี้ ก็มีผู้ใช้งาน Huawei Mate 9 จำนวนหนึ่งเดินทางมาที่สำนักงาน สคบ.

ในช่วงแรกนั้นนักข่าวและผู้ร้องเรียนต้องนั่งรอที่ห้องรับรองก่อน โดยทาง Huawei จะทำการทดสอบกับ สคบ. และมีหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมด้วย ส่วนสื่อที่มาร่วมรับฟังก็มีทั้งช่อง 3, ไทยรัฐทีวี และ Thai PBS

ระหว่างที่รอนั้นผู้ใช้งาน Huawei ต่างก็มีการพูดคุยแลกเปลี่ยน และนำผลทดสอบมาแชร์กัน

พร้อมถกถึงประเด็นหน่วยความจำว่าใครได้ UFS เวอร์ชันไหน ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยความจำของ Toshiba มาตรฐาน UFS 2.0

หลังจากทำการทดสอบและพูดคุยกันเสร็จแล้ว ก็มีการเตรียมเครื่องบางส่วนไว้เพื่อรอทดสอบกับทาง Huawei

ช่วงประมาณ 11 นาฬิกา การทดสอบเครื่องจาก Huawei ได้จบลง นายพิฆเนศ ต๊ะปวง เลขาธิการ สคบ. ออกมาชี้แจงให้กับทางนักข่าวด้านนอก โดยมีใจความว่า

ตัวแทนจาก Huawei ได้มาชี้แจงกับคณะกรรมการดังนี้

  • P10 , P10 Plus เครื่องที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยใช้หน่วยความจำมาตรฐาน UFS ทั้งหมด และ Huawei ไม่เคยโฆษณาว่าใช้หน่วยความจำชนิดไหน ถ้าหากมีการนำหน่วยความจำชนิด eMMC เข้ามาจำหน่ายจะทำการแจ้ง สคบ. และลูกค้าล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน
  • Mate 9 / Mate 9 Pro มีการระบุเรื่อง UFS 2.1 ในรายละเอียดสินค้าจริง แต่ชี้แจงว่าในคุณสมบัตินั้นเทียบเคียงกันแล้วถือว่าอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน

โดยทางคณะกรรมการได้ขอให้ผู้ร้องเอาเครื่องเข้าทดสอบเรื่องของรอมและแรม โดยเบื้องต้นทางคณะกรรมการได้มีการทดสอบเครื่องที่ Huawei เอามาเอง แต่ผลการทดสอบยังไม่ออก

นอกจากนี้ทาง Huawei ส่งเอกสารเรื่องการโฆษณา ทาง สคบ. กำลังตรวจสอบอีกที หากผิดจริงจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท ผู้บริโภคสามารถฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งต่อได้ หากตรวจสอบแล้วว่า การโฆษณานั้นเกินจริง

ซึ่งอาจารย์ผู้แทนจากจุฬาฯได้กล่าวว่า ความคลาดเคลื่อนอาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากใช้ตาชั่งคนละตัววัด เลยได้ค่าไม่เท่ากัน และจะเปิดให้ผู้ร้องเรียนสามารถนำเครื่องเข้ามาทดสอบร่วมกันได้

โดยก่อนจะเริ่มทดสอบเครื่องของผู้บริโภคนั้นก็มีการขอให้สำรองข้อมูลก่อน เพราะหากทดสอบแล้วข้อมูลจะหาย โดยทาง Huawei ได้ทำการสุ่มเอา Mate 9 ทดสอบ 3 เครื่อง และ Mate 9 Pro ไปทดสอบอีก 3 เครื่อง

หลังจากนั้นก็ได้มีการเปิดห้องให้ผู้ใช้งานรวมถึงผู้เสียหายได้เข้าไปทำการทดสอบร่วมกัน โดยจากที่สังเกตก็มีคอมพิวเตอร์แลปทอปวางอยู่เท่านั้น ไม่ได้มีอุปกรณ์แปลกพิศดารอะไร

ก่อนจะเริ่มทำการทดสอบกับเครื่องของผู้ใช้งาน มีการแจ้งห้ามบันทึกภาพใดๆ รวมถึงไม่อนุญาตให้ live เพราะกลัวจะติดลิขสิทธิ์ของเจ้าของแอพพลิเคชั่นนั้นๆ

ตอนนี้มีการเชิญสื่อมวลชนออกจากห้อง ปิดประตู รอฟังผลกันต่อไปครับ

 

[Update] ประตูห้องแห่งความลับเปิด ผลการทดสอบมาแล้วครับ

  • ทาง Huawei ยึดมาตรฐานความเร็วตาม JEDEC ที่เคยประกาศออกมาบนโพสต์ของเพจ คือ 250~500MB/s ทำให้เครื่องที่สุ่มเข้าไปตรวจสอบผ่านหมดทั้ง 3 เครื่อง (มีดราม่าเดินออกจากห้องทดสอบเล็กน้อย ที่ตอนแรก Huawei จะใช้มาตรฐานที่ 400MB/s)
  • ทาง สคบ. ให้เวลา Huawei อีก 2 สัปดาห์ในการพิจารณาว่าจะมีมาตรการชดเชยให้ลูกค้าหรือไม่ และฟากมีจะดำเนินการอย่างไร
  • ตัวแทนที่เข้าไปร่วมทดสอบไม่ค่อยพอใจผลสักเท่าไหร่ แต่ก็พร้อมจะรออีก 2 สัปดาห์ว่า Huawei จะมีมาตรการอย่างไรออกมา

[Update 02/05/2017]

หลังจากผลที่ สคบ. ประกาศผลออกมา (ภาพด้านบน) ทางกลุ่มผู้ใช้งานมือถือแบรนด์ Huawei รุ่น Mate 9 ได้ออกมาการเขียนจดหมายเปิดผนึก ชี้แจงผลการทดสอบจากฝ่ายผู้ร้องเรียน ส่งไปยัง หัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย

โดยเนื้อหาในจดหมายนั้นกล่าวว่าในวันที่ทำการทดสอบที่ สคบ. (1 พค. 2560) ทางเจ้าหน้าที่จาก Huawei ได้นำข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับมือถือรุ่น Mate 9 มาทำความเข้าใจกับผู้ร้องเรียนว่ามือถือรุ่น Mate 9 นั้นเป็นไปตามมาตรฐาน แต่ผู้ใช้กลับไม่ได้รู้ข้อมูลในส่วนนั้นในวันที่เลือกซื้อสินค้าของ Huawei

ที่มา pantip