มือถือ ราคาไม่เกิน 10,000 บาท เรียกได้ว่าเป็นช่วงราคาที่ตัดสินใจยากที่สุด เพราะมือถือในช่วงราคานี้ออกมาแข่งกันในตลาดหลายรุ่น ละลานตากันจนเลือกไม่ถูก ซึ่งแต่ละรุ่นก็มักจะมากับจุดขายเด่น ๆ ที่ไม่เหมือนกัน วันนี้ทางทีมงาน DroidSans ก็เลยรวบรวม 10 รุ่นมือถือที่น่าจะเป็นตัวตึงในปลายปี 2023 และราคาไม่เกินหมื่นมาฝากกัน
Samsung Galaxy A05s (5,499 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: จอใหญ่ 6.7 นิ้ว FHD+ ลื่นไหล 90Hz | ชิป Snapdragon 680 ใช้งานทั่วไปได้ดี | การันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ 2 ปี
สำหรับใครที่มีงบไม่เยอะมาก แต่อยากได้มือถือที่ใช้งานได้นาน ๆ Samsung Galaxy A05s น่าจะเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะเป็นรุ่นที่ทาง Samsung การันตีอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ถึง 2 ปี ทั้งตัวระบบปฏิบัติการและแพตช์ความปลอดภัย
ส่วนภาพรวมตัวเครื่องก็ได้สเปคที่ค่อนข้างสมกับราคาทั้งชิป Snapdragon 680 ที่แรง และประหยัดแบตเตอรี่มากกว่า Helio G88 นิดหน่อย ส่วนความจุก็ให้มาที่ 6GB + 128GB ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปแล้ว
สเปค Galaxy A05s
- จอภาพ : PLS LCD ขนาด 6.7 นิ้ว
– ความละเอียด FHD+
– อัตรารีเฟรช 90Hz - ชิปเซต : Snapdragon 680
- หน่วยความจำ : RAM 6GB
- สตอเรจ : 128GB, รองรับ microSD card สูงสุด 1TB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 50MP
– กล้องจับความลึก 2MP
– กล้องมาโคร 2MP - กล้องหน้า : 13MP
- แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 25W
- ระบบปฏิบัติการ : One UI 5.1 (Android 13)
- ขนาด : 168.0 x 77.8 x 8.8 มม.
- น้ำหนัก : 194 กรัม
POCO M5s (5,499 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: ได้จอ AMOLED | ความจุโคตรเยอะ 256GB | มีกล้อง Ultrawide ให้ | รองรับมาตรฐานทนน้ำ IP53 | ได้ลำโพงคู่
POCO M5s ถึงแม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2022 แต่หลังการปรับราคาหลายต่อหลายครั้ง รุ่นนี้ก็ยังถือว่าให้สเปคมาคุ้มกับราคามาก ๆ ทั้งจอ AMOLED ที่สีสันสดใส คมชัดระดับ FHD+ รองรับวิดีโอ HDR ได้กล้องที่รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K@30FPS และกล้อง Ultrawide 8MP พร้อมมาตรฐานทนน้ำ ทนฝุ่น IP53 ซึ่งแทบหาไม่ได้ในมือถือราคานี้
ส่วนด้านประสิทธิภาพยังได้ชิป 4G ที่ยังคงแรงพอตัวในระดับราคานี้ อย่าง Helio G95 พ่วงมาด้วยความจุ 8GB + 256GB ที่ถือว่าเยอะมาก ๆ ในราคานี้ และถ้าใครใช้โค้ดเก่ง ๆ อาจได้มาในราคาเพียงแค่ประมาณ 4 – 3,xxx บาทเท่านั้น
สเปค POCO M5S
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2400 x 1080 พิกเซล DCI-P3 409 PPI
- CPU : MediaTek Helio G95
- RAM (LPDDR4X) : 8GB รองรับ Extended RAM
- ROM (UFS 2.2) : 256GB ใส่ microSD card เพิ่มได้ 1TB
- กล้องหลัง 4 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 64MP f/1.8
– กล้อง Ultra-wide ความละเอียด 8MP f/2.2
– กล้อง Macro ความละเอียด 2MP f/2.4
– กล้อง Depth ความละเอียด 2MP f/2.4 - กล้องหน้า : ความละเอียด 13MP f/2.4
- เซนเซอร์: สแกนนิ้วมือข้างเครื่อง
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot BT 5.0, A2DP, LE
- รูเสียบหูฟัง: 3.5 มม.
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP53
- แบตเตอรี่ : 5,000mAh รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบ Android 12 ครอบด้วย MIUI 13
- น้ำหนัก: 178.8 กรัม
TECNO POVA 5 Pro 5G (เริ่มต้น 6,699 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: ชิปแรง RAM เยอะ 8GB | จอใหญ่ 6.78 นิ้ว ลื่นไหล 120Hz | มีไฟ RGB | มี Bypass Charge | ชาร์จไว 68W | ได้ลำโพงคู่ DTS
สำหรับใครที่ต้องการมือถือราคาประหยัดไว้เล่นเกมสักเครื่อง TECNO POVA 5 Pro 5G ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำราคามาได้ดีมาก ๆ เพราะราคาเริ่มต้นแค่ 6,699 บาท ได้ทั้งฝาหลังไฟ RGB เปลี่ยนสีได้แบบจ๊าบ ๆ ไม่เหมือนใคร แถมยังได้จอเบิ้ม ๆ 6.78 นิ้ว รีเฟรชลื่นไหล 120Hz
ส่วนประสิทธิภาพก็แรงไม่แพ้ดีไซน์ เพราะได้ชิป Dimensity 6080 ที่แรงสูสีกับ Snapdragon 695 ได้ชาร์จไว 68W รองรับ Bypass Charge จ่ายไฟตรง ไม่ผ่านแบตเตอรี่เพื่อไม่ให้เสื่อมเร็ว อีกทั้งยังได้ลำโพงคู่ระบบเสียง DTS แถมยังรองรับ Hi-Res และ Hi-Res Wireless ด้วย
สเปค TECNO POVA 5 Pro 5G
- หน้าจอ: IPS LCD ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ รีเฟรชเรต 120Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 6080
- RAM : 8GB รองรับ Extended RAM สูงสุด 8GB
- ROM : 128GB / 256GB รองรับ microSD
- กล้องหลังคู่ AI
– กล้องหลัก 50MP
– กล้อง AI (Depth) 0.08MP - กล้องหน้า 16MP
- เซนเซอร์ : สแกนนิ้วมือข้างเครื่อง, Gyroscope
- การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 5Ghz, Bluetooth, USB Type-C 2.0, NFC
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่ DTS รองรับ Hi-Res, มีรูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 68W, Bypass Charge
- ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย HIOS 13
- ขนาด : 168.5 x 76.5 x 9.00 มม. น้ำหนัก 220 กรัม
realme 11x 5G (6,999 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: กล้องคมชัด 64MP | รองรับ In-Sensor Zoom x2 | ชิปแรงกำลังดี Dimensity 6100+ | จอใหญ่ 6.72 นิ้ว ลื่นไหล 120Hz
realme 11x 5G ถือเป็นอีก 1 มือถือรุ่นประหยัดที่น่าสนใจ เพราะได้ทั้งดีไซน์ที่ดูพรีเมียม แต่ก็มาพร้อมกับสเปคที่ค่อนข้างคุ้มค่าในกลุ่มมือถือ Lifestyle เพราะได้ทั้งกล้องที่ถ่ายสวย สีสันจัดเต็ม คมชัด 64MP แถมยังมีระบบ In-Sensor Zoom ครอปภาพจากเลนส์หลัก ทำให้ได้รูปถ่ายที่คุณภาพใกล้เคียงกับภาพที่ถ่ายด้วยเลนส์ Telephoto จริง ๆ ซึ่งเหมาะกับการใช้ถ่ายคนมาก ๆ
นอกจากกล้องที่ว้าวแล้ว ยังได้ชิปกลมกล่อม Dimensity 6100+ ที่ความแรงใกล้เคียงกับ Dimensity 6080 ได้ RAM และความจุที่เยอะพอตัว 8GB + 128GB ได้จอคมชัดแบบเจาะรู 6.72 นิ้ว คมชัด FHD+ ลื่นไหล 120Hz ได้แบตเตอรี่อึด 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 33W
สเปค realme 11x 5G
- จอภาพ : LCD ขนาด 6.72″
– ความละเอียด Full HD+
– อัตรารีเฟรช 120Hz
– ความสว่างสูงสุด 680 นิต (เฉพาะโหมด HBM) - ชิปเซต : Dimensity 6100+
จีพียู : Mali-G57 - หน่วยความจำ : RAM LPDDR4x 6
- ความจุ : ROM 128GB, รองรับ microSD card สูงสุด 2TB
- กล้องหลัง :
– กล้องหลัก 64MP
– กล้องพอร์เทรต 2MP - กล้องหน้า : 8MP
- เซนเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
- แบตเตอรี่ : 5000mAh, รองรับชาร์จไว 33W
- ระบบปฏิบัติการ : realme UI 4.0 (Android 13)
OPPO A79 5G (เริ่มต้น 6,999 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: ได้กล้องสวย 50MP | จอใหญ่ 6.72 นิ้ว คมชัด FHD+ | ตัวเครื่องทนละอองน้ำ IPX4 | ลำโพงคู่เสียงดัง 300%
เพิ่งวางจำหน่ายไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ กับ OPPO A79 5G ที่ตัวเครื่องมาในดีไซน์ใหม่แบบหมดจด รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่กล้องคู่ 50MP ที่ถ่ายคนได้สวยสุด ๆ ตามแบบฉบับ OPPO ส่วนเรื่องประสิทธิภาพก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ได้ชิป Dimensity 6020 พร้อมความจุสูงสุดถึง 8GB + 256GB
ด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ OPPO A79 5G ก็ถือว่าทำได้ดีพอตัว เพราะได้ทั้งจอใหญ่ 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ลื่นไหล 90Hz ที่ขอบเขตสี DCI-P3 กว้างถึง 100% แถมยังได้ลำโพงคู่ที่บูสต์เสียงได้ถึง 300% เพียงได้ว่าดังจนได้ยินทั้งซอยเลยทีเดียว ส่วนเรื่องความทนทานก็ถือว่าหายห่วงเพราะตัวเครื่องรองรับมาตรฐานทนละอองน้ำ IP54 ด้วย
OPPO A79 5G
- จอภาพ LCD ขนาด 6.72 นิ้ว
– ความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล
– อัตรารีเฟรช 90Hz
– ความสว่างสูงสุด 680 นิต
– ขอบเขตสี 100% ของ DCI-P3 - ชิป Dimensity 6020
- หน่วยความจำ RAM 4 / 8GB
- ความจุ ROM 128 / 256GB
- กล้องหลัง
– กล้องหลัก 50MP, เซนเซอร์ 1/2.76 นิ้ว
– กล้องจับความลึก 2MP - กล้องหน้า 8MP
- ลำโพงสเตอรีโอ
- เครือข่าย 5G
- แบตเตอรี่ 5000mAh, รองรับชาร์จไว 33W
- เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ด้านข้าง)
- มาตรฐานความทนทาน IP54
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13 บน
- น้ำหนัก 193 กรัม
vivo Y27 5G (6,999 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: กล้อง 50MP ถ่ายคนสวย | เครื่องบาง 8.07 มม. | ตัวเครื่องทนทาน IP54
ถ้าอยากได้มือถือที่มีโหมด Portrait โหด ๆ ถ่านคนสวยสะใจยังไงก็ต้อง vivo ซึ่งในราคากลุ่มนี้ ตัวที่น่าสนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น vivo Y27 5G ที่ได้กล้องหลังคู่ 50MP + เลนส์ Bokeh ที่ช่วยให้ถ่ายภาพบุคคลออกมาได้สวย ๆ นอกจากนี้ยังได้ตัวเครื่องดีไซน์สวย สีน่ารัก แถมยังบาง และเบามาก ๆ เพียง 8.07 มม และมีน้ำหนักเพียง 190 กรัมเท่านั้น แถมยังทนทานทั้งละอองน้ำ และฝุ่นมาตรฐาน IP54 ด้วย
ส่วนสเปคการประมวลผลก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ขี้เหร่ เพราะได้ชิป Dimensity 6020 พร้อมกับความจุ 6GB + 128GB ที่ใช้งานทั่วไปได้ไม่ติดขัด เล่นเกมเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แถมยังได้จอที่สว่างถึง 600 nits ซึ่งก็น่าจะตอบโจทย์ไรเดอร์ที่ต้องใช้งานมือถือกลางแดดด้วย
สเปค VIVO Y27 5G
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2388 × 1080 พิกเซล)
- CPU : Dimensity 6020
- RAM : 6 GB (6 GB Extended RAM)
- ROM : 128GB (รองรับ microSD Card)
- กล้องหลังคู่
– กล้องหลัก 50MP (f/1.8)
– กล้อง Bokeh 2MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
- การเชื่อมต่อ : 5G, Wi-Fi 5 802.11ac, Bluetooth 5.1, NFC, USB Type-C
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ด้านข้าง), accelerometer, proximity, E – compass, Ambient light
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ : 5000mAh รองรับชาร์จเร็ว 15W
- ระบบ Android 13 ครอบด้วย Funtouch OS 13
- มาตรฐาน : กันน้ำ กันฝุ่น IP54
- ขนาด / น้ำหนัก : 164.06 x 76.17 x 8.07มม./ 190 กรัม
HONOR 90 Lite 5G (7,999 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: จอขอบบางเฉียบ ใหญ่เต็มตา 6.7 นิ้ว | กล้อง 100MP ถ่ายชัด ซูมไม่แตก | มีเลนส์ Ultrawide ถ่ายมุมกว้างได้ | ความจุเยอะ 256GB
HONOR 90 Lite 5G เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนที่ต้องการกล้องชัด ๆ ไว้ใช้ถ่ายภาพขนาดใหญ่ เพราะรุ่นนี้ให้กล้องหลังความละเอียดสูงถึง 100MP และมีเลนส์ Ultrawide และ Macro ให้แบบครบ ๆ ส่วนกล้องหน้าก็มาในความละเอียดถึง 13MP
รุ่นนี้ยังได้จอแสดงผลแบบเจาะรูที่ขอบจอบางเฉียบ ทำให้ได้จอใหญ่เต็มตา ความละเอียด FHD+ ลื่นไหล 90Hzประสิทธิภาพโดยรวมก็อยู่ในเกณฑ์ที่กำลังพอดี เพราะได้ชิปอย่าง Dimensity 6020 แต่ไฮไลต์เด็ดอยู่ที่ความจุที่ให้มาเยอะถึง 8GB + 256GB ใช้กันได้อีกยาว ๆ
สเปค HONOR 90 LITE 5G
- หน้าจอ LCD ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2388×1080 รีเฟรชเรต 90Hz
- CPU : Dimensity 6020
- RAM : 8GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 100MP (f/1.9)
– กล้อง Ultrawide 5MP (f/2.2)
– กล้อง Macro 2MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 16MP (f/2.4)
- ระบบเสียง : HONOR Histen
- การเชื่อมต่อ : 5G, 802.11a/b/g/n/ac/ax, BT 5.3, NFC
- เซนเซอร์ : Fingerprint ด้านข้าง, gyro, Gravity sensor, compass, ambient light sensor, proximity light sensor
- แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 22.5W
- ระบบ Android 13 ครอบด้วย MagicOS 7.1
Infinix Zero 30 5G (9,549 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: ได้จอโค้ง AMOLED 144Hz | ชิปแรงสุด Dimensity 8020 | โหมดวิดีโอเยอะ | ถ่าย 4K@60FPS ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
Infinix Zero 30 5G มีการปรับราคาลงเหลือแค่ประมาณ 9,000 บาทบน TikTok Shop ซึ่งราคานี้บอกเลยว่าคุ้มที่สุดจริง ๆ เพราะจะเล่นเกมก็จัดเต็ม จะใช้งานกล้องก็ดีสุด ๆ โดยรุ่นนี้ให้กล้องหลัก 108MP มีกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide 13MP + กล้อง Depth 2MP
ส่วนกล้องเซลฟี่ 50MP รองรับ Auto Focus ที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่สูงสุด 4K@60FPS ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ใครที่ต้องการใช้งานกล้องวิดีโอในราคาประหยัดบอกเลยว่าลงตัวมาก ด้านจอก็ไม่ธรรมดา เพราะให้จอโค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว พาเนล AMOLED 10-bits ที่รองรับรีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz ซึ่งรุ่นอื่น ๆ ในราคานี้มักมาในแบบจอแบน LCD กันหมด
ด้านประสิทธิภาพนั้น Infinix ZERO 30 5G มาพร้อมชิประดับกลางอย่าง Dimensity 8020 ที่น่าจะแรงที่สุดในกลุ่มราคานี้แล้ว ประกบคู่มากับความจุขนาดใหญ่ RAM LPDDR4x 12GB + ROM UFS 3.1 ขนาด 256GB มีระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ช่วยให้ถ่ายวิดีโอ และเล่นเกมได้นานขึ้นด้วย
สเปค Infinix ZERO 30 5G
- หน้าจอ AMOLED โค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) รีเฟรชเรต 144Hz
- CPU : Dimensity 8020
- RAM LPDDR4x : 12GB รองรับ Extended RAM รวมสูงสุด 21GB
- ความจุ UFS 3.1: 256GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก ISOCELL HM6 ความละเอียด 108MP (f/1.65), กันสั่น OIS
– กล้อง Ultrawide 13MP
– กล้อง Depth 2MP - กล้องหน้า : ISOCELL JN1 ความละเอียด 50MP (f/2.45)
– รองรับการถ่ายวิดีโอแบบ 4K@60FPS ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง - การเชื่อมต่อ : 5G, WiFi 6, Bluetooth, NFC, USB-C
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), G-sensor / E-compass/ Light sensor /Proximity sensor / Motor sensor / SAR Sensor
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอระดับ Hi-Res, DTS Sound
- มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น : IP53
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 68W
- ระบบ: Android 13 ครอบด้วย XOS 13
- ขนาด / น้ำหนัก : 164.51 x 75.03 x 7.9 มม. / 185 กรัม
Samsung Galaxy A34 (9,990 บาท)
ทำไมน่าซื้อ: จอสวย Super AMOLED | กล้องหลัก 48MP มี OIS | ลำโพงคู่ Dolby Atmos | ทนน้ำ ทนฝุ่น IP67 | อัปเดต Android 14 ได้ | อัดวิดีโอ 4K ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง
Samsung Galaxy A34 ถึงแม้จะเปิดตัวไปเมื่อช่วงต้นปี แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเริ่มหาซื้อได้ใน ราคาไม่เกิน 10,000 บาท แล้ว ในราคาเท่านี้ ถึงแม้ตัวชิปจะไม่ได้แรงเท่ารุ่นอื่น ๆ ในราคาเดียวกัน แต่ก็ได้เปรียบเรื่องของซอฟต์แวร์ที่ทาง Samsung การันตีอัปเดตให้ถึง 4 เวอร์ชั่น OS ซึ่งตอนนี้ Galaxy A34 ก็เตรียมได้ข้ามไปใช้ OneUI 6 บน Android 14 แล้วด้วย
นอกจากเรื่องซอฟต์แวร์แล้ว ฮาร์ดแวร์บางส่วนก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งบอดี้ตัวเครื่องที่ทนน้ำ ทนฝุ่นมาตรฐานเทียบชั้นเรือธง IP67 กล้องคุณภาพไว้ใจได้ มีระบบกันสั่น OIS อัดวิดีโอ 4K@30FPS ได้ทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง ได้จอ sAMOLED ที่คุณภาพดีกว่าจอ OLED ทั่วไป แถมยังได้ลำโพงคู่ Dolby Atmos ด้วย
สเปค Samsung Galaxy A34
- หน้าจอ : Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรต 120Hz
- CPU : Dimensity 1080
- RAM : 8GB
- ความจุ : 128GB
- กล้องหลัง 3 ตัว
– กล้องหลัก 48MP (f/1.8) + OIS
– กล้อง Ultrawide 8MP (f/2.2)
– กล้อง Macro 5MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 13MP (f/2.2)
- สแกนนิ้วใต้จอ
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP67
- แบตเตอรี่ : 5000 mAh
- ระบบ Android 13 ครอบด้วย One UI 5.1 (อัปเป็น Android 14 ได้)
iQOO Z7 5G ( 12GB + 256GB 10,999 บาท)
ทำไมน่าซื้อ : ชิปแรงที่สุด Snapdragon 782G | จอ 120Hz รองรับ HDR10 | ชาร์จแรง 120W
สำหรับคนที่ต้องการแค่เพียงความแรงอย่างเดียวเพื่อเล่นเกม ไม่ต้องการสเปคกล้องที่หวือหวา iQOO Z7 5G ถือเป็นอีก 1 รุ่นที่น่าจะตอบโจทย์ที่สุดในช่วง ราคาไม่เกิน 10,000 บาท หากซื้อเมื่อช่วงต้นปีตอนเปิดตัวใหม่ ๆ ในราคานี้อาจได้แค่รุ่นเริ่มต้น แต่ตอนนี้ได้มีการปรับราคาตัวท็อป 12GB + 256GB เหลือเพียงแค่ 10,999 บาท ซึ่งหากบวกลบส่วนลดจากทั้งทางหน้าร้าน Official + ส่วนลดจากแอปช้อปปิ้งต่าง ๆ ยังไงก็เหลือไม่ถึง 10,000 บาทแน่นอน
ส่วนความน่าสนใจในรุ่นนี้นั้น อยู่ที่ตัวชิป Snapdragon 782G ที่แรง เล่นเกมฟอร์มยักษ์ได้ดีพอสมควร มาพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวขนาดใหญ่พิเศษทำให้เล่นเกมได้นาน พ่วงด้วยระบบการสั่นแบบสมจริง แถมยังชาร์จไวสุด ๆ 120W ใช้เวลาชาร์จจาก 1 – 100% เพียง 26 นาทีเท่านั้น
ทั้งนี้ถึงแม้จอแสดงผลจะเป็นจอ LCD แต่ก็เป็นจอ LCD ที่รองรับมาตรฐานสีระดับ P3 ขอบเขตสีกว้าง 100% ทำให้สีสันดูดีไม่แพ้ AMOLED เจออุณหภูมิร้อนบ่อย ๆ อาจเสี่ยงต่อการเบิร์นน้อยกว่า อีกทั้งยังรองรับการชมคอนเทนต์แบบ HDR10 ด้วย
สเปค IQOO Z7 5G
- หน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.64 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2388) รีเฟรชเรต 120Hz รองรับ HDR10
- CPU : Snapdragon 782G
- GPU : Adreno 642L
- RAM (LPDDR4X) : 8GB / 12GB รองรับ Extended RAM 3.0 8GB
- ความจุ (UFS 2.2) : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง 2 ตัว
– กล้องหลักความละเอียด 64MP (f/1.8), กันสั่น OIS
– กล้อง Depth ความละเอียด 2MP (f/2.4) - กล้องหน้า : 16MP (f/2.5)
- การเชื่อมต่อ : 5G ,Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/6, BT 5.2, NFC
- เซนเซอร์ : Fingerprint (ข้างตัวเครื่อง), accelerometer, gyro, proximity, compass, Infrared remote control
- ระบบเสียง : ลำโพงคู่ รองรับ Hi-Res Audio, รูหูฟัง 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 5,000 mAh รองรับชาร์จไว 120W ผ่านพอร์ต USB Type-C 2.0
- ระบบ Android 13 ครอบทับด้วย Funtouch OS 13
และนี้คือมือถือ ราคาไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งหมด 10 รุ่นที่น่าสนใจในช่วงท้ายปี 2023 ทั้งนี้ข้อมูลราคา และการวางจำหน่ายในแต่ละแพลตฟอร์มอาจไม่เท่ากัน และถ้าใครที่ใช้โค้ดส่วนลดเก่ง ๆ ในช่วงโปรโมชั่นวันเลขเบิ้ลก็อาจจะได้มือถือมาใช้งานในราคาถูกกว่าที่เราระบุไว้ก็ได้ ส่วนใครที่เคยใช้งานรุ่นไหน มีรุ่นไหนที่น่าสนใจเพิ่มเติม สามารถเข้ามาแชร์เพิ่มเติมกันได้นะ
Comment