เข้าช่วงกลางปีกันแล้วและจนถึงตอนนี้ก็มีมือถือเรือธงของแต่ละแบรนด์ทยอยวางจำหน่ายกันตั้งแต่ช่วงต้นปีออกมาหลายรุ่นเลยทีเดียว เราเลยขอรวบรวมสเปคเหล่ามือถือรุ่นท็อปๆ มาเปรียบเทียบกันว่าในครึ่งปีแรกนี้ หากอยากจะได้มือถือแรง สเปคดี กล้องเทพนั้น เรามีตัวเลือกเป็นรุ่นไหนบ้าง

และนี่ก็คือสรุปมือถือเรือธงช่วงต้นปี 2017 ทั้งที่วางจำหน่ายในไทยและกลุ่มเครื่องหิ้วมาเทียบสเปคและฟีเจอร์เด่นๆ ที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยโดยเรียงจากลำดับการนำเข้ามาวางขายอย่างเป็นทางการตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก ที่เปิดตลาดในบ้านเราโดยมี Huawei P10 กับกล้องคู่ LEICA ตามมาด้วย XZs ที่ได้พลังกล้อง Motion Eyes ต่อด้วย Galaxy S8 / S8+ ที่เปลี่ยนโฉมกีไซน์ของมือถือในปีนี้และปีหน้าไปทันที

 

Huawei P10 / P10 Plus

กล้องคู่ ภาพขาวดำและเลนส์ที่รับรองจาก LEICA ยังคงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนหลงไหล และการพัฒนาจาก P9 > Mate 9 มาเป็น P10 / P10 Plus นั้นยิ่งเพิ่มความสามารถในเรื่องของภาพ ทั้งการเก็บแสงที่ดีขึ้น ฟีเจอร์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น Portrait Mode นับเป็นมือถือกล้องคู่ที่มีฟีเจอร์และลูกเล่นของการใช้ dual camera ที่ดีมากๆ รุ่นนึง ส่วนของชิป Kirin ก็ยังทำประสิทธิภาพได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไล่จี้ Snapdragon และ Exynos มาติดๆ

 

Xperia XZs

กล้อง Motion Eye 19MP ทื่ใช้บน XZ Premium นั้นก็มีอยู่ใน Xpeira XZs เครื่องนี้ด้วย นั่นทำให้มันมีความน่าสนใจ ถึงแม้ชิปเซ็ตที่ใช้จะยังเป็นแค่ Snapdragon 820 แต่ด้วย UI ที่ลื่นไหลของ Sony เมื่อตอนเปิดตัววางขายแรกๆ ราคา 22,900 แอบแรงไปหน่อย ล่าสุดตอนนี้ปรับราคาลงมาเหลือ 17,900 บาทแล้ว ทำให้มันดูคุ้มค่าขึ้นมาทันที

 

 

Samsung Galaxy S8 / S8+

ยังนับเป็นมือถือที่ครบเครื่องและรวมเอาทุกสี่งของเทรนด์ในปีนี้เอาไว้(เกือบ)หมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบกับชีวิตไร้กรอบ Infinity Display ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่กว่าเดิม แต่บีบกรอบตัวเครื่องให้เล็กลงเหมือนเราถือแค่หน้าจอเอาไว้ในมือ UI ที่ออกแบบมาใหม่ลื่นไหล สแกนลายนิ้วมือที่ย้ายไปด้านหลังทำงานได้เร็วและดีกว่าแบบกดที่ปุ่มโฮมมากมาย ผนวกกับกล้องที่ไว้ใจได้ Dual Pixel ทำงานรวดเร็วจับเปลี่ยนโฟกัสไวมาก เรียกว่าไม่ต้องปรับตั้งค่าอะไร แค่ยกขึ้นมาถ่ายมันก็เสร็จไปเกินครึ่งแล้ว ถึงแม้จะขาดกล้องคู่ไป แต่ก็ถ่ายภาพสวยๆ ได้ดีเลิศ

 

Huawei P10 / P10 PlusXperia XZsGalaxy S8 / S8+
   
หน้าจอ5.5 นิ้ว (2560 x 1440)5.2 นิ้ว (1080 x 1920)
5.8 / 6.2 นิ้ว (2960 x 1440)
CPUKirin 960Snapdragon 820Exynos 8895
GPUMali-G71 MP8Adreno 530Mali-G71 MP20
RAM4 / 6GB4GB4GB
ความจุ64 / 128GB32GB64GB
MicroSDHybridHybridHybrid
กล้องหลัง20MP + 12MP f/1.819 MP, f/2.012MP (f/1.7)
กล้องหน้า8MP (f/1.9)13MP8MP AF (f/1.7)
แบตเตอรี่3750 mAh2900 mAh (QC 3.0)
3000 / 3500 mAh
สแกนลายนิ้วมือด้านหน้าด้านข้างด้านหลัง
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,
dual-band, DLNA,
WiFi Direct
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,
dual-band, Wi-Fi Direct,
Blutooth 5.0
เซ็นเซอร์Fingerprint,accelerometer,
gyro, proximity, compass
Bluetooth 4.2
accelerometer, gyro, proximity, barometer, compass, color spectrum
Iris scanner, fingerprint,
accelerometer, gyro,
proximity, compass,
barometer, heart rate,
SpO2
ขนาดและน้ำหนัก153.5 x 74.2 x 7 มม.
165 g
146 x 72 x 8.1 มม. 161 g.
148.9×68.1×8.0 มม. 155g
159.5×73.4×8.1 มม. 173g
ระบบปฏิบัติการAndroid 7.0Android 7.1Android 7.0
ฟีเจอร์เด่น-เลนส์ Leica Dual Camera
2.0 Pro Edition
-กันน้ำกันฝุ่น IP68
-ลำโพงสเตอริโอ
-จอ Infinity Display
-รองรับเสียง UHQ 32 bit
-สแกนม่านตา
-กันน้ำกันฝุ่น IP68
ราคา (บาท)23,90017,990 บาทS8 – 27,900
S8+ – 30,900

 

อีก 3 รุ่นถัดมาก็เป็น XZ Premium เรือธงตัวท็อปจาก Sony แล้วที่มาอย่างไม่คาดคิดคือ HTC U11 ที่มี AIS นำเข้ามาจำหน่ายให้แฟนๆ อย่างเป็นทางการ ส่วนอีกรุ่นแม้จะยังไม่มาแบบ official อย่าง Mi 6 ก็คาดว่าอีกไม่นานน่าจะได้เห็น

 

Xperia XZ Premium

Sony ทำได้ และได้ทำมันออกมาแล้ว หลังจากโดนปรามาศมาหลายรุ่น แม้แต่สาวกของ Sony เองยังต้องบ่นออกมาดังๆ แต่หลังจากการมาของ RGBC Sensor ต่อด้วยการพัฒนากล้องใหม่ Motoion Eye ออกมาพร้อมกับแก้ไขปัญหากล้องร้อน ก็เหมือนกับ Sony ได้กลับมาเกิดใหม่ XZs และ XZ Premium คือการกลับมาอย่างแท้จริง ส่วนตัวเครื่องการใช้งานและ UI นั้นลื่นไหลมาแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างคือการอัพเดทเวอร์ชั่นของระบบความปลอดภัยและ OS ที่ค่อนข้างเร็วของค่ายนี้ถือเป็นอีกจุดเด่นนึงเลยก็ว่าได้

 

HTC U11

เป็นอีกรุ่นที่พิสูจน์ว่ากล้องเดี่ยวก็เทพได้ เพราะไปคว้าคะแนนจาก DxO Mark ได้ถึง 90 ถือเป็นการกลับมาทื่น่าสนใจของแบรนด์ที่เป็นหนึ่งในก๊วน Android ที่ร่วมหัวจมท้ายมาตั้งแต่รุ่นแรก จนเซเกือบจะทรุดไปหลายรอบ แต่ด้วย HTC U11 ก็สามารถกลับมายืนหยัดอีกครั้งนึงได้ ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยงามกับฝาหลัง Liquid Surface เล่นสีสันกับแสงเงาสวยงาม และความสามารถใหม่ในการบีบเครื่องนั้นก็ดูเป็นกิมมิคที่น่าสนใจ แม้ด้านหน้าตัวเครื่องและ UI จะดูโบราณไปหน่อย แต่เชื่อว่าแฟนๆ HTC น่าจะยังชอบอยู่

 

Xiaomi Mi 6

ค่ายอินดี้อย่าง Xiaomi เองก็เปิดตัวเรือธงต้นปีออกมาด้วยดีไซน์โค้งสวยงาม นั่นก็คือ Mi 6 ซึ่งเป็นการใช้กระจก 3D Glass แบบโค้งที้ง 4 มุมมาผลิตเป็นฝาหลัง เน้นการเก็บรายละเอียดกล้องเรียบไปด้วยกัน พร้อมเพิ่มความทนทานด้วยการกันน้ำและฝุ่น IP67 มีลำโพงคู่สเตอริโอ ส่วนกล้องคู่นั้นมาในรูปแบบเลนส์ Wide + Tele พร้อม Portrait Mode ซึ่งกล้องของ Mi 6 นั้นถือว่ามีการพัฒนาขึ้นมามากในเรื่องของการประมวลผลภาพ แต่ก็เหมือนกับ OnePlus 5 คือเกาะอยู่ในกลุ่มท็อปๆ ได้ แต่ยังไม่โดดขึ้นไปอยู่ในกลุ่มหัวแถว

 

Xperia XZ PremiumHTC U11Xiaomi Mi6
   
หน้าจอ5.5 นิ้ว 4K (3840 x 2160)5.5 นิ้ว 2K (2560 x 1440)5.15 นิ้ว (1080 x 1920)
CPUSnapdragon 835Snapdragon 835Kirin 960 Snapdragon 835
 GPUAdreno 540Adreno 540Adreno 540
RAM4GB4 / 6GB6GB
ความจุ64GB64 / 128GB64 / 128GB
MicroSDHybridHybrid
กล้องหลัง19MP (f/2.0)12MP (f/1.7)12MP f/1.8 + 12MP f/2.6
กล้องหน้า13MP AF (f/1.9)16MP (f/2.0)8MP
แบตเตอรี่3230 mAh3000 mAh (QC3.0)3350 mAh (QC 3.0)
สแกนลายนิ้วมือด้านข้างด้านหน้าด้านหน้า
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,
dual-band, Wi-Fi Direct,
DLNA, Bluetooth 5.0
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,
dual-band, Wi-Fi Direct,
DLNA, Bluetooth 4.2
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac,
dual-band, Wi-Fi Direct,
DLNA
เซ็นเซอร์Fingerprint,accelerometer
gyro, proximity,barometer
compass, color spectrum
Fingerprint,accelerometer,
gyro, proximity, compass
Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
ขนาดและน้ำหนัก156 x 77 x 7.9 มม.
195 g
153.9 x 75.9 x 7.9 มม.
169 g
145.2 x 70.5 x 7.5 มม.
168 g
ระบบปฏิบัติการAndroid 7.1Android 7.1Android 7.1.1
ฟีเจอร์เด่น-กล้องสโลว์โมชั่น 960 FPS
-จอ 4K HDR
-กันน้ำกันฝุ่น IP65 / 68
-Edge Sense บีบเครื่องสั่งงาน
-HTC BoomSound
-Dolby Audio
-อัดเสียง 360 องศา
-กันน้ำกันฝุ่น IP67
กันน้ำกันฝุ่น IP67
-ระบบเสียง Hi-Fi
-ลำโพงสเตอริโอ
ราคา (บาท)24,900 บาท25,xxx64GB – 15,xxx บาท
128GB – 17,xxx บาท

 

 

 

3 รุ่นสุดท้ายนั้นมีความว้าวอยู่พอตัว แต่ดูแล้วเครื่องศูนย์ในไทยน่าจะไม่มาแน่นอนแล้ว ทั้ง LG G6 , OnePlus 5 และ Zenfone AR ใครที่สนใจก็คงต้องหาเครื่องหิ้วเพียงอย่างเดียวเท่านั้นละครับ

 

LG G6

LG ได้มีการอัพเกรดครั้งใหญ่ให้กับมือถือตระกูล G ของตัวเองโดย LG G6 นั้นเป็นรุ่นแรกที่ไม่สามารถถอดแบตได้อีกต่อไป หลังจากชูจุดขายเรื่องการถอดเปลี่ยนแบตมาตลอดโดยครั้งนี้ได้เสริมความพิเศษด้วยหน้าจอ FullVision Display 18:9 ตัวเครื่องโลหะเคลือบเงา กันน้ำกันฝุ่น IP68 และยังมาพร้อมกับจุดขายกล้องคู่ Dual camera ที่เน้นการถ่ายภาพแบบ Ultra Wide เก็บภาพ Scenery ได้สวยงาม น่าเสียดายที่งานนี้ LG ดูจะรีบไปหน่อย เลยต้องยอมใช้ชิป Snapdragon 821 เพื่อมาทำตลาดในช่วงต้นปี

 

OnePlus 5

เมื่อ Flagship Killer ผลักตัวเองขึ้นมาเป็นเรือธงเต็มตัวด้วยราคาที่ขยับขึ้นมาในระดับใกล้เคียงทั้งดีไซน์และฟีเจอร์ ตัวเครื่องโลหะโค้งมนที่ออกแบบมาให้จับถือได้สะดวก ขนาดบางกำลังดี โดย OnePlus เลือกปรับขนาดลดแบตเตอรี่ลงมาเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถใช้งานได้เต็มวันสบายๆ น่าจะเพราะอานิสงค์ของ Snapdragon 835 และการปรับจูนตัว Oxygen OS ซึ่งทำออกมาได้ลื่นไหลมากๆ กล้องก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มท็อปแต่ก็ยังไม่ขึ้นมาถึงระดับหัวแถว จุดเด่นอีกอย่างคืออัพเดทเร็วมาก ทั้งการเพิ่มฟีเจอร์และแก้บั๊กต่างๆ

 

Asus Zenfone AR

หนึ่งในมือถือที่ว้าวที่สุดของงาน CES ตอนต้นปี นั่นคือ Asus Zenfone AR เครื่องนี้ แถมยังมาพร้อมกับความพิเศษนั่นคือเป็น Tango Phone ที่รวมเอา AR + VR เข้าด้วยกัน แต่ปัญหากลับมาติดที่การพัฒนานั้นค่อนข้างช้า กว่าเครื่องจะวาวงจำหน่ายได้ก็ปาเข้าไปกลางปีซึ่งหลายๆ ค่ายขยับไปใช้ Snpadragon 835 กันหมดแล้ว ทำให้ความน่าสนใจของมันถูกลดลงอย่างน่าเสียดาย จริงๆ ตัวเครื่องมันยังมีอะไรที่น่าสนใจอีกเยอะ เพราะยังมีกล้องคู่และเซนเซอร์ต่างๆ มากมาย และเป็น Tango Phone เครื่องแรกของโลกที่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการอีกด้วย

 

LG G6OnePlus 5
Asus Zenfone AR
   
หน้าจอ5.7 นิ้ว (1440 x 2880)5.5 นิ้ว (1080 x 1920)
5.7 นิ้ว (1440 x 2560)
CPUSnapdragon 821Snapdragon 835Snapdragon 821
GPUAdreno 530Adreno 540Adreno 530
RAM4GB6GB / 8GB6GB / 8GB
ความจุ32GB /64GB / 128GB64 / 128GB
64GB/128GB/256GB
MicroSDHybridHybrid
กล้องหลัง13MP f/1.8 + 13MP f/2.416MP f/1.7 + 20MP f/2.623MP f/2.0
กล้องหน้า5MP16MP (f/2.0)8MP
แบตเตอรี่3300 mAh (QC 3.0)3300 mAh (Dash Charge)3300 mAh
สแกนลายนิ้วมือด้านหลังด้านหน้าด้านหน้า
การเชื่อมต่อWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNAWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Bluetooth 5.0
Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct
เซ็นเซอร์accelerometer, gyro, proximity, compass, barometerFingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
ขนาดและน้ำหนัก148.9 x 71.9 x 7.9 มม. 163 g.154.2 x 74.1 x 7.3 มม. 153 g
158.7 x 77.7 x 9 มม. 170 g.
ระบบปฏิบัติการAndroid 7.0Android 7.1.1Android 7.0
ฟีเจอร์เด่น-หน้าจอ Dolby Vision HDR10
-กันน้ำกันฝุ่น IP68
-ระบบชาร์จไว Dash Charge
-กล้องซูม Optical 2X
-Tango Phone
-ระบบเสียง DTS
-กล้องซูมออพติคอล 3 เท่า
ราคา (บาท)15,xxx บาท64GB 16,xxx บาท
128GB 18,xxx บาท
2x,xxxบาท

นี่คือ 9 สมาร์ทโฟนเรือธง สเปคท็อป ฟีเจอร์เทพที่น่าสนใจในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาครับ มารอลุ้นกันต่อว่าในครึ่งปีหลังนี้แต่ละค่ายจะขนไม้เด็ดๆ อะไรออกมา อย่าง Nokia 8 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไป และ Zenfone 4 Pro ส่วนรุ่นอื่นๆ ที่จะตามมาอย่าง Huawei Mate 10, Galaxy Note 8, Xperia XZ1, , LG V30 หรือ Mi Mix 2 อ้อ เกือบลืม IPhone 7s หรือ 8 อีกรุ่น