เพิ่งจะอายุครบ 7 ขวบไปไม่นานนี้สำหรับเจ้าหนู Android ที่ตอนนี้กลายเป็นระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ใครจะคิดว่าตอนที่เราได้เห็น Android เปิดตัวมาพร้อมมือถือรุ่นบรรพบุรุษอย่าง T-Mobile G1 หรือ HTC Dream และในช่วงเวลานั้นมีมือถือเปลี่ยนโลกอย่าง Apple iPhone นำกระแสอยู่แล้ว จะสามารถกลายเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนได้ในปัจจุบัน ซึ่งเราต้องยกเครดิตให้ Google ที่สามารถผลักดันเจ้าหุ่นกระป๋องให้มาไกลได้ขนาดนี้ แต่ถึงจะเป็นระบบปฎิบัติการของสมาร์ทโฟนที่มีคนใช้งานมากที่สุดทั่วโลก แต่ยังมีเรื่องราวอีก 6 อย่างที่หลายคนยังไม่รู้หรืออาจจะยังไม่รู้ทั้งหมด เรามาดูกันว่ามีเรื่องอะไรกันบ้างครับ


1) Android ไม่ได้ถูกสร้างมาเป็น OS ของมือถือตั้งแต่เริ่ม แต่เป็นของกล้องดิจิตอลต่างหาก

Google ซื้อ Android มาเป็นของบริษัทเมื่อปี 2005 ซึ่งในเวลานั้น Andy Rubin บิดาของ Android ได้นำเสนอว่า “Android เป็น solution แบบ Open-source สำหรับโทรศัพท์มือถือ” แต่จริงๆแล้ว 1 ปีก่อนหน้านั้น Rubin พัฒนา Android ขึ้นมาเพื่อเป็นระบบปฏิบัติการของกล้องดิจิตอล แต่เมื่อเวลาผ่านเค้าก็รู้ตัวว่า สมาร์ทโฟนต่างหากคืออนาคต ไม่ใช่กล้องดิจิตอล จึงตัดสินใจเปลี่ยนแนวทางการพัฒนามาตั้งแต่นั้น อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว Android ก็ได้เป็นระบบปฏิบัติการของกล้องดิจิตอลด้วยเหมือนกัน เพราะถูกเอาไปใช้ใน Samsung Galaxy NX นั่นเอง

 

2) Android แรกเริ่มนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเจ้าตลาดสมาร์ทโฟนในขณะนั้นเลย

ในปี 2007 Google และพันธมิตรในวงการได้ก่อตั้งกลุ่ม Open Handset Alliance ขึ้นมาพร้อมทั้งเปิดตัว Android อย่างเป็นทางการในฐานะระบบปฏิบัติการแบบ Open-source สำหรับมือถือ และในปีนั้นมีเจ้าตลาดอยู่แล้วหลายรายทั้ง Symbian, BlackBerry, Palm และ Windows Mobile ส่วน Apple ก็เพิ่งเริ่มตั้งไข่กับ iPhone รุ่นแรก โดยในขณะนั้นไม่มีใครคิดว่า Android จะมาเป็นคู่แข่งและไม่คิดว่ามันจะไปรอดด้วยซ้ำ โฆษกของ Nokia เคยตอบคำถามสื่อในช่วงนั้นว่า “Nokia ไม่เห็นว่า Android จะเป็นภัยคุกคามต่อบริษัท” ส่วนผู้บริหารของ Microsoft ที่ดูแล Windows Mobile อยู่ตอนนั้นก็บอกว่า “ไม่เข้าใจว่า Android จะมีผลกระทบกับ Windows Mobile” 

แต่ที่เด็ดสุดคือ ตัวแทนของ Symbian ที่ประกาศอย่างเต็มภาคภูมิว่า “เราอยู่ในวงการมา 9 ปี ได้เห็น Platform ใหม่ๆถูกสร้างขึ้นมาและบอกว่าจะมาสู้กับเรา ก็ไม่ใช่ว่าเราไม่สนใจนะ แต่เราเป็นของจริง มีมือถือขายจริง มี Platform ที่ใช้งานได้จริง และยอดขายก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นมาหลายรายแล้วที่พยายามสร้าง OS มาตรฐานจาก Linux แต่ปัญหาคือ Linux มันไม่มีการจัดการและควบคุมที่ดีพอ และก็ไม่สามารถมีได้ด้วย”

…ปัจจุบันนี้ก็คงเห็นกันแล้วนะครับว่าได้หรือไม่ได้ ^_^

 

3) Android เป็นระบบปฏิบัติการและสินค้าเทคโนโลยีที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก 

จากข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในปี 2013 นั้น Android มีจำนวนผู้ใช้งานที่เป็น Active user ถึง 1 พันล้านคนโดยใช้เวลาเพียง 5 ปี ในขณะที่ Apple ต้องใช้เวลาเกือบ 6 ปีถึงจะมีผู้ใช้งาน 700 ล้านคน ส่วน Symbian นั้นใช้เวลาถึง 11 ปีในการที่จะมีผู้ใช้งาน 450 ล้านคน 

 

4) ในกลุ่มผู้นำของ Platform สมาร์ทโฟนยุคปัจจุบัน Android คือ Platform ที่สามารถทำงานได้บนอุปกรณ์หลากหลายชนิดมากที่สุด

ถึงแม้ว่าเราจะเห็น Android อยู่บนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตกันเป็นส่วนใหญ่ แต่จริงๆแล้ว Android นั้นยังทำงานอยู่บนอุปกรณ์และสินค้าหลายๆชนิด ไม่ว่าจะเป็น นาฬิกาข้อมือ, TV, กล้องดิจิตอล, เครื่องใช้ภายในบ้าน, แว่นตา, อุปกรณ์ความบันเทิงในรถยนต์, เครื่องเกมส์คอนโซล และอีกมากมาย

 

5) ใครๆก็พัฒนา App บน Android ได้เพราะมันฟรี

คำว่า “ฟรี” ในที่นี้จะหมายถึง ค่า License ของนักพัฒนาที่จะต้องจ่ายให้กับเจ้าของ Platform ถ้าต้องการที่จะทำ App ให้กับ Platform นั้นๆ ซึ่งถ้าเป็น iOS นักพัฒนาจะต้องจ่ายค่า License ให้ Apple $99 หรือประมาณ 3,250 บาททุกปี แต่ Android ไม่ต้องจ่ายเงินส่วนนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเราจะเอา App ขึ้นไปบน Play Store จะต้องเสียค่าลงทะเบียน $25 หรือประมาณ 820 บาทแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

 

6) ความเป็นมาของโลโก้ Android 

โลโก้ Android หรือ “เจ้าหุ่นเขียว” ที่เราเห็นกันในทุกวันนี้ ถูกทำขึ้นในปี 2007 ปีที่ Android เปิดตัวครั้งแรก ผู้ออกแบบคือ Irina Blok นักออกแบบหญิงชาวรัสเซียซึ่งปัจจุบันนี้ไม่ได้ทำงานอยู่ที่ Google แล้ว โจทย์ในการทำโลโก้ Android นั้นคือ “เรียบง่ายและต้องเกี่ยวกับหุ่นยนต์” ซึ่ง Irina ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปสัญลักษณ์ของผู้ชายและผู้หญิงที่ติดอยู่ตามห้องน้ำสาธารณะทั่วไป และก็ได้ร่างเป็นภาพของ หุ่นยนต์สีเขียว ออกมาเป็นแบบที่เราเห็นในทุกวันนี้ และ โลโก้ Android ก็เป็น open-source เช่นกัน ตามข้อตกลง License ของ Creative Commons Attribution 3.0 ซึ่งอนุญาตให้เราเอาเจ้าหุ่นเขียวไปใส่เสื้อผ้า ปรับหน้าตา ปรับสี ได้ตามต้องการ

 

เป็นอย่างไรบ้างครับ รู้กันครบทุกข้อหรือเปล่า?

 

ที่มา: PhoneArena