หลังจากเปิดตัวไปเมื่อซักครู่สำหรับ OnePlus 9 Series ที่รอบนี้ขนสมาร์ทโฟนมาเปิดตัว 2 รุ่นเหมือนเช่นเคย ได้แก่ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro โดยในบทความนี้ ทางทีมงาน DroidSans ก็ได้รวบรวม 9 ฟีเจอร์และไฮไลท์เด็ด ๆ ของมือถือทั้ง 3 รุ่นนี้ ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

จอ OLED แบบ LTPO ปรับรีเฟรชเรทอัตโนมัติ 1Hz – 120Hz

OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro มาพร้อมกับหน้าจอ Fluid AMOLED ความละเอียด FHD+ และ QHD+ ตามลำดับ รองรับค่ารีเฟรชเรทสูงสุดที่ 120Hz โดยรุ่น Pro จะมีความพิเศษมาก ๆ ตรงที่เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกจาก OnePlus ที่ใช้หน้าจอ OLED แบบ LTPO ซึ่งเทคโนโลยี LTPO จะเข้ามาช่วยปรับรีเฟรชเรทอัตโนมัติตั้งแต่ 1Hz ไปจนถึง 120Hz

โดย OnePlus เคลมว่าหน้าจอ Fluid AMOLED 120Hz LTPO ของ OnePlus 9 Pro จะกินพลังงานน้อยลงกว่าจอ OLED ทั่วไปถึง 50%

HYPER TOUCH ทัชติดนิ้วกว่าเดิม

นอกจากนี้ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ยังมากับฟีเจอร์ Hyper Touch ที่จะเข้ามาให้ประสบการณ์การสัมผัสได้ลื่นไหลและติดนิ้วกว่าเดิม โดยปัจจุบันฟีเจอร์ Hyper Touch จะรองรับการใช้งานกับ PUBG, Call of Duty และ Genshin Mobile

ชิปเซ็ตเรือธง Snapdragon 888 รองรับ 5G

ภายในของ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro จะมีชิปเซ็ต Snapdragon 888 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 5 นาโนเมตร เป็นหน่วยประมวลผล CPU และ GPU แรงขึ้นกว่าเดิม 25% และ 35% ตามลำดับ อีกทั้งยังมีโมเด็ม Snapdragon X60 โมเด็ม 5G แถมยังรองรับการใช้งาน WiFi 6 และ Bluetooth 5.2

ระบบระบายความร้อน COOL PLAY เล่นเกมต่อเนื่อง เครื่องก็ยังเย็น

นอกจากจะมีชิปที่แรงระดับเรือธงแล้ว ทาง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ก็ยังมีระบบระบายความร้อนที่ทาง OnePlus ต้ังชื่อเอาไว้แบบสุดเท่ว่า “Cool Play” โดยจะมี Copper Graphite ทั้งหมด 5 ชั้น ซึ่งแน่นอนว่าเล่นไปนาน ๆ ตัว Cool Play จะเข้ามาช่วยให้ OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro มีอุณหภูมิที่น้อยกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ๆ อยู่ราว ๆ 1 – 2 องศาเซลเซียสเลย

กล้องหลังจับมือกับ Hasselbald ตีบวกคุณภาพ

เรื่องกล้องถือว่าเป็นจุดที่มือถือ OnePlus ยังตามหลังเรือธงจากค่ายอื่น ๆ อยู่ แต่ปีนี้เหมือนจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว เพราะ OnePlus ได้ไปจับมือร่วมกับ Hasselbald แบรนด์กล้องที่เคยขึ้นไปเหยียบพื้นผิวดวงจันทร์มาแล้วมาช่วยคาลิเบรตสี ใช้เซ็นเซอร์หลักเป็น IMX789 ที่ OnePlus เคลมว่ามีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ได้ใช้ ส่วนกล้อง Ultra-Wide ให้มาเป็นแบบ Free Form ไร้ความบิดเบี้ยว, กล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP ซูม Optical 3x และสุดท้ายเป็นกล้อง Mono ความละเอียด 2MP

*OnePlus 9 ไม่มีเลนส์ Telephoto*

รูปภาพตัวอย่างจาก OnePlus x Hasselblad

 

ขยี้กันที่เรื่องกล้องต่อดีกว่า ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 8K 30FPS คมชัดสุด เก็บได้ทุกรายละเอียด แถมยังรองรับการถ่าย Slow Motion แบบชัด ๆ ที่ 4K 120FPS อีกด้วย

*OnePlus 9 ถ่าย Slow Motion ได้สูงสุดที่ 4K 60FPS

แบตเตอรี่ 4500 mAh ชาร์จไวทั้งแบบมีสายและไร้สาย

OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro อัดแบตเตอรี่มาให้แบบเต็ม ๆ ที่ 4,500 มิลลิแอมป์ รองรับระบบชาร์จไว Warp Charge 65T ที่ทาง OnePlus เคลมว่าสามารถชาร์จจาก 0% – 100% ใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที หรือวันไหนรีบ ๆ ก็เสียบทิ้งไว้ 15 นาที ก็ได้แบตมาใช้งานแบบเพลิน ๆ แล้ว 65% ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน

นอกจากนี้ ทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ยังรองรับการชาร์จไวแบบไร้สาย หรือ Wireless Charging อีกด้วย รอบนี้สามารถวางบนแท่นชาร์จได้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน

ระบบ OxygenOS ลื่นไหล และได้ฟีล Stock Android เหมือนเดิม

แน่นอนว่าทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ก็มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ OxygenOS 11 ที่มีพื้นฐานมาจาก Android 11 หน้าตา UI ยังคลีน ๆ ตามสไตล์ OnePlus แต่แฝงมาด้วยฟีเจอร์เด็ดและประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลเหมือนเช่นเคย นอกจากนี้ยังมีกิมมิคเล็ก ๆ ก็คือ หน้าปัดนาฬิกาในฟีเจอร์ Always-On Display มีเข็มวินาทีใส่มาให้แล้ว ซึ่งทาง OnePlus อธิบายว่า ที่ทำแบบนี้ได้ ก็เพราะจอ OLED 120Hz แบบ LTPO นั่นเอง

มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68

OnePlus 9 Pro มากับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 ที่สามารถนำไปแช่น้ำจืดความลึก 1.5 เมตรเป็นเวลานาน 30 นาที สามารถใช้ออกกำลังกายได้ ตากฝนได้นิดหน่อย หรือเข้ามาช่วยให้ผู้ใช้อุ่นใจขึ้นเวลาเผลอทำมือถือตกน้ำ

ฝาหลัง Matte Finish มีให้เลือกจุใจ 6 สี

ปิดท้ายกันที่เรื่องของสีสันดีกว่า โดยทั้ง OnePlus 9 และ OnePlus 9 Pro ต่างมีให้เลือกทั้งหมดรุ่นละ 3 สี 3 สไตล์ ใช้ฝาหลังเป็นแบบ Matte Finish ทั้งหมด เป็นรอยนิ้วมือยากมาก ๆ แถมยังครอบทับด้วยกระจกนิรภัย Corning Gorilla Glass อีกด้วย

OnePlus 9

OnePlus 9 Pro