ในปีนี้ Android ได้เปลี่ยนวิธีการอัปเดตเป็นรุ่นหลักและรุ่นย่อยเป็นครั้งแรก เริ่มที่ Android 16 และล่าสุดกูเกิลยังได้เปิดตัว Android Canary เป็น channel การอัปเดต early-access แบบใหม่ มาแทน Developer Preview ของเดิม โดยจะเป็นการอัปเดตต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีจนกว่าจะถึงเวอร์ชันถัดไป ทำให้ภาพรวมการอัปเดต Android นั้นเปลี่ยนไป

ภาพรวมการอัปเดต Android ที่ผ่านมา

เดิมที วงจรชีวิต Android แต่ละเวอร์ชัน กูเกิลจะปล่อย Developer Preview ออกมาก่อน เพื่อให้นักพัฒนาทดสอบความเข้ากันได้ของแอปกับตัวระบบ โดยไทม์ไลน์ในระหว่างนี้จะกินเวลาสั้น ๆ แค่ประมาณ 2 เดือน

เมื่อ API ต่าง ๆ เข้าที่เข้าทางแล้ว Android จะเข้าสู่เวอร์ชัน Beta ในเฟสที่ 2 และสุดท้ายคือ Stable หรือตัวเต็ม ซึ่ง Beta และ Stable จะอัปเดตคู่ขนานก้ันไป ใครอยากลองใช้ฟีเจอร์ใหม่ ก็อยู่ในเวอร์ชัน Beta ต่อไปเรื่อย ๆ ได้ ส่วนผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่อยากปวดหัวกับบัก ไม่อยากมาคอยลุ้นว่าแอปไหนจะใช้ได้ – ใช้ไม่ได้ ก็อัปเดตเวอร์ชัน Stable ไปตามปกติ

Android Canary ดีกว่าแบบเดิมยังไง

กูเกิลมองว่าแนวทางอัปเดต Developer Preview แบบเดิม มีปัญหาใหญ่คือ ‘อายุสั้นเกินไป’ พอ Beta ออกมาปุ๊บ Developer Preview ก็ตายทันที ทำให้ฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ยังไม่เสถียรพอจะปล่อยใน Beta นั้นไม่มี channel ให้ปล่อยของ ต้องไปรอปล่อยอีกทีใน Developer Preview ของปีถัดไป ซึ่งกินเวลานานเกิน

ในแนวทางใหม่นี้ กูเกิลจึงอัปเดต Canary แบบคู่ขนานเพิ่มไปด้วยเช่นกัน เท่ากับว่าตอนนี้ Android จะมี channel การอัปเดต 3 แบบ ดังนี้

  • Canary – เน้นให้นักพัฒนาทดสอบแอปกับ Android เวอร์ชันใหม่
  • Beta – สำหรับคนอยากรู้อยากลอง อยากทดสอบฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร
  • Stable – เหมาะกับคนทั่วไป ได้ฟีเจอร์ใหม่ช้าหน่อยไม่เป็นไร ขอใช้ชีวิตบนความเสถียรเป็นสำคัญ

ความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกอีกอย่างคือ Android Canary สามารถอัปเดตผ่าน OTA โดยตรงได้แล้ว จากเดิมที่ Developer Preview สามารถอัปเดตได้ผ่านการแฟลช แม้จะไม่กินเวลานานนัก แต่หากเทียบระหว่างการเสียบสาย USB กับพีซี เปิดโปรแกรม Android Flash Tool กับกดปุ่มเดียว อัปเดตได้ทันที แน่นอนว่าอย่างหลังย่อมสะดวกกว่า (ยกเว้นการอัปเดตมา Canary ครั้งแรก ยังต้องแฟลชอยู่)

ควรอัปเดต Android Canary ไหม

Android Canary จะมีการเปลี่ยนแปลง API และพฤติกรรมของระบบ อยู่เรื่อย ๆ แอปบางตัวอาจไม่ทำงาน หรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่มีอุปกรณ์หลักเพียงเครื่องเดียว

นอกจากนี้ Canary จะมีเลขบิลด์ (เลขเวอร์ชัน) สูงกว่า Beta และ Stable เสมอ ในการดาวน์เกรดกลับมาจึงมีความจำเป็นต้องล้างเครื่องใหม่ ข้อมูลจะหายทั้งหมด

หากจุดประสงค์หลักคือต้องการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ การอัปเป็นเวอร์ชัน Beta จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากในเวอร์ชันนี้โดยปกติจะไม่มีบักที่ส่งผลอะไรรุนแรงมากนัก

อนึ่ง Android Canary เปิดให้ทดสอบเฉพาะมือถือ Pixel เท่านั้น Android ค่ายอื่นจะมีเพียงเวอร์ชัน Beta และ Stable และมักไม่ใช่การอัปเดตแบบคู่ขนาน