ถ้าพูดถึงเรื่องชิป Apple A ที่ใช้ในซีรี่ส์มือถือแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นชิปที่แอปเปิลดีไซน์ขึ้นมาใช้เอง เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ได้อย่างลื่นไหลใน iPhone ทุกรุ่น โดยชิปเหล่านี้มีความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนเท่าไหร่ เพราะเรียงตามอันดับความแรงขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้ชิปอะไรบ้าง คราวนี้เรารวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว
ชิปของ Apple ไม่มีความซับซ้อน เพราะค่อยไม่ต้องกลับไปเปิดตัวชิปรุ่นเก่า หรือตัวแรงน้อยกว่าออกมาเพื่อคั่นช่องว่างระหว่างชิปแต่ละรุ่น ดังนั้นชิปที่ทำขึ้นมาใหม่จะถือเป็นตัวแรงที่สุดที่ Apple สามารถผลิตได้เสมอ แต่อาจจะมีการใช้ชิปเวอร์ชั่นที่ต่างกันเล็กน้อย เช่นใช้แกนหลักตัวใหม่ หรือเพิ่มแกน GPU เพื่อใช้ในสินค้าอีกเวอร์ชั่น หรืออื่น ๆ
ต่างกับชิปฝั่งแอนดรอยด์อย่าง Qualcomm Snapdragon และ MediaTek ที่จะมีการอัปเกรดชิปหลายตระกูล ที่แบ่งระดับความแรงเอาไว้
เรียงลำดับชิป Apple A
รุ่น | ชิป / สถาปัตยกรรม | CPU | GPU | AnTuTu 9 | Geekbench 5 | เทียบได้กับ |
iPhone 14 Pro/14 Pro Max | A16 Bionic (4nm) | 2 x Everest @ 3.46 GHz 4 x Sawtooth @ 2.02 GHz | 5 core @ 700 MHz | 960088 | 1861 / 5229 | Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1, MediaTek Dimensity 9000 Plus |
iPhone 14/14 Plus iPhone 13/13 Mini iPhone 13 Pro/13 Pro Max iPhone SE (3rd gen) iPad mini (6th gen) Apple TV 4K (3rd gen) | A15 Bionic (5nm) | 2 x Avalanche @ 3.23 GHz 4 x Blizzard @ 2.02 GHz | 5 core @ 600 MHz / 4 core 600 MHz | 793800 | 1733 / 4788 | Samsung Exynos 2100 5G, Qualcomm Snapdragon 888 5G, Qualcomm Snapdragon 888 4G, Samsung Exynos 2200, MediaTek Dimensity 8100 |
iPad Air (4th gen) iPhone 12/12 Mini iPhone 12 Pro/12 Pro Max iPad (10th gen) | A14 Bionic (5nm) | 2 x Firestorm @ 3.09 GHz 4 x Icestorm @ 1.82 GHz | 4 core @ 1000 MHz | 732959 | 1594 / 4124 | Google Tensor, Samsung Exynos 2100 5G |
iPhone 11 iPhone 11 Pro/11 Pro Max iPhone SE (2nd gen) iPad (9th gen) Apple Studio Display | A13 Bionic (7nm) | 2 x Lightning @ 2.65 GHz 4 x Thunder @ 1.72 GHz | 4 core @ 1350 MHz | 629305 | 1336 / 3522 | Qualcomm Snapdragon 865, Qualcomm Snapdragon 7c Gen 2, Qualcomm Snapdragon 865+ (Plus), Samsung Exynos 2200, Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 |
iPad Pro 11-inch (2nd gen) iPad Pro 12.9-inch (4th gen) | A12Z Bionic | 4 x Vortex @ 2.49 GHz 4 x Tempest @ 1.59 GHz | 8 core @ 1340 MHz | – | 1122 / 4709 | Kirin 980, Qualcomm Snapdragon 888 5G, MediaTek Dimensity 9000+ |
iPad Pro 11-inch (1st gen) iPad Pro 12.9-inch (3rd gen) | A12X Bionic (7nm) | 4 x Vortex @ 2.49 GHz 4 x Tempest @ 1.59 GHz | 7 core @ 1340 MHz | 808307 | 1116 / 4625 | Kirin 980, Qualcomm Snapdragon 888 5G, MediaTek Dimensity 9000+ |
iPhone XS/XS Max iPhone XR iPad Mini (5th gen) iPad Air (3rd gen) iPad (8th gen) Apple TV 4K (2nd gen) | A12 Bionic (7nm) | 2 x Vortex @ 2.49 GHz 4 x Tempest @ 1.59 GHz | 4 core @ 1125 MHz | 529122 | 1129 / 2924 | Snapdragon 888 4G, Exynos 990, Dimensity 1000+, Google Tensor |
iPhone 8/8 Plus iPhone X | A11 Bionic (10nm) | 2 x Monsoon @ 2.39 GHz 4 x Mistral @ 1.19 GHz | 3 core @ 1066 MHz | 403259 | 929 / 2347 | MediaTek Dimensity 8100, Samsung Exynos 990, Samsung Exynos 9825, Qualcomm Snapdragon 865, Qualcomm Snapdragon 855 |
iPad Pro 10.5-inch (2017) iPad Pro 12.9-inch (2nd gen) Apple TV 4K | A10X Fusion (10nm) | 3 x Hurricane @ 2.38 GHz 3 x Zephyr @ 1.30 GHz | 12 core @ 1000 MHz | 222713 (Antutu 6) | 850 / 2324 (Geekbench 5.4) | Samsung Exynos 9825, MediaTek Dimensity 1200, Qualcomm Snapdragon 7c |
iPhone 7/7 Plus iPad (6th gen) iPad (7th gen) iPod touch (7th gen) | A10 Fusion (16nm) | 2 x Hurricane @ 1.64 GHz 2 x Zephyr @ 1.09 GHz | 6 core @ 900 MHz | 307028 | 777 / 1423 | Samsung Exynos 9825, MediaTek Dimensity 1200, Qualcomm Snapdragon 7c |
iPad Pro 9.7-inch (2016) iPad Pro 12.9-inch (2015) | A9X (16nm) | 2 x Twister @ 2.16 GHz | 12 core @ 650 MHz | 176593 (AnTuTu V6) | 3097 / 5284 (Geekbench 4.4) | Snapdragon 750G, Snapdragon 695 5G, Kirin 820 |
iPhone 6S/6S Plus iPhone SE (1st gen) iPad (5th gen) | A9 (16nm) | 2 x Twister @ 1.85 GHz | 6 core @ 650 MHz | 223561 | 531 / 973 | Snapdragon 820 |
iPad Air 2 | A8X (20nm) | 3 x Typhoon @ 1.5 GHz | 8 core @ 450 MHz | 101062 (Antutu 6) | 381 / 1060 | Qualcomm Snapdragon 626, Qualcomm Snapdragon 625, Samsung Exynos 7904 |
iPhone 6/6 Plus iPod Touch (6th gen) iPad Mini 4 Apple TV HD HomePod | A8 (20nm) | 2 x Typhoon @ 1.4 GHz | 4 core @ 533 MHz | 49093 (Antutu 5) | 328 / 627 (Geekbench 5.4) | Kirin 930, Kirin 925, Snapdragon 801 |
iPhone 5S iPad Airi Pad Mini 2/Mini 3 | A7 (28nm) | 2 x Cyclone @ 1.3 GHz/1.4 GHz | 4 core @ 450 MHz | 276 / – (Geekbench 5.4) | Snapdragon 800,Snapdragon 435, Helio P18, Kirin 658, | |
iPad (4th gen) | A6X (32nm) | 2 x Swift @ 1.4 GHz | 4 core @ 300 MHz | 781 / 1424 (Geekbench 3) | Snapdragon 410, Snapdragon 400 | |
iPhone 5/iPhone 5C | A6 (32nm) | 2 x Swift @ 1.3 GHz | 3 core @ 266 MHz | 705 / 1273 (Geekbench 3) | Snapdragon S4 Pro, Mediatek MT8127 | |
iPad (3rd gen) | A5X (45nm) | 2 x Cortex-A9 @ 1.0 GHz | 4 core @ 200 MHz | 330 / 566 (Geekbench 4) | Snapdragon 410 | |
iPad 2 iPhone 4S Apple TV (3rd gen) iPod Touch (5th gen) iPad Mini (1st gen) Apple TV (3rd gen) | A5 (32nm) | 1 x Cortex-A9 @ 1.0 GHz/800 MHz | 2 core @ 200 MHz | 750 (Geekbench 2) | Snapdragon S2 | |
iPad (1st gen) iPhone 4 iPod Touch (4th gen) Apple TV (2nd gen) | A4 (45nm) | 1 x Cortex-A8 @ 1.0 GHz/800 MHz | 1 core @ 200 MHz – 250 MHz | 410 (Geekbench 2) | Snapdragon S1 |
**การเทียบเคียงกับชิปรุ่นอื่น อาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากใช้คะแนนเทียบจาก benchmark ต่างเวอร์ชั่นกันออกไป ควรดูไว้ใช้เป็นแนวทางในการหาอีกขึ้นนึง**
- เทียบความแรงชิประหว่าง Snapdragon Dimensity Exynos Apple A Bionic ชิปนี้เทียบกับตัวไหนได้บ้าง
- เรียงลำดับชิป Snapdragon 8 series บนมือถือ Android รุ่นไหนแรงสุด
A16 Bionic – ชิปปี 2022 – iPhone 14 Pro/ 14 Pro Max
A16 Bionic รุ่นล่าสุดปี 2022 มีในรุ่น iPhone 14 Pro และ 14 Pro Max เท่านั้น โดย Apple ระบุว่าเพิ่ม memory bandwidth 50% ส่วน CPU แรงขึ้นไม่มาก แต่ประหยัดพลังงานมากขึ้น 20% แต่ยังเร็วกว่าชิปค่ายอื่นมาก ๆ จะเอาไปเทียบเคียงคงได้คะแนนต่างกันอยู่ แต่พอเทียบได้กับ Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1, MediaTek Dimensity 9000 Plus
A15 Bionic – ปี 2021 – iPhone 13, iPhone 14/14 Plus
A15 Bionic มีในมือถือรุ่น iPhone 14 และ 14 Plus กับใน iPhone 13 Series รวมไปถึง iPhone SE 3, iPad mini Gen 6, Apple TV 4K Gen 3 ตัวนี้มี performance core 2 แกน และ power efficiency core 4 แกน ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 5 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 15.8 พันล้านตัว ซึ่งเค้าเคลมว่าเร็วกว่ารุ่น A12 ถึง 40% และแรงกว่ารุ่น A14 ถึง 10%
A14 Bionic – ปี 2020 – iPhone 12
A14 Bionic มีในมือถือรุ่น iPhone 12 Series, iPad (10th gen), และ iPad Air (4th gen) ตัวนี้มี performance core 2 แกน และ power efficiency core 4 แกน ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 5 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 11.8 พันล้านตัว โดย Apple ระบุว่า CPU เร็วกว่ารุ่น A12 ถึง 40% และแรงกว่ารุ่น A13 ถึง 20%
A13 Bionic – ปี 2019 iPhone 11
A13 Bionic เจอตัวได้ใน iPhone 11 Series, iPhone SE (2nd gen), iPad (9th gen), และ Apple Studio Display จอ 5K ชิปตัวนี้ประกอบไปด้วย performance core 2 แกน และ power efficiency core 4 แกน ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 8.5 พันล้านตัว จากข้อมูลชี้ว่า A13 ซีพียูแรงขึ้น 20% และประหยัดไฟขึ้น 40% เมื่อเทียบกับ A12
A12 Bionic – ปี 2018 – iPhone Xs, iPhone Xr
A12 Bionic เปิดตัวมาพร้อม iPhone Xs และ Xr ในตำนาน พร้อมใช้ในอุปกรณ์อย่าง iPad Mini (5th gen), iPad Air (3rd gen), iPad (8th gen), และ Apple TV 4K (2nd gen) รุ่นนี้ใช้ performance core 2 แกน และ power efficiency core 4 แกน ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 7 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 6.9 พันล้านตัว โดย Apple ระบุว่า A12 CPU แรงขึ้น 15% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 50% เลยเมื่อเทียบกับตัว A11
A11 Bionic – ปี 2017 – iPhone X, iPhone 8
A11 Bionic เป็นชิปตัวแรกที่ห้อยชื่อ “Bionic” ตามท้าย พบได้ใน iPhone 8, iPhone 8 Plus, และ iPhone X เท่านั้น รุ่นนี้ใช้ performance core 2 แกน และ power efficiency core 4 แกน ใช้ได้พร้อมกันหมดทั้ง 6 แกนเลยด้วย ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 10 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 4.3 พันล้านตัว โดย Apple ระบุว่า A12 CPU แรงขึ้น 25% เมื่อเทียบกับ A7 ใน iPhone 7
A10X Fusion – ปี 2017 – iPad Pro 10.5″ 2017
A10X Fusion เป็นอีกเวอร์ชันนึงของ A10 Fusion มีใช้แค่ในรุ่น iPad Pro 10.5 นิ้ว (2017), iPad Pro 12.9 นิ้ว (2nd gen) และใน Apple TV 4K (2017) รุ่นนี้ใช้ performance core 2.39 GHz 3 แกน และ power efficiency core 3 แกน ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 10 นาโนเมตร ทรานซิสเตอร์ 3.3 พันล้านตัว ข้อมูลจาก Apple ระบุว่า CPU แรงกว่า A9X ถึง 30% และ GPU แรงกว่าถึง 30%
A10 Fusion – ปี 2016 – iPhone 7/7 Plus
A10 Fusion ใช้ใน iPhone 7/7 Plus, iPad (6th gen), iPad (7th gen), และ iPod touch (7th gen) ประกอบด้วย performance core 2 แกน และ power efficiency core 2 แกนเท่ากัน ผลิตบนฐานระดับ 10 นาโนเมตร ทรานซิสเตอร์ 3.3 พันล้านตัว โดย Apple ระบุว่า A10 Fusion CPU แรงขึ้น 40% GPU แรงขึ้น 50% เมื่อเที่ยบกับ A9
A9X – ปี 2015 – iPad Pro
A9x Fusion ใช้ใน iPad Pro 9.7 นิ้ว (2016) และ iPad Pro 12.9 นิ้ว เท่านั้น รุ่นนี้มีข้อมูลทางเทคนิคไม่มาก แต่รู้ว่า CPU แรงขึ้น 2 เท่า GPU แรงขึ้น 1.8 เท่าจากรุ่น A8X และคาดว่าผลิตบนฐาน 14 หรือ 16 นาโนเมตรครับ
A9 – ปี 2015 – iPhone 6S, iPhone SE 1
A9 ออกมาในปี 2015 ใช้ใน iPhone 6S, 6S Plus, iPhone SE ตัวแรก, และ iPad Gen 5 ตัวนี้ไม่มีข้อมูลทางเทคนิคเผยออกมาเท่าไหร่ แต่พอทราบว่าผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 14 และ 16 นาโนเมตร ท ข้อมูลจาก Apple ระบุว่า CPU แรงขึ้นถึง 70% และ GPU แรงกว่าถึง 90% เมื่อเทียบกับตัว A8 เป็นชิปที่ทำให้เริ่มถ่ายวิดีโอระดับ 4K ได้ด้วย
A8X – ปี 2014 – iPad Air 2
A8X ออกมาในปี 2014 ใช้ใน iPad Air 2 อย่างเดียวเท่านั้น รุ่นนี้ผลิตบนฐานระดับ 20 นาโนเมตร ทรานซิสเตอร์ 3 พันล้านตัว โดย Apple ระบุว่าA8X CPU แรงขึ้น 40% เมื่อเที่ยบกับ A7 และแรงกว่าตัว A8 ธรรมดา 20% จากค่าความเร็วนาฬิกาที่เพิ่มขึ้นไป 100MHz กินไปพอ ๆ กันกับชิปจากคู่แข่งอย่าง Samsung และ Qualcomm ในยุคนั้น
A8 – ปี 2014 – iPhone 6
A8 มีในมือถือรุ่น iPhone 6 & 6 Plus, iPod Touch (6th generation), iPad Mini 4 รวมไปถึง Apple TV HD Gen 4 และ HomePod ด้วย ตัวนี้มีผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 20 นาโนเมตร ประกอบไปด้วยทรานซิสเตอร์ 2 พันล้านตัว ซึ่งเค้าเคลมว่าเร็วกว่ารุ่น A7 ราว 10 – 15%
A7 – ปี 2013 – iPhone 5S
A7 พบเจอได้ใน iPhone 5S, iPad Air, iPad Mini 2 และ Mini 3 ผลิตบนฐานระดับ 28 นาโนเมตร มีทรานซิสเตอร์ต่ำกว่า 1 พันล้านตัว มี CPU 2 แกน 1.3 – 1.4GHz แม้ไม่มีข้อมูลเทียบว่าพัฒนาขึ้นมาเท่าไร แต่ก็สามารถเอามาเทียบชนกับตัว Snapdragon 800 ในยุคนั้นได้ แถมมี GPU ที่แรงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งด้วย
A6 – ปี 2012 – iPhone 5 / 5C
A6 มีใน iPhone 5 และ iPhone 5C ผลิตบนสถาปัตยกรรม 32 นาโนเมตร เล็กลงจาก A5 มาราว 22% ประกอบไปด้วยแกน 1 GHz สองแกน CPU มีความเร็วนาฬิกาอยู่ราว 800 – 1200MHz ตัว GPU ใช้รุ่น PowerVR SGX543MP3 @ 266 MHz มีรุ่นย่อย Apple A6X ที่ใช้ใน iPad Gen 4 อยู่ ตัวนั้นประกอบไปด้วยแกน 1.4 GHz 2 ตัว
A5 – ปี 2011 – iPhone 4S
A5 เจอในอุปกรณ์และมือถืออย่าง iPad 2, iPhone 4S, Apple TV (3rd generation), iPod Touch (5th generation), iPad Mini (1st generation), Apple TV Gen 3 ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 45 และ 32 นาโนเมตร ใช้แกน Cortex-A9 @ 1 GHz สองแกน แต่บางเวอร์ชันจะ underclock ไว้เหลือ 800 MHz อย่างใน iPhone 4S
A4 – ปี 2012 – iPhone 4
A4 ถูกใช้ใน iPhone 4, iPad ตัวแรก, iPod Touch Gen 4, และ Apple TV Gen 2 เป็นตัวแรก ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 40 nm ใช้ Corex-A8 @ 1 GHz 2 แกน ใช้ GPU a PowerVR SGX 535 ครับ
รวมข้อมูลชิป Snapdragon ของ Qualcomm ทุกซีรีส์หลัก แบ่งรุ่นกันอย่างไร อยู่ในมือถือระดับไหนบ้าง
รวมข้อมูลชิป MediaTek ทุกซีรีส์หลัก แบ่งรุ่นกันอย่างไร อยู่ในมือถือระดับไหนบ้าง
ที่มา wikipedia, notebookcheck ,unite4buy, nanoreview
Comment