ในที่สุด Apple ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว iMac ที่ใช้ชิป M1 สักที  โดยคราวนี้เรียกได้ว่าเป็น All-new iMac จริง ๆ เพราะเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด ขอบจอบางมาก ซึ่งมีให้เลือกถึง 7 สีคือ เขียว, เหลือง, ส้ม, แดง, ม่วง, น้ำเงิน และเงิน ส่วนหน้าจอมีให้เลือกขนาดเดียวคือ 24″ ความละเอียด 4.5K สนนราคาเริ่มต้นที่ 1,299 เหรียญ ขายในบ้านเราที่ 42,900 บาท พร้อมแถม Magic Keyboard เปิดจอง 30 เมษายน และวางจำหน่ายช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม 2021

All-new iMac ดีไซน์ใหม่หมด

ปกติแล้ว iMac รุ่นที่ผ่านมาหลาย ๆ เจนจะมีแค่สีเทา แต่ไม่ใช่สำหรับ iMac M1 ที่มีให้เลือกถึง 7 สี เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้งาน พร้อมกับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่หมด ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัด ไซส์เล็กลง น้ำหนักตัวเครื่องไม่ถึง 5 กก. และมีบางกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด โดยมีความบางเพียง 11.5 มม. เท่านั้น

หน้าจอ Retina ความละเอียด 4.5K 

สำหรับ iMac M1 ที่เปิดตัวมานี้จะมีแค่รุ่น 24″ รุ่นเดียว โดยตัวจอเลือกใช้ Retina Display ความละเอียด 4.5K ขนาด 4480 x 2520 มี 11.3 ล้านพิกเซล สีสันสวยงามคมชัด ขอบเขตสีกว้างระดับ P3 สีสันมากกว่าพันล้านสีจะเอาไปใช้งานตกแต่งภาพ ตัดต่อวิดีโอ สีเที่ยงตรงแน่นอนไม่มีผิดเพี้ยน ความสว่าง 500 Nits จะใช้งานแสงจ้า ๆ ก็ไม่มีปัญหา

รวมถึงมีเทคโนโลยี True Tone ซึ่งจะช่วยปรับอุณหภูมิสีโดยอัตโนมัติเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป อีกทั้งยังมีการเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนระดับสูง เพื่อความสบายตาในการอ่านเวลาใช้เวลานาน ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

กล้อง Webcam และระบบเสียงอัปเกรดใหม่

ในส่วนของกล้อง Webcam บน iMac M1 ทาง Apple ก็ทำการอัปเกรดใหม่หมด (พูดเยอะมากในงาน) ซึ่งใช้เป็นความละเอียด Full HD 1080p ประสิทธิภาพคล้ายกับกล้องหลังในมือถือรุ่นใหม่ ๆ

โดยจะมีฟีเจอร์การปรับไวท์บาลานซ์ ปรับแสง ตรวจจับใบหน้า ฯลฯ ทำให้เอาไปใช้งาน FaceTime หรือ Video Call ในช่วง Work Form Home กันได้สะดวกสบายคมชัดมากยิ่งขึ้น

ลำโพง iMac M1 ทาง Apple เคลมว่าเป็นระบบเสียงที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Mac โดยจะมีลำโพงทั้งหมด 6 ตัว (ฝั่งซ้าย-ขวาอย่างละ 3 ตัว) ให้เสียง Dolby Atmos รอบทิศทางเต็มอิ่มไปทั่วทั้งห้อง รวมถึงไมโครโฟนจัดเต็มใส่มาให้ถึง 3 ตัว ซึ่งเป็นคุณภาพระดับสตูดิโอ ทำให้ไม่ว่าจะใช้งานวิดีโอคอลกับเพื่อน ตัดต่อแทร็คเพลง หรืออัดพ็อดคาสท์ ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ และมีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างให้ด้วย

สเปคชิป M1 รุ่นเดิม เพิ่มเติมแรงกว่าเก่า 85%

(ซ้ายคือหน้าตาบอร์ด iMac รุ่นเดิม, ขวาคือ iMac M1)

หลายคนอาจจะแอบเสียดายที่ iMac รุ่นใหม่นี้ยังคงเป็น Apple M1 ไม่ใช่ M1X เหมือนตามข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งทาง Apple เองก็เคลมว่าประสิทธิภาพตัว M1 เองก็ทรงประสิทธิภาพอยู่ แรงกว่าซีพียูรุ่นก่อนสูงสุดถึง 85% กราฟิกกว่าเดิม 2 เท่า ML เร็วขึ้น 3 เท่า และหากเทียบกับ iMac รุ่น 21.5″ จะเร็วกว่าถึง 2 เท่ากันเลยทีเดียว รองรับการทำงานหนัก ๆ สบาย ๆ ซึ่งจากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่าสมัยก่อนต้องมีชิปหลาย ๆ อัน มีแรมแยก แต่ปัจจุบันทุกอย่างทุกยัดลงมาใน Apple M1 เล็ก ๆ อันเดียวหมดเลย

Apple M1 บน iMac 24″ แบ่งออกเป็น 2 รุ่นคือ

  • CPU แบบ 8‑core, GPU แบบ 7‑core และ Neural Engine แบบ 16‑core
  • CPU แบบ 8‑core, GPU แบบ 8‑core และ Neural Engine แบบ 16‑core

ทางด้านระบบระบายความร้อนสังเกตว่าตัวเครื่องจะมีพัดลมมาให้ 2 ตัวขนาดเล็ก ๆ ซ้ายขวา ซึ่งแน่นอนว่าเวลาใช้งานหนัก ๆ เสียงพัดลมจะเบากว่า iMac รุ่นเดิมอย่างแน่นอนครับ

(ซ้ายรุ่นเริ่มต้น M1 GPU 7 Core, ขวา M1 GPU 8 Core)

ถัดมาในเรื่องพอร์ตเชื่อมต่อ Apple ตัดพวก USB-A และ HDMI ทิ้งออกหมดเลย เหลือเพียงพอร์ต USB-C ที่เป็น USB 3 และ Thunderbolt / USB 4 กับ Headset 3.5 mm ด้านข้างเครื่องมาให้เท่านั้น ถ้าอยากใช้พอร์ตอื่น ๆ คงต้องไปหาซื้อ HUB มาต่อแยก ส่วนช่องเสียบไฟด้านหลังจะอัปเกรดมาใหม่เป็นหัวแม่เหล็กดูดติดอัตโนมัติ ไม่ต้องออกแรงดันเวลาเสียบสายด้วยนะ

สำหรับสายไฟเสียบเข้าเครื่อง iMac M1 นี้อัปเกรดใหม่เป็นสายถักสีเข้ากับเครื่องมีความยาวสูงสุด 2 เมตร และตัวอะแดปเตอร์ออกแบบมาให้มีขนาดเล็กลง เพิ่มเติมคือมีพอร์ต LAN มาให้ด้วยนะ (จริงๆ น่าจะมี USB-A มาให้สักช่องก็ดี)

นอกจากนี้ iMac M1 ยังมาพร้อมกับคีย์บอร์ด (Magic Keyboard), เมาส์ และแทร็คแพด รุ่นใหม่ที่มีสีที่เข้ากันกับตัวเครื่องด้วย โดยตัว Magic Keyboard จะปุ่มสำหรับ Spotlight,”การป้อนตามคำบอก”, “ห้ามรบกวน” และอิโมจิ เพิ่มเข้ามาจากรุ่นเก่า รวมถึง Touch ID อยู่ที่มุมบนขวาด้วย

สรุป

เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนโฉมของประวัติศาสตร์ของ iMac กันเลยทีเดียวสำหรับเจ้า iMac M1 24″ นี้ ด้วยดีไซน์ที่ดูสีสันจัดจ้านมากขึ้น มีความเป็น Colorful เข้ากับไลฟ์สไตล์วัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งปกติแล้ว Apple ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับ Mac เจนก่อน ๆ เท่าไรนัก มักจะเน้นในเรื่องของความเป็นมืออาชีพซะมากกว่า

ส่วนเรื่องสเปคแม้ว่าอาจจะผิดหวังนิดหน่อยตรงที่ไม่ได้เป็นชิป M1X แต่ชิป M1 เองเดิม ๆ ประสิทธิภาพก็ยังถือว่าทรงพลังอยู่ เอาไปใช้งานโปรแกรมใน Appstore บน macOS Big Sur เหลือเฟือสบาย ๆ ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจจริงๆ นอกจากสีสันตัวเครื่องก็คงจะเป็นหน้าจอที่โคตรแจ่ม ซึ่งใช้เป็น Retina Display ความละเอียด 4.5K ขอบเขตสี P3 เกรดท็อปที่น่าจะดีสุดแล้ว ณ เวลานี้ หา PC ฝั่ง Windows มาเทียบด้วยยากจริง ๆ

ราคาและสเปค iMac M1 24″ ในไทย

ในหน้าเว็บ AppleTH ตอนนี้จะแบ่งออกเป็น 3 สเปคด้วยกัน ซึ่งครั้งนี้ประเทศไทยถือว่าค่อนข้างโชคดีที่ได้วันจองและวันขายเหมือนกับกลุ่มประเทศ Tier 1 คือ เริ่มจอง 30 เมษายน 2021 และวางจำหน่ายจริงช่วงครึ่งหลังของเดือนพฤษภาคม 2021 เป็นต้นไป

  • Apple M1 (GPU 7-core) + SSD 256GB แถม Magic Keyboard (ไม่มี Touch ID) ราคา 42,900 บาท
  • Apple M1 (GPU 8-core) + SSD 256GB แถม Magic Keyboard (มี Touch ID) ราคา 49,900 บาท
  • Apple M1 (GPU 8-core) + SSD 512GB แถม Magic Keyboard (มี Touch ID) ราคา 56,900 บาท

**ส่วนเรื่องของการอัปเกรดเพิ่ม RAM และความจุเครื่อง ตอนนี้ราคายังไม่มีระบุออกมาครับ โดยเพื่อน ๆ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ : AppleTH

 

ที่มา : Apple (1, 2)