จากจดหมายข่าว Power On ประจำสัปดาห์ฉบับล่าสุด Mark Gurman จาก Bloomberg ยืนยันคำเดิมว่า iOS 18 จะเป็นการอัปเกรดระบบปฏิบัติการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Apple ตามที่เจ้าตัวเคยกล่าวไว้ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่รอบนี้ Gurman ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าว ถึงความเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ที่จะมาใน iOS 18 อยู่ 2 – 3 อย่าง คือ การรองรับ RCS, ฟีเจอร์ด้าน AI, และ Siri ที่ฉลาดขึ้น

รองรับ RCS ส่งข้อความข้ามค่าย ไม่เสียเงินเหมือน SMS

หลังจากโดน Google และบรรดาผู้ผลิต Android หลายค่ายกดดันมานาน ในที่สุด Apple ก็ประกาศยอมรับโปรโตคอล RCS บน iMessage ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน โดยระบุกรอบเวลาแบบกว้าง ๆ ว่า ‘ภายในปลายปีหน้า’ หรือก็คือในปี 2024 นี้ ซึ่งถ้าดูจากไทม์ไลน์แล้ว ก็จะเป็นช่วงหลังจากที่ iOS 18 เปิดตัว ตรงกับข้อมูลของ Mark Gurman

การมาถึงของ RCS จะนำข้อดีหลายอย่างมาสู่การรับส่งข้อความบน iPhone ยกตัวอย่างบางส่วน เช่น

  • รองรับการเข้ารหัสข้อความจากต้นทางสู่ปลายทาง
  • รองรับการแชตเป็นกลุ่ม
  • รองรับการโต้ตอบด้วยอีโมจิ
  • รองรับการส่งข้อความผ่าน Wi-Fi ไม่ต้องเสียค่าบริการ SMS
  • รองรับตัวบ่งชี้สถานะ ‘อ่านแล้ว’ และ ‘กำลังพิมพ์’

แต่ข้อจำกัดเบื้องต้นของการรองรับ RCS บน iPhone คือ กล่องข้อความที่ถูกส่งข้ามแพลตฟอร์มจากฝั่ง Android จะยังคงแสดงผลบน iMessage เป็นสีเขียวอยู่ (แทนที่จะเป็นสีน้ำเงินแบบที่ส่งจาก iPhone ด้วยกันเอง)

ฝัง LLM ลง Siri ให้เก่งสู้ Google Assistant ได้

ถัดมาคือการเพิ่มความสามารถเกี่ยวกับ AI ที่หลายฝ่ายน่าจะกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของ Apple หลังจากที่คู่แข่งอย่าง Google และ Samsung ต่างรุดหน้าไปก่อนแล้วในการเปิดตัว Pixel 8 series และ Galaxy S24 series ที่มีความสามารถประมวลผล AI โดยตรงจากบนเครื่อง

Gurman บอกว่า Siri จะฉลาดขึ้น รองรับการสั่งงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น สอดคล้องกับข่าวลือก่อนหน้านี้ของ The Information ที่รายงานว่า Apple จะฝังโมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLM ลงใน Siri เพื่อให้ทัดเทียมหรือดีกว่า Google Assistant ของ Google ที่ถูกจับรวมร่างกับ Bard จนกลายเป็น Assistant with Bard แล้ว และกำลังจะเปิดให้ใช้งานเร็ว ๆ นี้

ขยาย Generative AI ให้ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์ม

และความเปลี่ยนแปลงอย่างสุดท้าย (เท่าที่มีข้อมูล) ก็ยังวนเวียนอยู่กับเรื่อง AI คือ นอกเหนือจาก Siri แล้ว Apple ยังต้องการผนวก generative AI ให้ครอบคลุมกับแอปและบริการหลายตัวในแพลฟอร์ม เช่น Apple Music, Keynote, Messages, Pages และ Xcode เป็นต้น

ที่มา : Bloomberg | 9to5Google