เป็นอะไรที่ไฟลามทุ่งเอาซะมากๆ สำหรับเรื่องที่ Apple แอบปรับลดความเร็วการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าให้ช้าลงกว่า 50% ดังไปทั่วโลกในไม่กี่วัน ซึ่งแม้ว่าบางคนจะไม่คิดอะไรและปกป้องแบรนด์ที่ตนรัก แต่คนอีกกลุ่มใหญ่ก็ไม่โอเคกับการกระทำของ Apple ในครั้งนี้ ล่าสุดเหล่าผู้ใช้งาน iPhone ตั้งแต่รุ่น iPhone 7 ลงไป ในสหรัฐอเมริกาได้รวมตัวกันฟ้อง Apple แบบ Class action ในเรื่องดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

การฟ้องร้อง Apple ในครั้งนี้ ได้มีการยื่นฟ้องในศาลของเมืองลอสแองเจลิส นำโดยนาย Stefan Bogdanovich และนาย Dakota Speas ซึ่งในเอกสารการฟ้องร้องมีใจความว่า “Apple ปรับความเร็วในการทำงานของ iPhone รุ่นเก่าให้ช้าลงโดยอ้างว่าเพื่อเป็นการยืดการใช้งานของแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพแล้ว แต่ไม่มีการแจ้ง หรือถามความสมัครใจของผู้ใช้งานก่อน” นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาเพิ่มเติมอีกด้วยว่า Apple จงใจทำแบบนี้เพื่อที่ลูกค้าจะได้เปลี่ยน iPhone เป็นรุ่นใหม่ทุกปีๆ นั่นเอง

ตอนนี้ผู้ยื่นฟ้องทั้ง 2 คน รวมถึงเหล่าผู้ใช้งาน iPhone ในรุ่นเก่าๆ ก็กำลังมองหาแนวร่วมจากผู้ใช้งาน iPhone ที่ได้รับผลกระทบนี้จากอีกหลายๆ รัฐ และหลายๆ ประเทศทั่วโลก เพื่อร่วมกันฟ้องร้อง Apple ที่แอบลดความเร็วของ iPhone รุ่นเก่าลงโดยไม่มีการบอกกล่าวหรือเสนอตัวเลือกผู้ใช้งานเลย

และพร้อมๆกันนี้ Apple ก็กำลังโดนบริษัทเสื้อผ้าในประเทศจีน KON ฟ้องร้องในเรื่องลิขสิทธิ์ของโลโก้บริษัทที่ประกอบไปด้วยแท่ง 3 แท่ง วางทับกันเป็นรูป 3 เหลี่ยม โดย KON ได้กล่าวหาว่า Apple ได้ลอกเลียนแบบโลโก้นี้มาใช้เป็นโลโก้ของ App Store ซึ่ง Apple พึ่งจะมีการเปลี่ยนดีไซน์เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง

ถือว่าเป็นการฟาดเคราะห์ก่อนสิ้นปีสำหรับ Apple จริงๆ ต่อจากนี้ก็ต้องรอดูว่า Apple จะออกมาเคลื่อนไหวจากการโดนฟ้องในเรื่องนี้ยังไง จะมีการชดเชย เยียวยาให้กับผู้ใช้งาน iPhone รุ่นเก่าที่โดนลดความเร็วเครื่องลงไปยังไงบ้างถ้าหากแพ้คดีขึ้นมา

 

ที่มา : Neowin, 9to5mac, Theverge