Apple ได้ประกาศผ่าน Press Release เรื่องการเปลี่ยนแปลงนโยบายหลายประการบน App Store แพลตฟอร์มดาวน์โหลดแอปและบริการต่าง ๆ ของพวกเขา ยุติปัญหาการดำเนินดดีแบบกลุ่มจากนักพัฒนาในสหรัฐอเมริกา อนุญาตให้นักพัฒนาส่งอีเมล์ไปหาผู้ใช้งานถึงวิธีการจ่ายเงินค่าบริการต่าง ๆ หรือ In-App Purchases (IAP) นอกเหนือจาก App Store ได้แล้ว

อันที่จริง ก่อนหน้านี้ Apple ก็เปลี่ยนกฎข้อบังคับต่าง ๆ อนุญาตให้นักพัฒนาสื่อสารกับผู้ใช้งานนอกแอปได้แล้ว แต่ห้ามให้ใช้ข้อมูลที่ตัวแอปเก็บเอาไว้ ให้ไปหาข้อมูลของผู้ใช้งานด้วยวิธีอื่นแทน แต่แล้วในการเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ นักพัฒนาจะสามารถสื่อสารกับผู้ใช้งานได้อย่างอิสระ ส่งอีเมล์เรื่องวิธีการจ่ายค่าบริการต่าง ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องทำผ่าน App Store เฉกเช่นเมื่อก่อนแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าแบบนี้หมายความว่า นักพัฒนาจะไม่ถูกหักส่วนแบ่ง 30% นั่นเอง 

โดย Apple จะต้องกองทุนสนับสนุนนักพัฒนาแอปที่มีรายได้น้อยกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นจำนวนทั้งหมด 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3,200 ล้านบาท) จ่ายเงินย้อนหลังให้กับนักพัฒนาทุกรายที่มีบัญชีในช่วงวันที่ 4 มิถุนายน 2015 – 26 เมษายน 2021 (เฉพาะในสหรัฐฯ) หรือที่ทาง blognone สรุปเอาไว้แบบง่าย ๆ ก็คือ Apple จ่ายเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อเป็นการยุติคดีฟ้องแบบกลุ่มจากนักพัฒนาประมาณ 67,000 ราย หาร ๆ กันไป หากมีเงินเหลือจะถูกบริจาคไปที่องค์กร Girls Who Code

นอกจากนี้ Apple ยังได้มอบความยืดหยุ่นให้กับนักพัฒนามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าคอมฯ กับนักพัฒนารายเล็กเหลือ 15% ยืดอายุเวลาไปอีกอย่างน้อย 3 ปี, การค้นหาแอปบน Play Store จะแสดงตามลักษณะที่เป็นรูปธรรม เช่น ยอดดาวน์โหลด จำนวนดาว ฯลฯ, ขยายช่วงระยะการตั้งราคาแอปได้ 100 – 500 ระดับ และหากนักพัฒนาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ที่เว็บ App Review ของบริษัทฯ

น่าสนใจว่าการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เหมือนกับเป็นการเปิดทางแบบอ้อม ๆ ในกับ Epic กรณีพิพาท Fortnite หรือเปล่า . . .

สรุปประเด็นข้อพิพาทระหว่าง Apple และ Epic Games มีปัญหาอะไร ทำไมแบน Fortnite และต้องฟ้องร้อง

ที่มา: Apple | blognone | The Verge