วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม Apple ได้ยื่นฟ้องร้องโรงภาพยนตร์ขนาดเล็กในเครือของ Apple Cinemas ต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐแมสซาชูเซตส์ ในข้อหาละเมิดเครื่องหมายการค้า หลังจากที่โรงภาพยนตร์ดังกล่าวเลือกใช้ชื่อที่มีความเหมือนกันจนเกินไป และยังมีแผนจะขยายสาขาไปทั่วประเทศเพิ่มเติม

ในรายละเอียดคำฟ้อง ทนายความของ Apple ระบุว่า Apple Cinemas จงใจและตั้งใจเลือกใช้ชื่อ Apple เพื่อสร้างความสับสนสำหรับผลประโยชน์ของตนเอง โดยการฟ้องร้องเกิดขึ้นหลังจากที่โรงภาพยนตร์ดังกล่าวซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2013 และมีสาขาตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เป็นหลัก ได้เริ่มขยายสาขามายังซานฟรานซิสโกเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับสำนักงานใหญ่ของ Apple

และสาเหตุหลักก็คือการที่ Apple Cinemas มีแผนที่จะขยายสาขาให้ครบ 100 สาขาทั่วประเทศ ประกอบกับความสับสนของลูกค้าจำนวนมากว่า Apple มีความเกี่ยวข้องกับโรงภาพยนตร์ในเครือของ Apple Cinemas จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยื่นฟ้องเพื่อปกป้องชื่อของบริษัทและไม่ให้ลูกค้าเกิดการเข้าใจผิดอีก

Apple Cinemas สาขา Warwick Mall

แถม Apple Cinemas ก็รับรู้มาแล้วด้วยว่าชื่อของบริษัทอาจจะสร้างความสับสนให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในเดือนตุลาคม 2024 สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของสหรัฐฯ (USPTO) ได้ปฏิเสธคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Apple Cinemas และ ACX — Apple Cinematic Experience เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะสร้างความสับสนกับสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าของ Apple Inc. ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้

และในเดือนธันวาคม 2024 Apple ได้เคยส่งจดหมาย cease and desist (จดหมายเตือนให้หยุดการกระทำ) โดยตรงไปที่บริษัทและมีการพยายามติดต่อหรือเจรจากันอีกหลายครั้ง แต่ทาง Apple Cinemas ก็ยังเดินหน้าที่จะทำตามแผนในการขยายสาขาอยู่ดี

ทางผู้ก่อตั้ง Apple Cinemas อ้างว่าที่มาของชื่อนั้นได้มาจากการที่เคยวางแผนจะเปิดสาขาแรกที่ห้าง Apple Valley Mall ในรัฐโรดไอแลนด์ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการเปิดสาขาที่นั่นแต่อย่างใด

ที่มา: MacRumors