watchOS 11 อีกหนึ่งซอฟต์แวร์อัปเดตที่เปิดตัวมาในงาน WWDC 2024 ในค่ำคืนนี้ด้วย สำหรับผู้ใช้งาน Apple Watch ซึ่งก็มีหลาย ๆ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจทั้ง เช็กและแสดงข้อมูลร่างกายได้ละเอียดมากขึ้น, เพิ่มแอปใหม่เพื่อสายสุขภาพ, การปรับแต่ง Watch Face, Apple Pay แตะจ่ายได้ผ่านข้อมือ เป็นต้น
ฟีเจอร์ใหม่ watchOS 11
แอป Vitals เช็กและแสดงข้อมูลร่างกายได้ละเอียดมากขึ้น
Vitals แอปใหม่ที่เปิดตัวมาในค่ำคืนนี้ด้วย สามารถแสดงข้อมูลด้านสุขภาพที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจบริบทเกี่ยวกับสุขภาพของผู้ใช้งานได้ดีมากขึ้น พร้อมทั้งแจ้งเตือนหากเจอสิ่งผิดปกติ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับและดูได้ว่ารอบตัวเรามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง เช่น ระดับความสูงที่มีการเปลี่ยนแปลง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่เจ็บป่วย
มีฟีเจอร์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ
สำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ watchOS 11 หากคุณแม่บันทึกข้อมูลลงในแอปสุขภาพบน iPhone หรือ iPad แอปติดตามรอบเดือนที่อยู่บน Apple Watch ก็จะแสดงอายุครรภ์และให้ผู้ใช้บันทึกอาการต่าง ๆ ซึ่งฟีเจอร์ก็จะคอยแจ้งข้อมูลต่าง ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคุณแม่
นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกรับแจ้งเตือนจากแอปสุขภาพเพื่อให้เข้ารับการประเมินสุขภาพจิตเป็นประจำทุกเดือนได้ด้วย เพราะว่าคุณแม่ที่ตั้งท้องจะมีความเสี่ยงสูงต่อภาวะต่างๆ เช่น ภาวะซึมเศร้าในระหว่างและหลังการตั้งครรภ์ และที่สำคัญยังแจ้งเตือนความเสี่ยงในการล้มได้รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์ได้ด้วย
Training Load เอาใจสายสุขภาพแบบจัดเต็ม
Training Load วิธีใหม่ในการวัดความเข้มข้นและระยะเวลาในการออกกำลังกาย ใครที่มาเวย์สายสุขภาพจริงจังน่าจะต้องชอบฟีเจอร์นี้แน่ ๆ เพราะฟีเจอร์นี้สามารถทำได้จัดเต็มมาก ๆ เช่น
- ให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อประกอบการตัดสินใจฝึกซ้อม – ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจความตึงเครียดของร่างกายจากการออกกำลังกายในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วง 28 วันที่ผ่านมา
- Effort Rating – วัดความเข้มข้นของการออกกำลังกาย ติดตามความยากง่ายของการออกกำลังกายมีให้เลือกวัดระดับตั้งแต่ 1 ถึง 10
- ดูสถานะสุขภาพประจำวัน – ดูสถานะสุขภาพของผู้ใช้และความสามารถในการฝึกซ้อมที่อาจมีความเกี่ยวพันกัน โดยให้ผู้ใช้ดู Training Load คู่กับข้อมูลในแอป Vitals
ปรับแต่งวงแหวนกิจกรรมและแอปฟิตเนสได้มากกว่าเดิม
สำหรับวงแหวนกิจกรรมที่จะคอยแสดงข้อมูลว่าในแต่ละวันเราทำอะไรบ้าง ขยับตัวมากน้อยแค่ไหน ซึ่งรอบนี้ watchOS 11 สามารถให้เราปรับแต่งฟีเจอร์ได้มากขึ้นกว่าเดิม ได้แก่
- กดหยุดวงแหวนชั่วคราวเป็นเวลาหนึ่งวัน หนึ่งสัปดาห์ หนึ่งเดือน หรือนานกว่านั้นได้ โดยไม่กระทบการได้รับรางวัลสถิติต่อเนื่อง
- ปรับแต่งเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมตามวันในสัปดาห์ได้
- ปรับแต่งแถบสรุปบนแอปฟิตเนสได้
ปรับแต่งหน้า Watch Face ได้
watchOS 11 จะช่วยเลือกรูปภาพที่ดีที่สุดเพื่อมาตั้งค่าหน้าปัด Apple Watch ให้ ด้วยการวิเคราะห์รูปภาพนับพันอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งปรับแต่งองค์ประกอบภาพให้สวยงามแบบเสร็จสรรพ ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าปัดเพิ่มเติมได้ด้วยการ เลือกขนาดของเวลา เลย์เอาท์ หรือเลือกแบบอักษร มาพร้อมโหมดไดนามิกที่จะทำให้เราเห็นภาพใหม่ ๆ ทุกครั้งที่ยกข้อมือขึ้นมาดู
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ
มีการออกแบบวิดเจ็ตใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้นเพียงแค่ปัดนาฬิกาเท่านั้น โดยจะแสดงผลเป็นวิดเจ็ดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น เช่น แจ้งเตือนสภาพอากาศที่รุนแรงที่กำลังจะเกิดขึ้น, ตารางเวลาที่สำคัญ, งานด่วนที่ต้องทำ เป็นต้น
แอปแปลภาษาบน Apple Watch แปลสะดวกผ่านข้อมือ
อีกหนึ่งฟีเจอร์สุดว้าวของ watchOS 11 เลยก็คือ แอปแปลภาษาบน Apple Watch นี่แหละ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยใหม่ให้เราสื่อสารกับเพื่อนได้อย่างสะดวก รองรับ 20 ภาษา โดยฟีเจอร์นี้อยู่ในฟีเจอร์วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ หมายความว่า หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้งาน วิดเจ็ตก็จะขึ้นแอปแปลภาษาให้อัตโนมัติ นอกจากนี้ยังถอดคำเป็นอักษรโรมัน และออกเสียงในภาษาต่าง ๆ โดยใช้อักษรละตินได้ด้วย
Double Tab สั่งงานด้วยท่าทาง รองรับแอปมากขึ้น
สั่งงานด้วยท่าทางด้วยการแตะนิ้วสองครั้งติดกัน เป็นฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้คอนโทรล Apple Watch ได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ในกรณีที่เราติดภารกิจด่วน มือไม่ว่างจริง ๆ ซึ่งได้รองรับแอปที่หลากหลายขึ้น ทั้งข้อความ ปฏิทิน หรือสภาพอากาศ เป็นต้น
ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- แอปออกกำลังกายที่มาพร้อมการติดตามตำแหน่งระยะทางผ่าน GPS ได้ดีมากขึ้น
- เพิ่มฟีเจอร์การออกกำลังกายประเภทว่ายน้ำ
- Apple Maps การใช้งานแผนที่ได้แม้จะออฟไลน์อยู่
- Apple Intelligence ใช้แจ้งเตือน
- แสดงข้อมูลตั๋วการแสดงต่าง ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ผ่านวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ
- Apple Pay – แตะจ่ายผ่านข้อมือ หรือส่งเงินให้กันได้ผ่านอีกเครื่อง
Apple Watch รุ่นที่รองรับ WatchOS 11
- Apple Watch SE Gen2
- Apple Watch Series 6
- Apple Watch Series 7
- Apple Watch Series 8
- Apple Watch Series 9
- Apple Watch Ultra
- Apple Watch Ultra 2
Comment