หากพูดถึง Mini-PC เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึง Intel NUC กัน ด้วยขนาดที่เล็กกะทัดรัด ดีไซน์ภายนอกหน้าตาดีมีเอกลักษณ์ ราคาไม่แพง แถมประสิทธิภาพที่ได้ก็ทำออกมาได้น่าสนใจ ใช้งานได้หลากหลาย แต่ปัจจุบันทาง Intel ไม่ได้เป็นคนทำเครื่องพีซีในกลุ่มนี้แล้ว และได้ขายชื่อ NUC พร้อมเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ ASUS ไป ในช่วงปลายปีที่แล้ว
นับถึงปัจจุบัน ASUS ก็มี Mini-PC ในกลุ่มนี้ออกมาหลายรุ่นแล้ว เช่น NUC ROG คอมจิ๋วที่ออกมาแบบมาเพื่อการเล่นเกมมีการ์ดจอแยก หรือกลุ่ม NUC 14 Pro ที่เป็น Mini-PC ที่ใช้ซีพียูตระกูล Core Ultra 100 แน่นอนว่าหลังจากที่ Intel เปิดตัว Core Ultra 200V ออกมา ASUS ก็ไม่รอช้าที่จะทำ Mini-PC ที่ใช้ซีพียูรุ่นใหม่นี้ด้วยเช่นกัน
ASUS เปิดตัว Mini-PC รุ่นใหม่ในตระกูล NUC ที่ได้สานต่อจาก Intel ในชื่อ NUC 14 PRO AI ยังคงขนาดเล็กกะทัดรัดเอาไว้เหมือนเดิม โดยตัวเครื่องมีขนาด 4×4 นิ้ว ความจุ 0.6 ลิตร ด้านดีไซน์ภายนอกมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยให้มีความโค้งมน กลมมากขึ้น
ซึ่งการเปลี่ยนดีไซน์ในครั้งนี้ไม่ใช่แค่ภายนอกเพราะภายในก็มีการเปลี่ยนแปลงด้วย เพราะซีพียูรุ่นใหม่ Core Ultra 200V ได้มีการเปลี่ยนมาใช้แรมอยู่บน SoC เดียวกับตัวซีพียูแบบ LPDDR5X ทำให้ไม่ต้องมีพื้นที่สำหรับสล็อต SO-DIMM แล้ว ประหยัดพื้นที่มากขึ้น แต่ก็ทำให้ไม่สามารถอัปเกรดเพิ่มแรมในภายหลังได้ และแม้ว่าขนาดตัวเครื่องจะเล็กแค่ไหนก็ยังรองรับ SSD M.2 ขนาด 2280 รุ่นมาตรฐานเหมือนเดิม
พอร์ตการเชื่อมต่อมีมาให้แบบครบครันโดยด้านหน้าเครื่องมาพร้อมกับช่องหูฟัง 3.5, USB-A 3.0 จำนวน 2 ช่อง Thunderbolt 4 ส่วนด้านหลังมาพร้อมกับพอร์ต USB-A 3.2 10G จำนวน 2 ช่อง Thunderbolt 4, HDMI, LAN RJ45 และช่องรับไฟเลี้ยง DC
ที่น่าสนใจคือปุ่มบนตัวเครื่องที่นอกจากปุ่ม Power และปุ่มสแกนลายนิ้วมือแล้ว ยังมีปุ่ม Copilot มาให้ด้วย และสำคัญคือตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน Copilot+PC แล้ว สามารถใช้ฟีเจอร์เต็มได้ ต่างกับรุ่นก่อนหน้าที่ใช้ซีพียู Core Ultra 100 ที่ใช้ได้แค่บางฟีเจอร์เท่านั้น
ด้านความแรงมาพร้อมกับชิป Core Ultra 200V ที่มี NPU ความแรง 48 TOPS การ์ดจอ Xe2 ความแรง 67 TOPS ซึ่งถ้ารวมกำลังการประมวลผลของ CPU+GPU+NPU จะมีความแรงทั้งหมด 120 TOPS เลยทีเดียว ส่วนสเปคอื่น ๆ ด้านความแรงของ Core Ultra 200V สามารถอื่นเพิ่มได้ที่นี่ เราสรุปไว้ให้หมดแล้ว
ส่วนเรื่องอื่น ๆ ตัวเครื่องมีลำโพงและไมโครโฟนครบจบในตัว รองรับฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนด้วย AI เวลาประชุมออนไลน์ ตัวเครื่องรองรับเทคโนโลยีล่าสุดของ Intel อย่าง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4 และ Thunderbolt 4
ส่วนราคาของแต่ละรุ่นย่อย และวันวางจำหน่ายยังไม่ได้ถูกประกาศออกมาในตอนนี้ แต่ส่วนตัวคิดว่าน่าจะเปิดมาในช่วงเดียวกันกับที่โน้ตบุ๊กชิป Core Ultra 200V ลงตลาดแน่นอน
ที่มา : videocardz asus
สำคัญคือการระบายความร้อน