วันนี้เป็นวันแรกที่ Asus Zenfone 3 เริ่มวางจำหน่ายที่ไต้หวันครับ ซึ่งก็ปรากฏว่ามีเซอร์ไพรส์เล็กๆ เพราะว่ารุ่นถูกที่สุดของ Zenfone 3 ที่ประกาศในงานเปิดตัวว่าจะวางจำหน่ายในราคา 249 USD (7,990 ไต้หวันดอลล่าร์ / 8,800 บาท) นั้นมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5.2 นิ้ว โดยเป็นรหัส ZE520KL ส่วนรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว รหัส ZE552KL นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 9,990 ไต้หวันดอลล่าร์ หรือราวๆ 11,000 บาท

โดยทั้งสองรุ่นก็มีสเปคต่างกันนิดหน่อย คือหน้าจออย่างที่บอกไปตอนต้น และก็เรื่อง RAM, หน่วยความจำภายใน, ขนาดแบตเตอรี่

สเปค Zenfone 3 (ZE520KL)

  • จอ 5.2 นิ้ว Super IPS Full-HD 1080 x 1920
  • CPU Snapdragon 625 2.0GHz
  • GPU Adreno 506
  • RAM 3GB,
  • ROM 32GB
  • กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อม OIS + EIS, TriTech Auto Focus
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 2650 mAh
  • ราคาเปิดตัว 7,990 ได้หวันดอลล่าร์ (ราว 8,800 บาท)

สเปค Zenfone 3 (ZE552KL)

  • จอ 5.5 นิ้ว Super IPS Full-HD 1080 x 1920
  • CPU Snapdragon 625 2.0GHz
  • GPU Adreno 506
  • RAM 4GB,
  • ROM 64GB
  • กล้องหลัง 16 ล้านพิกเซล พร้อม OIS + EIS, TriTech Auto Focus
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ 3000 mAh
  • ราคาเปิดตัว 9,990 ได้หวันดอลล่าร์ (ราว 11,000 บาท)

ขนาดของกล่องนั้นต่างกันนิดหน่อยตามขนาดตัวเครื่อง ด้านหลังมีรายละเอียดบนสติ๊กเกอร์บอกชัดว่าเป็นรุ่นหน้าจอขนาดไหน เช่นกล่องซ้ายเป็น Zenfone 3 5.5″ (ZE552KL) ส่วนกล่องขวาเป็น Zenfone 3 5.2″ (ZE520KL)

อุปกรณ์ภายในกล่องก็ให้มาครบตามปกติ ทั้งหูฟัง 3.5, สาย USB Type C, และหม้อแปลง

รายละเอียดของหม้อแปลงที่แถมมานั้นปล่อยกระแสไฟออกมาแบบปกติคือ 5V 2.0A สำหรับ Type-C ไม่ได้มีรายละเอียดของการจ่ายไฟสำหรับชาร์จเร็วแต่อย่างใด 

กล้องหลังของ Asus Zenfone 3 ทั้ง 2 รุ่นมีสเปคเดียวกัน ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล มีระบบกันสั่น OIS ทำงานร่วมกับ EIS และเทคโนโลยี TriTech โฟกัส ช่วยให้การโฟกัสทำได้เร็วและแม่นยำมากขึ้น

ถาดซิมนั้นเป็นแบบ Hybrid ใช้เป็น micro SIM + nano SIM / micro SD ก็ต้องเลือกเอาว่าจะใช้ซิมการ์ดหรือจะเพิ่มเมมให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น ส่วนเรื่องจะรองรับ Full NetCom 3.0 หรือไม่อันนี้ต้องรอทดสอบกันอีกทีครับ

สำหรับใครที่อยากดูรูปเพิ่มเติมแนะนำไปดูได้ที่ลิงค์ต้นทางเลยครับ มีภาพ Antutu Benchmark มาด้วย

source : eprice