ธนาคารแห่งประเทศไทยหรือ “แบงค์ชาติ” และสมาคมธนาคารไทย ออกมาร่วมชี้แจงกรณีการตัดเงินปกติผ่านบัตรเครดิตและเดบิตของลูกค้าจำนวนมาก ทั้งที่ตัวถือบัตรไม่ได้ทำธุรกรรมอะไรทำนองนั้นเลย โดยในส่วนนี้แบงค์ชาติและสมาคมธนาคารไทย ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นและเร่งเข้าตรวจสอบสถานการณ์ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

ผู้เสียหายแจ้งโดนหักเงินจากบัญชี ไม่ทราบที่มา ครั้งละไม่กี่บาทแต่หลายครั้ง

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม หรือวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีการรวมตัวของผู้เสียหายจำนวนมากในกลุ่ม Facebook ร่วมกันแชร์ประสบการณ์การโดนหักเงินจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการหักผ่าน “การชำระค่าสินค้าผ่าน EDC” ครั้งละไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท แต่เป็นการดูดออกถี่ ๆ หลายครั้ง จนบางคนโดนเกลี้ยงบัญชี และโดนกันหลายธนาคาร

โดยประสบการณ์ที่มีร่วมกันของผู้เสียหายหลายเคส พบว่า หลายบัญชีที่โดนจะมีการผูกบัตรเดบิต (และบัตรเครดิต) กับแอปออนไลน์ต่าง ๆ อาทิ แอปซื้อของออนไลน์, แอปจองโรงแรม, แอปสายการเงิน หรือแอปกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ แถมเวลาในการถูกหักเงิน ยังเกิดขึ้นใกล้เคียงกันอีกด้วย

ตรงนี้ Facebook Fanpage ของ Drama-addict ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “(ยอดผู้เสียหาย)คืนน่าจะเกินสองหมื่น”

แบงค์ชาติ เร่งเข้าตรวจสอบ ยืนยันปัญหาไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร

เบื้องต้นทั้งแบงค์ชาติและสมาคมธนาคารไทย พบว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร หากเป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการรับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอปดูดเงินตามที่ปรากฎในข่าว

โดยลูกค้าที่สามารถตรวจสอบความผิดปกติของรายการธุรกรรมในบัตรเครดิตและเดบิตด้วยตัวเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเซอร์หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกิจกรรมในทันที หรือหากพบสิ่งใดผิดปกติใน Statement ของบัญชี ก็สามารถแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้เร่งตรวจสอบได้ทันทีเหมือนกัน เพื่อที่จะคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด

 

ที่มา: ไทยโพสต์ | ไทยรัฐ