หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุใดสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงจากแบรนด์ใหญ่อย่าง Apple, Samsung, Google หรือแม้แต่ OnePlus ถึงไม่ขยับขนาดแบตเตอรี่ให้ใหญ่ขึ้นเกิน 5,000 mAh ทั้งที่เทคโนโลยีในปัจจุบันก็สามารถผลิตแบตเตอรี่ความจุสูงได้แล้ว คำตอบหลัก ๆ อาจไม่ใช่เพราะข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี แต่อาจเป็นเพราะ กฎหมายควบคุมการขนส่งแบตเตอรี่ลิเธียม ในสหรัฐอเมริกา ก็เป็นได้ เราไปดูข้อสังเกตนี้กัน

โดย Ice Universe ลีกเกอร์เจ้าประจำสายมือถือ ได้ออกมาโพสต์ข้อมูลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านการขนส่งในสหรัฐอเมริกา ที่อาจจะส่งผลให้แบรนด์มือถือใหญ่ๆ ที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ อย่าง Apple, Samsung, Google, Motorola, OnePlus, Sony เป็นต้น ไม่เพิ่มความจุแบตเตอรี่ในมือถือเรือธงของตน โดยเขาระบุว่า

กฎระเบียบ : 49 CFR 173.185 ของสหรัฐฯ

ตามกฎข้อบังคับ การขนส่งแบตเตอรี่ลิเธียมทางอากาศอยู่ภายใต้ข้อบังคับหลัก คือ กฎระเบียบของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ 49 CFR 173.185 และ ข้อบังคับสินค้าต้องห้าม (DGR) ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุไว้ว่า แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนชนิดเซลล์เดี่ยว ต้องมีความจุไม่เกิน 20 Wh (วัตต์-ชั่วโมง) หากหลายเซลล์ต้องรวมไม่เกิน 100 Wh จึงจะไม่ถูกจัดเป็นวัตถุอันตราย

หากแบตเตอรี่เกิน 20 Wh ต่อเซลล์ หรือเกิน 100 Wh ต่อแบตเตอรี่รวม จะถูกจัดเป็นวัตถุอันตรายประเภท Class 9 ซึ่งต้องมีการบรรจุหีบห่อพิเศษ มีเอกสารประกอบ และมีข้อกำหนดการขนส่งที่ซับซ้อนขึ้น ทำให้ผู้ผลิตไม่ต้องการเสี่ยงเรื่องต้นทุนโลจิสติกส์และความยุ่งยากในการจัดส่ง

ตัวอย่างการคำนวณ Wh โดยใช้สูตร : Wh = (mAh × V) ÷ 1000

  • ความจุ (mAh)
  • แรงดันไฟ (V)

เปรียบเทียบแบตเตอรี่มือถือเรือธงในสหรัฐฯ (ปี 2025)

Apple

  • iPhone 16 / 16 Pro / 16 Pro Max
    • ความจุ: 3,355 – 4,702 mAh
    • แรงดัน: 3.8V
    • Wh ประมาณ: 12.75 – 17.87 Wh
    • ไม่เกินขีดจำกัด

Samsung

  • Galaxy S25 / S25+ / S25 Ultra
    • ความจุ: 4,000 – 5,000 mAh
    • แรงดัน: 3.85–3.88V
    • Wh ประมาณ: 15.4 – 19.4 Wh
    • ไม่เกินขีดจำกัด
  • Galaxy Z Fold6 / Z Flip6
    • ความจุ: 4,000 – 4,400 mAh
    • Wh ประมาณ: 15.4 – 16.94 Wh
    • ไม่เกินขีดจำกัด

Google

  • Pixel 9 / 9 Pro / 9 Pro XL
  • ความจุ: 4,700 – 5,100 mAh
  • แรงดัน: 3.85 – 3.89V
  • Wh ประมาณ : สูงสุด 19.68 Wh
  • ไม่เกินขีดจำกัด (แต่ใกล้มาก)

Motorola

  • Razr Ultra :
    • ความจุ 4,700 mAh
    • Wh ประมาณ 18.1 Wh
  • Edge 50 Ultra:
    • ความจุ 4,400 mAh
    • Wh ประมาณ 16.94 Wh
  • ทั้งสองรุ่นไม่เกินขีดจำกัด

OnePlus

  • OnePlus 13:
    • ความจุ: 6,000 mAh
    • แรงดัน: 3.87V
    • Wh ประมาณ 23.22 Wh
  • แต่ใช้ ดีไซน์แบตเตอรี่แบบสองเซลล์ (dual-cell) ทำให้แต่ละเซลล์ไม่เกิน 20 Wh
  • ผ่านเกณฑ์ได้

Sony

  • Xperia 1 VII
    • ความจุ: 5,000 mAh
    • แรงดัน: 3.85V
    • Wh ประมาณ 19.25 Wh
  • ไม่เกินขีดจำกัด

โดยเขาสรุปว่า นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงไม่เห็นมือถือที่มีแบตเตอรี่เกิน 5,000 – 5,500mAh (ที่ใช้เซลล์เดียว) กันมากนัก เว้นแต่จะใช้เทคนิค dual-cell เพื่อหลบเลี่ยงข้อจำกัดนี้ได้

ทั้งนี้ ข้อมูลนี้ ก็เป็นข้อสังเกตจากหนึ่งในผู้ที่คร่ำหวอดในวงการมือถือออกมาตั้งข้อสังเกตเท่านั้น เราก็ไม่อาจทราบได้ ว่าทางแบรนด์มีเหตุผลอะไรในการไม่เพิ่มความจุแบตเตอรี่กันแน่ เพราะแต่ละแบรนด์ก็ไม่ได้ออกมาให้ข้อมูลตรงนี้ แล้วผู้อ่านล่ะ คิดว่าเป็นเพราะเหตุผลอะไรกัน?

ที่มา : Ice Universe