Bill Gates อาจจะเป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลกของธุรกิจ หรืออาจจะพูดเต็มปากเต็มคำว่าเป็นที่หนึ่งของวงการก็คงไม่เคอะเขินอะไร แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดเลย ซึ่งเขาเองก็ได้ออกมายอมรับในงาน Village Global ว่าการปล่อยให้ Google นั้นพัฒนา Android คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลย
ความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมก็คือ.. การที่ผมบริหารบริษัท Microsoft ผิดพลาด ทำให้พวกเรานั้นไม่พัฒนาระบบปฏิบัติการมือถือขึ้นมาเอง พร้อมกับปล่อยให้ Google แย่งชิงโอกาสอันนั้นไป ทำให้ Android เกิดมาจนถึงทุกวันนี้
Bill ยังได้อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ในโลกไอทีนั้น มีพื้นที่เหลือเพียง 1 ที่เท่านั้นสำหรับระบบปฏิบัติการโทรศัพท์ที่ไม่ใช่ของ Apple เท่านั้น และ Microsoft เองก็มีโอกาสจะทำแบบนั้น แต่ว่าเขานั้นดันเลือกที่จะไม่คว้าโอกาสนั้นไว้ ซึ่งหากย้อนเวลากลับไปได้ บริษัทของเขาก็จะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นถึง 400 แสนล้านดอลลาร์เลยทีเดียว หากเขาเลือกที่จะพัฒนาระบบปฏิบัติการโทรศัพท์ขึ้นมาตอนนั้น (เข้าใจว่าตอนนั้นเอง Android ก็ยังไม่เกิด หรือไม่ก็อาจจะยังไม่ลืมตาอ้าปากได้ถึงทุกวันนี้)
แต่ถึงเช่นนั้นเอง เจ้าของบริษัท Microsoft ก็ออกมาเคลมว่าบริษัทเขาเองก็ยังแข็งแรงอยู่ แม้ว่าจะพลาดโอกาสทองอันนั้นไป เพียงแต่ว่าหากเขาคว้าโอกาสตอนนั้นมา บริษัทของเขาอาจจะเป็น “the leading company” (บริษัทชั้นนำ) แทนที่จะเป็น “a leading company” (บริษัทชั้นนำทั่วไป)
นอกจากนี้ มหาเศรษฐีวัย 63 ปีนั้นยังได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เขาต้องเสียสละในการเริ่มต้นบริษัทแรกๆ ของเขา ซึ่งตอนนั้นเขาเองทำงานหนักอย่างมาก พร้อมกับปฏิเสธที่จะหยุด พักผ่อน ให้เวลากับตัวเขาเองเลย แต่หลังจากนั้นเองเขาก็ละทิ้งความคิดดังกล่าวพร้อมกับมีทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องทำงานที่ชิวยิ่งขึ้น พักผ่อนมากขึ้นกว่าเดิม
เหมือนพออายุผมขึ้นเลข 3 ก็เหมือนว่าทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติเหมือนคนทั่วไปนะ ผมเริ่มที่จะชอบวันหยุดมากขึ้น
ในปัจจุบัน Bill Gates ถือเป็นบุคคลที่รวยที่สุดเป็นอันดับสองของโลก โดยตัวเขาเองมีมูลค่ากว่า 81,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท
ที่มา: independent.co.uk
เหรอออออออ
กุนี่ทั้งเชียร์ อวย หวัง ทั้งเพ้อ เอาใจช่วยมาตลอด ตอนที่พวกเอ็งดูไม่มีความตั้งใจเลยซักนิด และในวันที่ยังพอสู้ได้ พวกเอ็งก็เลิกล้มไปก่อนจะรู้ว่าแพ้ซ่ะอีก
ตอนนี้มาเสียดาย ก็สมควร
แต่อาจจะเป็นโชคดีของผู้ใช้งานก็ได้นะ
ต้องบอกว่าความผิดพลาด เกิดจากตัวเองผิดพลาดไม่ทำต่อเอง
ดีแหละ 🙂 🙂
มันก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะ ก่อนหน้าแอนดรอยด์ ซิมเบียนก็ครองโลกมือถืออยู่แล้ว
แล้วก็เห็นๆว่าไมโครซอฟท์พยายามออกโปรดักส์พวกพอร์ทเทเบิลออกมาหลายตัวอยู่
แต่ไปไม่รอดเอง
เล่าเเสียอย่างกับว่าไม่ได้คิดเคยทำ ของพวกนี้มันก็มีอรุณรุ่งมีอัสดง ไปตามวัฏจักร
โชคดีของ user ละ
ตอนนี้จะปล่อยวินโดวส์ให้ใช้ฟรีจริง ๆ ก็ไม่กล้าละ ได้แต่ปล่อยฟรีแบบแถ ๆ ทดลองใช้กันไปยาวๆๆๆๆๆๆ เรื่อย ๆ ไร้กำหนด เพราะตัวเองไม่มีโปรดักส์หรือบริการอะไรเลยที่จะมาสูบเงินคนใช้ถ้าปล่อยฟรี ยังต้องพึ่งรายได้จากการขายซอฟต์แวร์ของตัวเองไปเรื่อย ๆ
ลุง บิล ครับ
1. Plam OS จอขาวดำ ของ บ. ปาล์มซอร์ทอิงค์
2. Pocket PC จอสี OS ของ ลุงเอง และ HP ผลิตเครื่อง ( Rom 32 MB Cpu 400 MHz)
3. Black Berry ( 8520 Cpu 512 Mhz )
4. iPhone มา เป็นเบอร์ 1
5. Andriod v2 เลียนแบบ iPhone
คือ ลุง ไปแพ้ ตั้งแต่ สมัย Black berry แล้ว..คร้าบ โธ่ !!!
Microsoft แพ้ Android จริงๆ ไม่ใช่แค่มาบอกว่า เลือกที่จะไม่คว้าโอกาส
android เขากล้าพี่จะทำ software free แล้วค่อยหาเงินจากช่องทางอื่น
แต่ Microsoft ไม่กล้าที่จะทำอะไรให้ใช้งานฟรีๆเลย คิดแต่ชองทางเก็บเงิน ก็เลยแพ้ไป
นั่นแหละครับ จุดตายของ Microsoft คือคุ้นเคยกับการตลาดยุค 80-90 ที่ขายของให้คนไปซื้อ
พอมาเจอการตลาดยุคใหม่ที่เน้นฟรีหมด แล้วหากินกับการขาย data base หากินกับโฆษนา
ขายฮาร์ดแวร์พ่วงซอฟท์แวร์ ตัวเองก็ตามไม่ทัน
แล้วมาแก้เก้อว่า ที่แพ้เพราะไม่ได้ทำนะ ทั้งที่จริงก็เห็นๆอยู่ว่าทำแล้ว สู้แล้วแต่แพ้เอง เพราะยังเดิน
เกมแบบเก่าที่ตนเองถนัด คิดว่าเป็นสูตรอมตะอยู่
แต่ก้ยังยอมรับเขาว่างานด้านสายเอางาน สายจริงจัง ระบบฐาน PC x86 มันก็ยังต้องใช้กันอยู่
แต่งานสายแคชชวลอุปกรณ์พกพาที่กำลังเป็น MegaTrend ไมโครซอฟท์เสียพื้นที่การค้าไปหมดแล้ว